ในขณะที่ไอลินกำลังนั่งวุ่นอยู่กับเรียนรู้เอกสารกองโตบนโต๊ะ พร้อมทั้งฟังคำอธิบายงานจากที่พี่ ๆ ในแผนกอยู่นั้น กิตก็เดินเข้ามาหาเธอ พร้อมกับเอ่ยเรียกเธอไปพบเจ้านายอีกครั้ง
“เรียกหาลิน มีอะไรเหรอคะ?” ไอลินเดินเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของเจ้านาย ภายในห้องรายล้อมไปด้วยบรรยากาศเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศ
“ไปชงกาแฟให้ฉัน อเมริกาโน่ไม่หวาน” ธาวินเอ่ยขึ้นพร้อมกับเลื่อนมือหนาเปิดเอกสารทางธุรกิจตรงหน้า โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว
“ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
“สิบนาที” หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเวลาที่อีกฝ่ายกำหนด ระยะทางจากห้องทำงานไปห้องชงกาแฟก็อยู่ตั้งไกล เธอจะเดินกลับมาให้ทันในเวลาเท่านั้นได้อย่างไรกัน
“มีปัญหา?” สายตาคมกริบเปรยขึ้นมาจ้องมองเพียงเสี้ยววินาที ทำให้ใจของเธอสั่นวูบวาบ
“มะ...ไม่มีค่ะ ลินจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” ไอลินหันกลับมา รีบเร่งฝีเท้าออกจากห้อง ก่อนจะปรี่ตรงไปชงกาแฟอย่างไม่รอช้า
ทันทีที่มาถึงห้องชงกาแฟ หญิงรีบควานหาแก้วกาแฟอยู่ก่อนจะรีบกดน้ำร้อนลงแก้ว ใส่ผงกาแฟ พรีเมี่ยม ในมือก่อนจะค่อย ๆ คนกาแฟ จู่ ๆ ในใจก็นึกถึงเขาขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“เขาคงจำเราไม่ได้หรอกมั้ง” หญิงสาวได้แต่คิดแล้วยักไหล่ไปหนึ่งที นึกถึงตอนที่เธอเคยสารภาพรักเขาแต่มันก็นานมากแล้ว เขาคงจำเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมสาว ๆ ก็ชอบเขาเยอะแยะ คนธรรมดาอย่างเธอคงจะไม่สำคัญให้เขาจดจำได้ ไอลินยืนเหม่อไปชั่วขณะ โดยไม่ทันสังเกตเห็นพนักงานที่เข้ามายืนอยู่ข้างหลังเธอ
“พนักงานใหม่เหรอ?”
“อ๊ะ สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ หนูชื่อไอลินค่ะ” ไอลินยิ้มรับเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ก้มตัวลงเก็บโหลแก้วและอุปกรณ์ชงกาแฟใส่ตู้ให้เรียบร้อย “กรี๊ด!”
ขณะนั้นน้ำร้อนจากแก้วกาแฟของพนักงานคนนั้นก็หกรดเลอะตรงหน้าอกเธอ ความร้อนเริ่มรบกวนผิวหนังเธอ จนรู้สึกแสบร้อนอย่างแรง
“อ๊ะ!? อุ๊ยพี่ขอโทษนะคะ พี่ไม่ได้ตั้งใจค่ะ” เสียงพนักงานสาวเอ่ยขอโทษ ในขณะที่หญิงสาวในชุดนักศึกษายืนสั่นด้วยความตกใจ ทั้งรู้สึกปวดร้อน ทั้งเสื้อสีขาวบริเวณนั้นเลอะเป็นคราบ ผิวของเธอรู้สึกแสบวูบอยู่ด้านใน
“มะ…ไม่เป็นไรค่ะ”
“พี่ขอโทษจริง ๆ นะคะ อย่าถือสาพี่เลยนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ” หญิงตรงหน้าพูดขอโทษอีกครั้ง แต่แววตาและสีหน้าของพนักงานคนนั้นกลับแฝงความสะใจเอาไว้ ไอลินเลยรู้ว่านี่เป็นการกลั่นแกล้ง เธอได้แต่จดจำไว้ในใจ ไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงอะไรตอนนี้ เพราะเธอมีเวลาแค่สิบนาทีเท่านั้น
หญิงสาวรีบเดินกลับมาที่ห้องของเจ้านายหนุ่มพร้อมกาแฟในมือ คำสั่งของเขาทำให้เธอลืมความแสบร้อนระคายผิวที่โดนกาแฟหกใส่จนหมด
“มาแล้วค่ะคุณธาวิน ขออภัยที่มาช้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหอบเหนื่อย
“…” ไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมาจากใบหน้าเรียบเฉย ก่อนที่เขาจะเพ่งสายตาอันดุดันไปที่ยังรอยเลอะสีน้ำตาลบนหน้าอกเสื้อของเธอ
“อะ…เอ่อ…คือ…”
“…” ธาวินยังคงเงียบ พลางเลื่อนสายตาขึ้นไปจ้องมองใบหน้าเธอ อย่างต้องการคำอธิบาย
“คือลิน…อ๊ะ!”
ควับ!
ยังไม่ทันที่ไอลินจะพูดอะไรต่อ ร่างแกร่งหยัดกายขึ้นจากโต๊ะทำงาน พร้อมเอื้อมมือหนาจับเข้าที่ข้อมือเรียวของสาวตรงหน้าไว้ เขาไม่แสดงสีหน้าใด ๆ นอกจากความเย็นชาที่ส่งผ่านรอบตัวเขา ทั้งสายตาคมกริบที่มองทะลุเข้ามาในตาเธอ ชายหนุ่มดึงแขนเธอออกไป หญิงสาวเดินตามโดยไม่พูดอะไรต่อ
แกร๊ก
ธาวินดึงแขนหญิงสาวไปยังห้องส่วนตัวซึ่งอยู่ด้านหลังเยื้องบริเวณโต๊ะของเขาไป เบื้องหลังประตูเผยให้เห็นว่าห้องส่วนตัวสุดหรูของเจ้าของบริษัท ห้องนี้เป็นห้องลับที่ไม่ว่าใครก็เข้ามาไม่ได้ นอกจากเขาจะอนุญาต
“ถอดเสื้อ” เสียงเรียบเย็นเฉีบเอ่ยขึ้น ทำเอาไอลินผงะถอยหลังไปสองก้าว
ควับ!
“อ๊ะ…คะ คุณธาวินจะทำอะไรคะ” ไอลินพูดเสียงหลง หลังจากมือเรียวถูกคว้าไว้ ก่อนที่เธอจะได้ก้าวขาออกไปไหน “คุณปล่อยลินนะคะ”
แคว๊ก!!!
“กรี๊ดดดดด” เสื้อเชิ้ตขาวตัวบางรัดรูปถูกกระชากออกอย่างแรง จนเม็ดกระดุมหลุดตัวผ้าขาดกระจุย “คุณธาวินหยุดนะ”
“เงียบซะ ถ้าไม่อยากตายอยู่ในนี้” สายตาคมกริบจ้องเข้ามาในดวงตาคู่สวยอย่างเยือกเย็น ก่อนจะเปิดลิ้นชักข้าง ๆ และหยิบสิ่งหนึ่งออกมา
“…” หญิงสาวเบิกตาโพลง ทันทีที่ชายหนุ่มหยิบปืนสีดำวางไว้บนโต๊ะ
“ห้องนี้เก็บเสียง…” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวลง ก่อนจะกระซิบข้างหูของไอลินที่ยืนนิ่งราวกับถูกสะกด สายคมกริบกวาดมองรอบ ๆ ตัวเธอ ก่อนจะเพ่งไปยังรอยแดงบนเนินอกขาวนวล “แต่ต่อให้ไม่เก็บเสียงหรือมีคนได้ยินเธอ ก็ไม่มีใครทำอะไรฉันได้”
“ฮึก” เสียงสะอื้นเบา ๆ สั่นกลัวดังขึ้นจากลำคอของไอลินพร้อมแววตาสั่นระริกด้วยความกลัว
“อยู่เฉย ๆ …”
เขาเลื่อนใบหน้าลงมาใกล้เนินอกหญิงสาว สายตาจ้องมอง ผิวแดงระเรื่อ ก่อนจะเหลือบสายตาขึ้นมองเธออย่างเย็นเยือก
“ไปอาบน้ำให้เรียบร้อย”
“…”
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำนะ” แววตาคมกริบมองมาที่ไอลินอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะสะดุ้งได้สติ
“คะ…ค่ะ” ไอลินเม้มปากแน่น ทำไมเธอต้องไปอาบน้ำกันนะ อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเธอออกมาจากห้องน้ำ แล้วจะเจออะไร ตอนนี้มีแต่คำถาม ความกังวลเยอะแยะไปหมด จิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย
“เอามานี่” ชายหนุ่มกระชากโทรศัพท์มือถือออกจากมือของเธอ “รีบ ๆ ไป ก่อนฉันจะหมดความอดทน”
ไอลินรีบหันหนีไปทางห้องน้ำทันที เธอรู้สึกว่าสายตาของคนตรงหน้าช่างน่ากลัวและสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิด
ที่น้ำใสเคยบอกว่าเบื้องหลังของตระกูลนี้เป็นผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียก็น่าจะจริงสินะ แต่เธอยังไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลย เขาไม่น่าทำกับเธอขนาดนี้ พี่ธาวินที่เธอเคยแอบชอบเป็นคนน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ ถ้ารู้แบบนี้ เธอขอไม่ยุ่งกับเขาตั้งแต่ตอนนั้นซะจะยังดีกว่า
หลังจากทำความสะอาดร่างกายเสร็จ หญิงสาวร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำ ก็ค่อย ๆ เดินออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ สายตาเหลือบมองขึ้น ก็เห็นชายหนุ่มยืนรอเธออยู่แล้ว
“ทาซะ” เขาพูดพลางโยนถุงพลาสติกใส่หลอดยาขนาดเล็กที่เพิ่งซื้อลงบนเตียงด้านหน้า ก่อนจะเอ่ยต่อ “ใครทำ?”
“…” ไอลินงุนงงกับคำถาม เธอเพิ่งรู้ว่าเขาซื้อยามาให้เธอ “คุณซื้อมาให้ลินเหรอคะ?”
“…” ไม่มีคำตอบจากเขา ร่างแกร่งเดินไปที่ประตูของห้อง ขณะที่กำลังก้าวผ่านประตูไป เขาก็หันหลังกลับมามองเธอด้วยสายตาคมกริบ และเผยน้ำเสียงดุดันที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน “เธอไม่บอกก็เรื่องของเธอ เพราะฉันมีวิธีจัดการเอง”
สิ้นเสียงปิดประตู ไอลินสะดุ้งตัวโยน เธองุนงงและสับสนกับสถานการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายก็หยิบยามาทาอย่างที่เขาสั่ง ก่อนจะเหลือบไปเห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวใหม่เอี่ยมที่วางอยู่ใกล้ ๆ กัน
“นี่ซื้อมาให้ฉันใหม่เหรอ?” เธอพลิกไปมาก่อนจะเดินไปยังหน้ากระจก ทาบเสื้อลงกับตัว นี่มันขนาดพอดีตัวเธอจริง ๆ นั่นแหละ งั้นก็ใส่ตัวนี้ไปล่ะกัน
“เธอใช่ไหม?”
“คะ? …” เสียงสั่นเครือของสาวอายุยี่สิบปลาย ๆ เอ่ยขึ้น พร้อมน้ำตาที่เอ่อล้นเพราะความกลัว
ชายหนุ่มมาเฟียร่างสูงราวกับนายแบบในชุดสูทสีดำสนิทยืนมองออกไปนอกกระจก เอ่ยถามคำถาม พลางชายตาหันมองหน้าพนักงานหญิงคนหนึ่งเพียงเล็กน้อย ก่อนจะแค่นหัวเราะเยือกเย็นในลำคออย่างน่าขนลุก
แกร๊ก!
“จะพูดหรือไม่พูด!?” มือขวาคนสนิทเดินเข้ามายกปืนขึ้นจ่อหญิงตรงหน้าในทันที
“กรี๊ดดด!”
“ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำ ๆ นะ เธอทำงานที่นี่มาหลายปี น่าจะรู้ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง” ธาวินเอ่ยเสียงเรียบขณะยังมองไปนอกกระจก หญิงสาวทรุดตัวลงกับพื้นอย่างแรง น้ำตาพรั่งพรูออกมาด้วยความกลัวอย่างสุดขีด
“ฉันขอโทษค่ะท่านประธาน ฉันไม่ได้ตั้งใจแกล้งน้องไอลิน มันเป็นอุบัติเหตุค่ะ…กะ…กรี๊ด!!”
“ถ้ายังกล้าโกหกก็เตรียมตัวตายซะ!” จู่ ๆ มาเฟียหนุ่มก็คว้าปืนในมือของคนสนิทมาจ่อเข้าใกล้ที่ขมับของหญิงตรงหน้าในระยะเผาขน สายตาเขาเพ่งจองหญิงที่นั่งตัวสั่นอยู่บนพื้นอย่างไร้ความรู้สึก
“ฉันยอมรับแล้วค่ะ ท่านประธาน ฉันผิดที่ทำกาแฟหกใส่ไอลินค่ะ ฉันผิดไปแล้วค่ะ ยกโทษให้ฉันด้วยค่ะ ฮือ…” เสียงขอร้องอ้อนวอนและยอมรับผิดดังขึ้นอย่างรีบร้อน แต่การที่เธอคร่ำครวญไป ก็ไม่ทำให้เขาสะทกสะท้านแม้แต่น้อย สายตาคมกริบบ่งบอกว่าสามารถยิงคนตรงหน้าทิ้งได้ทันทีโดยไม่รู้สึกอะไร
“โปรดไว้ชีวิตฉันด้วยนะคะ ฮือออ”
แกร๊ก
เสียงประตูห้องส่วนตัวด้านหลังถูกเปิดออกสาวร่างบางในชุดนักศึกษา ใบหน้าเรียวสวยมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจ มันเป็นปืนแบบเดียวกับในห้องเขาเลย
“น้องไอลิน พี่ขอโทษค่ะ พี่ไม่ได้ตั้งใจแกล้งน้อง วะ…ไว้ชีวิตพี่ด้วยนะคะ” พนักงานหญิงขอร้องอ้อนวอนสาวน้อยที่เพิ่งเดินออกมา มีเพียงเธอเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตเธอจากมาเฟียหนุ่มได้
“คุณธาวิน มันเป็นอุบัติเหตุค่ะ พี่เขาไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ” ชายหนุ่มร่างสูงตวัดสายตาคมมองมาที่ไอลินอย่างไม่สบอารมณ์ หญิงสาวไม่รอช้ารีบเข้าไปพยุงพนักงานที่ร้องคร่ำครวญตรงหน้า ถึงหล่อนจะแกล้งเธอ เขาก็ไม่น่าจะทำกันขนาดนี้
ธาวินยอมลดปืนลงอย่างอัตโนมัติ เมื่อเห็นไอลินเข้ามาอยู่ในระยะยิง เขาเดินหันหลังกลับมาที่โต๊ะแล้ววางปืนลงเหมือนมันเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง
“ไล่ออก!” วิสกี้หรูถูกกระดกเข้าปากอึกใหญ่ “หรืออยากจะตายอยู่ตรงนี้?”
“คะ…ค่ะ…ฉันขอลาออกค่ะ ขะ…ขอบคุณท่านประธานที่ไว้ชีวิตค่ะ”
“อย่าให้เห็นว่ากล้ามาวุ่นวายกับคนหรือสิ่งของ ๆ ฉัน น่าจะรู้ว่ามันจะส่งผลยังไงกับชีวิตเธอได้บ้าง” คำพูดเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ แต่ทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่ในห้องเสียวสันหลังวาบไม่น้อย
หญิงพนักงานที่กลั่นแกล้งไอลินรีบพาร่างของตัวเองผลุนผลันออกจากบริษัทแห่งนี้ไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะไม่เหลือแม้แต่ลมหายใจ ไอลินยืนมองอยู่อย่างไม่เชื่อสายตาในความโหดร้ายและเด็ดขาดของ ธาวิน ตอนนี้เธอเองก็อยู่ในเขตอันตรายแล้วสินะ