บทที่ 3 มีแฟนหรือยัง

1787 คำ
บทที่ 3 มีแฟนหรือยัง วันต่อมา ทั้งสองมาทำงานตามปกติ หลังจากเลน็อกซ์เข้าห้องไปสักพักหนึ่งแล้ว เฌอลินน์ก็ตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องของเลน็อกซ์ คนด้านในขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ เพราะเขาได้ออกคำสั่งอย่างชัดเจนว่าห้ามใครมารบกวนในเวลาที่เขาทำงาน หวังว่าคนที่มาเคาะประตูจะมีธุระด่วนมากพอที่มารบกวนเขา “ท่านประธานคะ” เสียงหวานดังขึ้นด้วยความประหม่า คนตัวเล็กเหลือบสายตามองเจมส์ที่ยืนเฝ้าหน้าห้องตลอดอย่างขอความช่วยเหลือ เมื่อคนด้านในไม่ได้ตอบอะไรออกมา “เฌอลินน์เองค่ะ ฉันขอเข้าไปสักครู่ได้มั้ยคะ?” ด้านในยังคงเงียบ จนเฌอลินน์เริ่มรู้สึกไม่ดี เพราะเมื่อวานเธอได้ก่อเรื่องเอาไว้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุก็ตาม แต่ก็กลัวว่าจะทำให้ประธานหนุ่มไม่พอใจ หญิงสาวจึงกระซิบขอความช่วยเหลือจากเจมส์ หลังจากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานฟัง เจมส์ก็สงสารเธออยู่ไม่น้อย เพราะรู้ดีว่าเจ้านายของตัวเองนั้นเป็นโรคเกลียดผู้หญิง ซึ่งเรื่องนี้คนทั่วไปไม่รู้ แต่พวกเขารับรู้ในรูปแบบอื่นแทนนั่นก็คือการที่เลน็อกซ์เกลียดผู้หญิง ไม่ได้เป็นโรค “พี่เจมส์ ช่วยหน่อยสิคะ” “…เข้ามา” ทั้งสองชะงัก ก่อนที่เจมส์จะพยักเพยิดหน้าส่งสัญญาณให้คนตัวเล็กเข้าไป เฌอลินน์สูดหายใจเข้าปอดอยู่สองสามรอบเพื่อลดอาการประหม่า แล้วค่อยต่อว่า… “ขออนุญาตนะคะ” จากนั้นมือเรียวขาวก็เปิดประตูเข้าไป เลน็อกซ์ยังคงก้มหน้าทำงานบนโต๊ะเหมือนอย่างทุกวัน เป็นภาพที่เห็นจนชินตาไปแล้ว ทว่าไม่รู้ทำไมเครื่องปรับอากาศในวันนี้มันถึงได้เย็นปกติจนเฌอลินน์รู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูก ยิ่งอีกฝ่ายเหลือบสายตาดุๆ ขึ้นมอง เฌอลินน์ก็ท่องบทสวดแผ่เมตตาให้ตัวเองเพื่อให้รอดพ้นวิกฤตนี้เสียแล้ว …ใจเย็นๆ มันเป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ท่านประธานเป็นคนมีเหตุผลจะต้องเข้าใจฉันแน่ๆ… “มีอะไร?” ชายหนุ่มละจากเอกสารตรงหน้า ประสานมือเข้าใต้คางแล้วจ้องนัยน์ตาดุดันมองมาที่คนตัวเล็กนิ่ง เฌอลินน์เดินไปหาแล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างสำนึกผิด “ละ ลินน์ เอ่อ ฉันขอโทษเรื่องเมื่อวานด้วยนะคะ” จากนั้นคนตัวเล็กก็ยื่นถุงพลาสติกแบรนด์เนมไปตรงหน้าของชายหนุ่ม ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่เลน็อกซ์ใส่อยู่เป็นประจำ และ… เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่แพงเกินกว่าคนธรรมดาจะซื้อใส่ “นี่เป็นเสื้อแบบเดียวกับตัวเมื่อวานค่ะ” แต่เลน็อกซ์กลับไม่ยอมรับโดยง่าย แม้ว่าเธอไม่ได้เงยหน้ามองเขาแต่กลับรับรู้ได้ถึงสายตาที่จดจ้องมา มันทำให้หญิงสาวตัวแข็งเป็นหินด้วยความประหม่า “ฉะ ฉันไม่ได้คิดว่าท่านประธานจะซื้อเสื้อแบบนี้ไม่ได้นะคะ เพียงแต่ว่าฉันรู้สึกผิด และอยากรับผิดชอบ…” เธอดึงมือที่ยื่นของให้กลับมา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมรับไปเสียที …จบเห่แล้วชีวิตฉัน… “เฌอลินน์” “คะ! ค่ะ!” คนตัวเล็กสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย เตรียมพร้อมรับคำสั่ง ท่าทางนั้นทำให้มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเล็กน้อย เกิดเป็นรอยยิ้มเล็กๆ ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ปฏิกิริยาของเธอมันช่างทำให้เขารู้สึก…สนใจ อยากมองอีกเรื่อยๆ “เธอมีพี่น้องหรือเปล่า?” “มีค่ะ” “มี? แต่ในข้อมูลสมัครงานไม่มีนี่?” “อ้อ แม่ของฉันเพิ่งท้องได้สองเดือนเองค่ะ” เธอเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทั้งๆ ที่เมื่อครู่ยังประหม่าจนตัวแข็งทื่ออยู่เลย ท่าทางที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างง่ายดายแบบนี้ มันทำให้เขาอยากมองเธออีกเรื่อยๆ “ไม่มีพี่ชาย?” “ไม่มีค่ะ สองเดือนก่อนหน้านี้เป็นลูกสาวคนเดียวค่ะ” “แฟนล่ะ” “คะ?” ดวงตากลมกะพริบปริบๆ พลางเอียงคอด้วยความสงสัยกับคำถามที่ไม่ทันตั้งตัว “มีแฟนหรือยัง?” …เขาถามทำไมนะ มันเกี่ยวกับเรื่องงานด้วยเหรอ?... เฌอลินน์คิดด้วยความแปลกใจ เพราะโดยปกติแล้วถ้าหากไม่ใช่เรื่องของงาน เลน็อกซ์จะไม่ถามแล้วพูดคุยเรื่องส่วนตัวเลย แม้แต่คำทักทายง่ายๆ ก็ยังไม่มี แต่ถึงอย่างนั้นในสถานการณ์แบบนี้เธอก็ต้องตอบไปก่อนเพื่อเอาตัวรอด “ยังไม่มีค่ะ” “ยัง?” “ค่ะ ตอนนี้มีคนที่คุยๆ ด้วยอยู่ค่ะ” “ไม่ใช่แฟน?” “ค่ะ ยังไม่ใช่แฟน แต่ถึงฉันมีแฟนท่านประธานก็ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะคะ ฉันจะไม่ให้เรื่องานกับเรื่องส่วนตัวมาปนกันเด็ดขาด” หญิงสาวเอ่ยอย่างมาดมั่น เพราะงานดีเงินดีแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เพียงแต่ต้องอดทนกับเจ้านายเย็นชาเสียหน่อย และเธอก็อดทนมาได้ถึงสองปีแล้ว ให้อดทนไปอีกสิบปีก็ยังไหว “ไม่มีแฟนสินะ” ชายหนุ่มพึมพำเสียงเบาพร้อมกับมุมปากที่ยกขึ้นเรื่อยๆ จนเฌอลินน์สังเกตเห็น …ท่านประธานยิ้มเหรอ? ไม่ค่อยเห็นเลย ถ้ายิ้มกว้างๆ กว่านี้หน้าดุๆ จะดูใจดีขึ้นหรือเปล่านะ?... เลน็อกซ์ยื่นมือออกไป เฌอลินน์จึงยิ้มกว้างแล้วส่งมอบของขวัญแทนคำขอโทษให้กับชายหนุ่ม โดยระมัดระวังไม่ให้สัมผัสโดนฝ่ามือของอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้สัมผัสกับตัวเอง แต่จากข่าวลือก็ทำให้เธอไม่อยากเจอกับตัวเอง ที่ว่าเลน็อกซ์สะบัดมือทิ้งทันทีและไล่พนักงานคนนั้นออกที่ใจกล้าขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกับประธาน จนเกิดอุบัติเหตุเผลอสัมผัสโดนแขนเสื้อเพียงเล็กน้อย ทว่า… หมับ! “…!!” ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อรู้สึกได้ถึงความอุ่นเล็กน้อยจากฝ่ามือที่อยู่ดีๆ ก็คว้ามือของเธอเอาไว้ จากนั้นก็ออกแรงดึงอย่างแรงจนร่างบอบบางเสียหลักล้มไปข้างหน้า คล้ายกับเดจาวู พลันเหตุการณ์เมื่อวานฉายซ้อนทับแต่คราวนี้เฌอลินน์จะไม่ยอมให้มันซ้ำรอยเดิมอีกเด็ดขาด! มือเล็กยื่นออกไปดันแผงอกกว้างเอาไว้ก่อนที่จะเกินเลยไปมากกว่านี้ โชคดีที่เฌอลินน์หยุดเหตุการณ์นี้ได้ทัน ทว่าเอวบางกลับถูกฝ่ามือหนารั้งจนร่างบอบบางเกยอยู่บนตักแกร่ง มือใหญ่อีกข้างวางอยู่บนท้ายทอยเล็กแล้วออกแรงรั้งให้อีกฝ่ายทาบทับริมฝีปากลงบนปากของตัวเอง “…!!” หากตาของเฌอลินน์ถลนออกมาได้ มันคงหลุดออกมานอกเบ้าแล้ว ไม่เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสกันแนบแน่นจนไร้ช่องว่างให้อากาศลอดผ่าน แต่อีกฝ่ายกลับเริ่มขยับริมฝีปากบดเคล้ากลีบปากของคนตัวเล็กด้วย! เมื่อได้สติเฌอลินน์จึงรีบดันแผงอกกว้างออก ทว่าเลน็อกซ์กลับไม่ยอมปล่อยแต่โดยดี ยิ่งเธอดิ้นเขายิ่งโอบกระชับอ้อมแขนจนร่างกายแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิม ทรวงอกอวบอิ่มบดเบียดอยู่ชิดกับแผงอกกว้าง ดวงตาสบประสานสายตา เรียวลิ้นที่พยายามสอดเข้าสู่โพรงปากหวาน แต่กลับถูกสาวเจ้าตัวปิดปากแน่น มือหนารั้งท้ายทอยและกดใบหน้าแนบชิด แต่เฌอลินน์กลับต่อต้านสุดกำลัง ในตอนนั้นเองร่างบอบบางถูกยกขึ้นให้นั่งบนโต๊ะโดยมีร่างของชายหนุ่มตามมาติดๆ ข้าวของบนโต๊ะบางส่วนจึงตกลงสู่พื้น ในขณะเดียวกันนั้นริมฝีปากของเฌอลินน์เป็นอิสระ เธอเปิดปากร้องออกมา “ท่านประธานคะ…!” แต่แล้วเสียงนั้นก็ถูกกลืนกินลงลำคอไปโดยริมฝีปากหยักของชายหนุ่ม เลน็อกซ์กระโจนเข้าหาเฌอลินน์แล้วกดร่างบอบบางลงบนโต๊ะ ถือโอกาสที่อีกฝ่ายตกใจสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานฉ่ำ เกี่ยวกระหวัดชอกชอนสำรวจไปทั่ว ฝ่ามือหนาจับเรียวขาข้างหนึ่งยกขึ้นเกี่ยวที่เอวสอบของตัวเอง จนรองเท้าส้นสูงสีขาวหลุดออกจากเท้าน้อยๆ แล้วสอดมือบีบเค้นที่ขาอ่อนของหญิงสาว ตอนนั้นเองที่ประตูเปิดออกเพราะเจมส์ได้ยินเสียงราวกับกำลังเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เขากลัวว่าจะเกิดการใช้ความรุนแรงกันขึ้น ทว่าเมื่อเข้ามาก็ได้เห็นฉากเร่าร้อน อีกทั้งนัยน์ตาคมดุดันที่มองเขาอย่างคาดโทษ ทำให้เจมส์รีบปิดประตูลงทันที “อื้อ!” คนตัวเล็กทุบแผงอกกว้าง พยายามร้องประท้วง ขาเรียวเองก็ไม่ได้อยู่เฉยพยายามดีดดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่ยิ่งดิ้น อิสระของเธอก็ยิ่งถูกจำกัดมากขึ้น เรียวลิ้นร้อนที่รุกล้ำโพรงปากของเธอราวกับเป็นพื้นที่ของเขามัน ทำให้เธอรู้สึกวาบหวามอย่างช่วยไม่ได้ ลิ้นนุ่มนิ่มหลีกหนีแต่ยิ่งต่อต้านอีกฝ่ายก็ยิ่งจูบเธออย่างหนักหน่วง ริมฝีปากหยักที่อ่อนนุ่มแต่กลับให้สัมผัสที่ดุดันเหลือเกิน “เฮือก!” เมื่อริมฝีปากเป็นอิสระหญิงสาวก็หันหน้าหนี เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะบดเคล้าริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวราวกับไปวิ่งมาราธอน ก่อนจะเหลือบสายตามองคนตรงหน้า ทว่าเธอคิดผิดที่ทำอย่างนั้น เธอเผลอสบตาเข้ากับเขาและเห็นว่าอีกฝ่ายจงใจแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ท่าทางราวกับหมาป่ากำลังเตรียมขย้ำเหยื่ออันโอชะ เฌอลินน์ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับสถานการณ์ในตอนนี้ เธออยากจะเป็นลมไปเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด! แต่เผอิญว่าเธอเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงเกินไป ถึงแม้ว่าจูบของประธานหนุ่มจะดุเดือดและเร่าร้อนมากแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเป็นลมง่ายๆ เลน็อกซ์ถอยห่างจากตัวเธอเล็กน้อย นั่นทำให้เฌอลินน์รีบลุกขึ้นทว่าอีกฝ่ายกลับโน้มตัวเข้ามา วางมือลงบนโต๊ะโดยที่ใบหน้าเกือบแนบชิดกับเธอ เฌอลินน์รับรู้ได้ถึงลมหายใจอ่อนๆ ที่รินรดอยู่ที่ปลายจมูก “ขอบคุณสำหรับเสื้อ และ… จูบด้วย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม