บทที่ 1
ลอบทำร้าย
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน” เฌอลินน์กล่าวทักทายเมื่อเลน็อกซ์เดินผ่าน เขาไม่แม้แต่จะทักทายกลับง่ายๆ อย่างการพยักหน้าด้วยซ้ำ
ซึ่งในตอนแรกก็ทำเอาเฌอลินน์รู้สึกประหม่าไม่น้อย ทว่าต่อมาก็เคยชินเสียแล้ว เพราะเขาไม่ได้ทำแบบนี้กับเธอคนเดียว แต่ทำกับทุกคนโดยเฉพาะผู้หญิง!
จนมีข่าวลือว่าประธานสุดหล่อคนนี้ชอบไม้ป่าเดียวกัน และคนที่เป็นคู่จิ้นของเขาก็คือบอดี้การ์ดที่ติมตามประธานทุกฝีก้าว!
สาววายอย่างเฌอลินน์ปลื้มอกปลื้มใจเหลือเกินที่ได้เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิดแบบนี้
เฌอลินน์ทำงานเป็นเลขาให้กับเลน็อกซ์มาสองปีแล้ว ตั้งแต่เธอเรียนจบใหม่ๆ ด้วยความรู้ความสามารถทำให้เธอถูกเลือกในทันที การทำงานของเฌอลินน์อยู่ในระดับไร้ที่ติ เพียงแต่เธอไม่รู้ตัวเพราะเจ้านายของเธอเป็นคนปากหนัก พูดน้อย แต่ถ้ามีเรื่องผิดพลาดล่ะก็เตรียมทำโอทีได้เลย
แต่ถึงเขาจะดุ และเย็นชา ทว่างานดีเงินดีแถมสวัสดิการก็ดี นั่นทำให้บริษัทคิงส์ตันยังคงเป็นหนึ่งในห้าอันดับของบริษัทแนวหน้า ที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนใฝ่ฝัน
หญิงสาวจัดการงานเอกสาร ต่อด้วยรายงานกำหนดการให้กับเลน็อกซ์และตามเขาออกไปนอกสถานที่ตามโอกาส และวันนี้มีงานเลี้ยงตอนเย็นกับผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง ซึ่งเฌอลินน์ต้องตามไปเหมือนอย่างทุกที
เลน็อกซ์ทักทายแขกในงานพอเป็นพิธี ก่อนจะหายไปจากงานเหมือนอย่างทุกที ส่วนเฌอลินน์ก็พูดคุยกับเพื่อนๆ ที่เป็นเลขาด้วยกัน ก่อนจะปลีกตัวไปคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งทั้งสองกำลังคุยๆ กันอยู่
ระหว่างที่กำลังคุยกันอย่างสนิทสนมนั้น เฌอลินน์ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งไม่คุ้นหน้าคุ้นตาในงานเลี้ยง จริงอยู่ว่าในงานเลี้ยงย่อมมีคนที่เธอไม่รู้จักอยู่แล้วเช่นบริกรที่คอยบริการ หรืออาจจะเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ แต่ที่ทำให้เฌอลินน์อดสงสัยไม่ได้ก็เพราะท่าทางน่าสงสัยของอีกฝ่าย
“ขอตัวก่อนนะ”
“เดี๋ยวสิ จะไปไหน” ชายหนุ่มพยายามรั้งเธอไว้ แต่คนตัวเล็กก็รวดเร็วเหลือเกิน “เฮ้อ!... เกิดโดนลูกหลงขึ้นมาก็แย่น่ะสิ”
หญิงสาวสาวเท้าเดินเร็วไปตามทางที่เห็นว่าผู้ชายน่าสงสัยเดินไป หากเป็นก่อนหน้านี้เฌอลินน์คงไม่เก็บมาสงสัย ทว่าช่วงเดือนที่แล้วมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น ในตอนแรกเฌอลินน์ก็คิดว่ามันคงจะบังเอิญ แต่มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวน่ะสิ
กำหนดการถูกสลับจนเฌอลินน์เกือบรายงานผิดพลาด อีกทั้งข้อมูลสำคัญหายไปแต่โชคดีที่เฌอลินน์เป็นคนรอบคอบ เธอสำรองข้อมูลเอาไว้ตลอด และบางครั้งก็เกิดอุบัติเหตุกับเลน็อกซ์เมื่ออยู่ข้างนอกบ่อยๆ เธอไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญแน่
มือเรียวขาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาเจมส์
“พี่เจมส์คะ ตอนนี้พี่อยู่กับท่านประธานหรือเปล่าคะ?”
(ผมอยู่ห้องพักแขกครับ มีอะไรเหรอครับ?)
“แล้วตอนนี้ท่านประธานอยู่ที่ไหนคะ?”
(อยู่ชั้นสองห้องรองสุดท้ายนับจากบันได ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น?)
เฌอลินน์ไม่อธิบายอะไรเพราะไม่มีเวลาแล้ว เธอรีบตรงไปยังห้องนั้นด้วยสัญชาตญาณ เห็นเลน็อกซ์กำลังคุยกับผู้ลายคนหนึ่งอยู่ตรงระเบียง เมื่อเธอเข้ามาอย่างเสียมารยาทพวกเขาจึงมองมาที่เธอเป็นตาเดียว
“เอ่อ ขอโทษค่ะ คือว่า…” ตอนนั้นเองเฌอลินน์ก็ได้เห็นเงาตะคุ่มๆ หญิงสาวรีบวิ่งออกไปแล้วกระโดดเข้ากอดร่างของเลน็อกซ์ จนชายหนุ่มชะงักไป
กระสุนปืนเฉียดต้นแขนของหญิงสาว จนเลือดซึมออกมา พร้อมกับร่างของทั้งสองที่ตกจากระเบียง
“…!!”
สองแขนโอบรัดร่างของเลน็อกซ์เอาไว้แน่น กระทั่งใบหน้าปะทะกับผืนน้ำจนรู้สึกแสบ
ตู้ม!!
โชคดีแค่ไหนที่ด้านล่างเป็นสระน้ำ ไม่อย่างนั้นพระนางของเราคงตายตั้งแต่ตอนแรก
คนตัวเล็กผละออกจากร่างของเลน็อกซ์แล้วแหวกว่ายขึ้นไปด้านบน ทว่าเมื่อโผล่พ้นน้ำแต่กลับไม่เห็นประธานหนุ่มของเธอโผล่ขึ้นมาเลย
…คงไม่ใช่ว่าว่ายน้ำไม่เป็นใช่มั้ย?...
เฌอลินน์รีบดำน้ำลงไป ก็เห็นว่าเลน็อกซ์ไม่ตะเกียดตะกายด้วยซ้ำ อีกทั้งดวงตาเรียวคมที่มักจะมองมาที่เธออย่างดุดันก็ปิดสนิทไปเสียแล้ว เห็นแบบนั้นเฌอลินน์ก็รีบแหวกว่ายลงไปหาเขา สองมือประกบสองข้างแก้มแล้วแนบริมฝีปากลงไป ส่งลมอุ่นๆ จากในปากของตัวเองเข้าสู่ปากของชายหนุ่ม ถ่ายทอดอากาศเพื่อให้เขาไม่หมดสติไปก่อน
เลน็อกซ์ที่ได้ลมหายใจของเฌอลินน์ช่วยค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา จากนั้นคนตัวเล็กก็พาคนตัวใหญ่ขึ้นสู่ผิวน้ำ
“แค่ก แค่ก!” ชายหนุ่มสำลักน้ำจนหน้าแดง เฌอลินน์พาชายหนุ่มมาเกาะขอบสระ โดยมีเจมส์ที่ทันได้เห็นเหตุการณ์ที่ทั้งคู่ตกลงมาช่วยดึงขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นครับ บอส?”
“…”
ชายหนุ่มยังคงเงียบ จ้องมองเฌอลินน์ที่คว้าโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู และก็พบว่ามันดับสนิทเธอจึงทำหน้าเศร้า ท่าทางของเธอราวกับไม่สะทกสะท้านกับบาดแผลที่ได้รับเลย
“บอสครับ?”
“คนร้ายอยู่ในงาน คงแฝงตัวมากับพวกพนักงาน”
“บอสเห็นคนร้ายมั้ยครับ?”
“…ชายใส่ชุดสูทสีดำ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์มากนัก เพราะชุดสูทสีดำนั้นเป็นเครื่องแบบพื้นฐานที่คนเขาใส่กันทั่วงาน “ช่างเถอะ ยังไงมันก็ต้องโผล่มาอีกแน่ ตอนนี้ไปดูคุณเฌอลิินน์ก่อน”
“ครับ? เฮือก! คุณเฌอลินน์” เจมส์รีบเข้าไปดูเฌอลินน์ที่แขนเสื้อมีรอยขาดและรอยเลือดเป็นทางยาว “เกิดอะไรขึ้นครับ?”
สาวเจ้าตัวเองก็เพิ่งเห็นว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ ถึงว่าเธอรู้สึกปวดๆ ที่แขน
“รีบไปจากที่นี่ก่อนที่จะมีคนสังเกตเห็นเถอะ”
“อ่า ครับ”
บอดี้การ์ดหนุ่มถอดเสื้อสูทตัวเองคลุมร่างบอบบางแล้วประคองขึ้น จากนั้นพวกเขาก็รีบเดินไปที่รถอย่างเงียบๆ
“มีคนร้ายจ้องจะทำร้ายท่านประธานค่ะ” ทันทีที่ขึ้นมาบนรถเฌอลินน์ก็รีบบอกออกไปทันที
“เธอรู้ได้อย่างไร?” นี่เป็นคำถามของเลน็อกซ์ที่ถามด้วยความไม่ไว้วางใจ เพราะการที่เฌอลินน์มาช่วยเขาได้ทันนั้นมันบังเอิญเกินไป ราวกับทุกอย่างถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี ให้เขาเชื่อใจเธอที่เสี่ยงชีวิตช่วยเขา
“คือ… เมื่อเดือนก่อนมีบางอย่างแปลกๆ เกิดขึ้นค่ะ”
“บางอย่าง? อะไร?”
แล้วเฌอลินน์ก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมด
“แต่ที่ผ่านมาคุณเฌอลินน์ก็ทำทุกอย่างได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยนะครับ?”
“ก็… ฉันตรวจสอบข้อมูลก่อนรายงานประมาณสามชั่วโมงค่ะ แล้วก็เก็บข้อมูลไว้กับตัวตลอดเพราะกลัวว่าจะมีการสับเปลี่ยนหรือหายไป ส่วนข้อมูลสำคัญที่หายเพราะถูกฟอแมต ฉันสำรองข้อมูลเอาไว้ตลอดและบางงานก็ทำใหม่ค่ะ…”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่เฌอลินน์พูด ชายหนุ่มทั้งสองก็อดทึ่งกับความสามารถของเฌอลินน์ไม่ได้ นอกจากเฌอลินน์จะฉลาด รอบคอบ ไหวพริบดีแล้ว เธอยังมีความสามารถที่เข้าใจและทำงานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความอดทนเป็นเลิศ
หากเป็นพนักงานคนอื่นเจอแบบนี้ที่ต้องทำงานใหม่หลายรอบคงลาออกไปแล้ว แต่เฌอลินน์กลับรับมือได้ดีและทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมมันยังไม่กระทบต่องาน ถึงขนาดที่พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลพวกนั้น
แต่ถึงอย่างไรในสายตาของเลน็อกซ์ผู้ไม่เคยไว้ใจผู้ใดก็ยังคงสงสัยเฌอลินน์อยู่ดี
“เอาไว้ค่อยคุยทีหลัง ไปโรงพยาบาลก่อน”
“ครับบอส”
หลังจากเสร็จเรื่องราวที่โรงพยาบาล ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ทว่าแท้จริงแล้วเลน็อกซ์ให้เจมส์ขับรถตามเฌอลินน์จนไปถึงคอนโดของเธอ ระหว่างทางเธอไม่ได้พบกับใคร มีเพียงพูดคุยทางโทรศัพท์
“ส่งคนมาสะกดรอยตามเอาไว้ และสืบเรื่องของเธอมาให้ละเอียด ไม่ใช่ข้อมูลพื้นฐาน แต่เป็นข้อมูลที่ไม่มีใครรู้”
“ครับบอส”
การช่วยชีวิตเพียงครั้งเดียวไม่ได้ทำให้เลน็อกซ์รู้สึกไว้วางใจเลยแม้แต่น้อย กลับกันมันสร้างความหวาดระแวงยิ่งกว่าเดิมให้กับชายหนุ่ม และเฝ้าจับตาดูเธอทุกฝีก้าว
นี่เป็นครั้งแรกที่เลน็อกซ์ถูกคนอื่นช่วยเอาไว้ คนอื่นที่ไม่ใช่ลูกน้องของเขา อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่เขานั้นแสนเกลียดชัง มนุษย์นั้นแสวงหาผลประโยชน์อยู่เสมอ ทุกการกระทำย่อมหวังผล เขาเจอคนแบบนี้มาทั้งชีวิต แม้จะทำเป็นไม่หวังผลอะไร แต่สุดท้ายก็มีสิ่งที่ต้องการอยู่ดี
ทว่า… ไม่รู้ทำไมเขาถึงสลัดภาพของเฌอลินน์ที่วิ่งเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าตื่นตระหนกไม่ได้ อีกทั้งยังสัมผัสแนบแน่นที่ริมฝีปาก… มันยังคงติดอยู่ราวกับเจ้าตัวเพิ่งฝากรอยเอาไว้เมื่อครู่ ทั้งๆ ที่ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว
แทนที่จะรังเกียจเหมือนอย่างที่ผ่านมา ครั้งนี้กลับ… ทำให้เลน็อกซ์นึกถึงสัมผัสนั้นด้วยความวุ่นวายใจ