บทที่ 2
ลิปสติกบนเสื้อ
มีความลับหนึ่งที่นอกจากคนสนิทแล้วก็ไม่มีใครรู้มาก่อน เลน็อกซ์ซึ่งได้ชื่อว่าเกลียดผู้หญิงเข้าใส้ แต่หากเป็นคนมีความสามารถในการทำงานเขาก็สามารถแยกแยะมัน เพียงแต่ห้ามโดยเด็ดขาดที่จะสัมผัสร่างกายของเขา เพราะเขาเป็นโรคประหลาดที่รังเกียจสัมผัสของผู้หญิง แต่เขาก็ไม่คิดเข้ารับการรักษาอย่างเนื่อง เพราะคิดว่าไม่จำเป็น การใช้ชีวิตโดยรังเกียจผู้หญิงก็ไม่ได้แย่ มันกลับสงบสุขเสียด้วยซ้ำ
วันต่อมาทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ ทว่าเลน็อกซ์ที่ไปทำงานกลับเจอเฌอลินน์ที่มาเช้ากว่าเขาเป็นประจำ
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน” เธอยังคงทักทายเขาด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม ท่าทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โดยปกติแล้วเขาจะเดินเข้าห้องไปโดยไม่ทักทายใคร วันนี้ก็คล้ายกับทุกวัน แต่ต่างกันตรงที่ชายหนุ่มออกคำสั่งเสียงเรียบ ราวกับไม่ได้พูดกับเธอ
“เอากาแฟไปให้ฉันในห้องด้วย”
เฌอลินน์กะพริบตาปริบๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินผิดหรือไม่ ปกติหากไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน เฌอลินน์ถูกสั่งห้ามเข้าห้องประธานโดยเด็ดขาด แต่หากไม่ได้สั่งเธอแล้วจะสั่งใคร ในเมื่ออยู่ที่นี่ก็มีเพียงเจมส์ บอดี้การ์ดที่ตามติดเลน็อกซ์ตลอดและตัวเธอที่เป็นเลขา ซึ่งปกติแล้วงานจิปาถะอย่างเช่นชงกาแฟก็ถือเป็นหน้าที่หนึ่งของเลขาเช่นกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาเธอไม่ได้ทำเท่านั้นก็เลยแปลกใจเท่านั้น
คนตัวเล็กจัดการเก็บเอกสารสำคัญแล้วล็อกกุญแจ ส่วนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ก็สำรองไว้หลายที่ก่อนจะรีบไปชงกาแฟให้กับประธานหนุ่ม
“กาแฟค่ะ” เธอวางกาแฟไว้บนโต๊ะข้างๆ กับเอกสาร แล้วยืนรออยู่ครู่หนึ่งเพราะคิดว่าการเรียกเธอมาแบบนี้น่าจะมีเรื่องที่จะคุย
“แผลหายแล้วเหรอ?”
“ยังค่ะ แต่แผลไม่หนักค่ะ แค่เฉียดๆ ขยับได้ปกติ ฉันไม่อยากให้เสียเวลางาน”
“… งั้นฉันจะเพิ่มโบนัสเดือนนี้ให้แทนแล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ!”
ใครบ้างไม่ชอบโบนัส!
“กำหนดการวันนี้ล่ะ?”
“ช่วงเช้าไม่มีอะไรค่ะ แต่ช่วงบ่ายมีนัดกับนักข่าว…” แล้วเฌอลินน์ก็ทำตามหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ก่อนจะเดินออกไปประจำตำแหน่งของตัวเอง
ลับหลังเฌอลินน์ มีข้อความส่งมาว่า…
‘เรียบร้อยแล้วครับ’
ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มร้ายกาจ ก่อนที่เขาจะคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงแล้วจัดการกับงานตรงหน้าต่อ
เมื่อถึงเวลาเลิกงานทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้าน เลน็อกซ์และเจมส์สะกดรอยตามเฌอลินน์อีกครั้ง ชายหนุ่มจ้องมองร่างบอบบางที่ยืนรอรถประจำทางพร้อมกับพนักงานคนอื่นๆ ก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาสวมใส่
วันแล้ววันเล่าที่เลน็อกซ์ทำแบบนี้แต่เฌอลินน์ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ดูน่าสงสัยเลย ชีวิตประจำวันของเธอนั้นแสนธรรมดาไม่ต่างจากพนักงานทั่วไป ถึงแม้ว่าเงินเดือนของเธอจะมากกว่าพนักงานธรรมดา แต่ก็ไม่ได้ติดหรู คอนโดที่อยู่แม้จะแพงแต่ระบบความปลอดภัยดี อยู่ใกล้บริษัท
เฌอลินน์จะขึ้นรถประจำทางหรือรถแท็กซี่ในการเดินทาง บางครั้งก็นัดกินข้าวกับเพื่อนที่บริษัทหรืออาจจะต่างบริษัท ส่วนเรื่องที่พูดคุยก็เป็นเรื่องของสาวๆ ในทุกๆ วันที่สะกดรอยตามเฌอลินน์ ทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาของเขา
ชายหนุ่มไม่ใช่คนโง่หรือมีทิฐิที่เขาไม่ชอบผู้หญิง เขาดูออกจากการจับตาดูมาตลอดหนึ่งเดือนว่าเธอบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทว่าไม่รู้ทำไมเขาถึงหยุดไม่ได้ที่จะให้เจมส์ขับรถตามเธอเหมือนอย่างทุกวัน แม้จะรู้ว่าสาวเจ้าตัวไม่ใช่สายลับ ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง
“กาแฟค่ะ” เฌอลินน์ชงกาแฟมาให้เลน็อกซ์ตามคำสั่ง และเธอก็เตรียมที่จะเดินออกไปเหมือนอย่างทุกที
ช่วงนี้ประธานหนุ่มใช้เธอชงกาแฟแทบวันเว้นวัน แต่ก็แค่ชงกาแฟแล้วก็ไม่ได้พูดคุยอะไรเลย จากวันที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาจนถึงวันนี้ก็หนึ่งเดือนพอดี แต่ยังไม่มีอะไรน่าสงสัยเกิดขึ้น งานที่เจอปัญหาแทบทุกวันก็ไม่มีแล้ว นั่นยิ่งทำให้เฌอลินน์แน่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“เดี๋ยว…”
“คะ?”
ชายหนุ่มกระดิกปลายนิ้วเรียกหญิงสาวเข้าไปใกล้ เฌอลินน์ทำตามอย่างว่าง่ายแม้จะสงสัยก็ตาม ในตอนนั้นเองข้อมือของเธอก็ถูกอีกฝ่ายดึงรั้งจนเสียหลักล้มลงไปด้านหน้า
ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทว่าหัวใจของเธอแทบจะหลุดออกมาจากอก เมื่อริมฝีปากของเธอแนบชิดอยู่บนริมฝีปากของเลน็อกซ์!!
นี่ไม่ใช่จูบแรกของเฌอลินน์ และไม่ใช่จูบแรกของเธอกับเลน็อกซ์ เพราะเธอเคยจูบกับเขาเพื่อช่วยชีวิตในงานเลี้ยงวันนั้นแล้ว ทว่า… นั่นเป็นการช่วยชีวิตคน เธอไม่คิดมากแค่ปากประกบปาก ทว่านี่มันไม่ใช่!!
เธอรีบถอยออกทันที แต่ด้วยความตกใจจนลนลาน อีกทั้งยังส้นสูงที่ทำให้เดินไม่สะดวกในเวลาเร่งรีบแบบนี้ เธอจึงล้มลงซบอกของอีกฝ่ายจนลิปสติกติดอยู่บนอกเสื้อ
“ขะ ขอโทษค่ะ ท่านประธาน!”
เฌอลินน์รีบยกมือขึ้นเพื่อที่จะเช็ดคราบลิปสติกด้วยมือเปล่า แต่กลับถูกฝ่ามือเรียวของอีกฝ่ายยกขึ้นห้ามไว้ก่อน
“ออกไป”
“อึก… ละ ลินน์ ขอโทษนะคะ ลินน์ไม่ได้ตั้งใจ…” คนตัวเล็กเผลอแทนตัวเองด้วยชื่อเพราะตกใจจนไม่ได้สติ
เมื่อช้อนดวงตามองอีกฝ่ายก็ต้องถอยห่างออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้เพื่อขอโทษอีกครั้งแล้วเดินออกไป และวันนั้นเฌอลินน์ก็ไม่เห็นประธานหนุ่มออกมาจากห้องเลยกระทั่งเลิกงาน กำหนดการอื่นๆ ก็ถูกยกเลิก ทำให้เฌอลินน์รู้สึกผิดจนไม่เป็นอันทำอะไร
ในอีกด้านหนึ่งนั้นหลังจากจูบกับเฌอลินน์ และเธอพลาดฝากรอยลิปสติกไว้บนอกเสื้อของเขา ชายหนุ่มก็วุ่นวายใจอยู่ทั้งวันจนงานเอกสารบนโต๊ะไม่คืบหน้าเลยแม้แต่น้อย เขาจึงยกเลิกกำหนดการทั้งหมดและพยายามจดจ่ออยู่ดับงานเอกสาร กระทั่งถึงเวลาเลิกงาน
เลน็อกซ์หยิบหูฟังขึ้นมาสวมใส่ตามความเคยชิน เขาได้ยินเสียงเฌอลินน์ทักทายกับพนักงานเหมือนอย่างทุกวัน ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ทว่ากลับชะงักแล้วนั่งลงตามเดิม ไม่มีเหตุผลให้สะกดรอยตาม หรือแอบฟังจากเครื่องดักฟังที่แอบเอาใส่กระเป๋าของเธอแล้ว เพราะเลน็อกซ์มั่นใจว่าเฌอลินน์ไม่ใช่สายลับ เธอเป็นเพียงพนักงานธรรมดา
(เลือกให้แฟนเหรอครับ?)
ทว่าเสียงที่ได้ยินในหูฟัง ทำให้เลน็อกซ์เกิดความสนใจ เขารู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว และมันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด
(ปะ เปล่าค่ะ มาเลือกให้ เอ่อ พะ พี่ชายค่ะ)
…พี่ชาย? เธอมีพี่ชายด้วยเหรอ?...
แล้วเขาก็เผลอตัวแอบฟังบทสนทนาของเฌอลินน์จนกระทั่งเธอกลับถึงบ้าน กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่เจมส์เข้ามาใกล้เขาแล้ว
“บอส?”
“…!!”
“เกิดอะไรขึ้นครับ ผมเรียกบอสตั้งนานแต่บอสไม่ตอบผมเลย”
“เปล่า… ว่าแต่ข้อมูลที่ให้สืบมา เฌอลินน์ไม่มีพี่น้องแน่นะ?”
“ครับ? อันนั้นเป็นข้อมูลพื้นฐานนี่ครับ เท่าที่ผมรู้คุณเฌอลินน์เป็นลูกคนเดียวนะครับ”
เลน็อกซ์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันกลับไปจัดการงานที่ยังวางกองเท่าเดิม จนเจมส์รู้สึกแปลกใจเพราะปกติเจ้านายของเขาเป็นคนทำงานเร็ว เขาจำได้ว่าเมื่อเช้าก็มีเอกสารวางกองประมาณนี้ ตอนนี้เลิกงานแล้วเอกสารก็ยังเท่าเดิมราวกับเลน็อกซ์ไม่ได้แตะมันเลย
…หรือว่ายังกังวลว่าน้องลินน์อาจจะเป็นสายลับอยู่?...
เจมส์ครุ่นคิดอยู่เงียบๆ เขาเป็นคนกลางที่รู้เรื่องราวของทั้งสองคนอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้รู้ลึกมากก็ตาม ทว่าจากการสะกดรอยตามเฌอลินน์ก็เห็นว่าหญิงสาวเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น หากเธอเป็นสายลับหรือมีเจตนาอื่นจริงๆ จับตาดูแถมยังแอบดักฟังมาตั้งเดือนกว่าก็ต้องได้อะไรมาบ้าง แต่นี่แค่รับรู้ชีวิตประจำวันของเฌอลินน์เท่านั้น
“หรือว่าจะลองสะกดรอยตามดูอีกสักพักดีครับ หรือไม่ก็ส่งคนไปคอยจับตาดูแทน?”
“ไม่ต้อง นายก็เห็นไม่ใช่เหรอ ไม่มีทางที่เฌอลินน์จะเป็นสายลับไปได้หรอก”
“อ่า ครับ”
ถ้าไม่ได้กังวลว่าเฌอลินน์จะเป็นสายลับ ถ้าอย่างนั้นเจ้านายของเขากำลังกังวลเรื่องอะไรกันอยู่ล่ะ นี่มันผิดปกติชัดๆ
…ว่าแต่ลิปสติกที่เปื้อนบนเสื้อเป็นของใครกันล่ะครับ!?...