“ดูดี”
“ก็อาหารบ้าน ๆ กินได้ไหมคะ แต่ถ้ากินไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้ค่ะ มีเท่านี้”
เหมราชรู้สึกมันเขี้ยว ยื่นมือไปหยิบกุ้งเหยียดตัวยาวที่นอนเรียงกันในจานแล้วกัดมัน เคี้ยวพร้อมกับจ้องอิ่มอุ่นไม่วางตา
“ฉันไม่ได้พูดถึงอาหาร”
เธอไม่ได้อ่อนต่อโลกเกินกว่าจะรับรู้ไม่ได้ ถ้าเขาไม่ได้หมายถึงอาหารอีกต่อไป ‘ดูดี’ ของเขาคงชมว่าหลังอาบน้ำแล้วเธอดูดีขึ้นละมั้ง ก็แน่ละสิ เธอถูกทาบทามให้เป็นเทพีรับบัวอยู่ประจำแต่นายชาลีไม่อนุญาต เพราะตอนมีชีวิตอยู่หวงลูกสาวมาก เมื่อเห็นว่าสายตาเขายังจ้องค้างมองหน้า เธอก็อดระแวงไม่ได้
ลุงหื่น
อิ่มอุ่นก็ได้แต่กระแทกกระทั้นเขาในใจ แต่สายตาก็ไม่วายให้เขาจับพิรุธได้ว่าเธอไม่ค่อยพอใจเขาสักเท่าไร
“มองหน้าฉันแบบนี้ อยากชะตาขาดเหมือนไอ้กุ้งตัวนี้หรือไง”
เหมราชจ้องหน้าซีด กัดกุ้งเหยียดตัวยาวจนเหลือครึ่งเดียว ก่อนจะกินข้าวตามไปนิ่ง ๆ ไม่ได้บอกว่าอร่อยหรือไม่อร่อย เขาแค่กินทุกอย่างจนเกลี้ยงเหมือนอดข้าวมาถึงสามวัน ตรงข้ามกับอิ่มอุ่นที่นั่งกินเงียบ ๆ รู้สึกฝืดคอ กลืนอะไรไม่ลงจนต้องยกน้ำขึ้นจิบบาง ๆ ก่อนจะวางแก้วลง
“กินหรือดม” เขาพูดแค่นี้ก็ไม่ได้สนใจเธออีก
บ้านหลังใหญ่มีเพียงบิดาและตัวเธออาศัยอยู่กันเพียงสองคนเพราะมารดาเสียชีวิตไปนานแล้ว เมื่อต้องมีผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาอยู่ร่วมบ้าน แม้จะรู้สถานการณ์ชีวิตของตัวเองดี แต่ก็ไม่อาจห้ามปรามความว้าวุ่นที่พลุ่งพล่านอยู่ในอก กระนั้นอิ่มอุ่นก็ยังปั้นหน้าเฉยชาข่มอารมณ์หวั่นกลัว
เหมราชรู้สึกอิ่มจริง ๆ นานแล้วที่เขาไม่ได้กินอาหารแบบนี้ จำได้ว่ามารดาเคยทำทอดมันหัวปลีให้กิน อร่อยมาก แต่นาน ๆ ครั้งท่านถึงจะลงมือทำ หลังจากนั้นพอท่านแต่งงานใหม่ ย้ายไปต่างประเทศ เขาก็ไม่เคยเห็นเมนูนี้ปรากฏบนโต๊ะอาหารอีกเลย
เขาชำเลืองมองเธอที่นั่งนิ่งราวกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้สึกชอบใจที่สร้างความหวาดกลัวให้หญิงสาวตรงหน้าได้ แวบหนึ่งมีความสงสารผุดขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงว่าเวลานี้อิ่มอุ่นเหลือตัวคนเดียว
แต่เมื่อนึกถึงคารมร้อนที่โต้กันตั้งแต่พบหน้า เธอไม่ได้จืดชืดแบบที่เขาเห็นหรอก ถ้าดีจริงก็คงไม่เอาตัวเข้าแลกหนี้ ผู้หญิงที่ซื้อด้วยเงินได้ก็ไม่ต่างกันมากนัก
ดวงตาลุ่มลึกร้อนแรงเพ่งมองใบหน้างดงามหวานซึ้งของเธอ จอมบงการขยับฝีปากเอ่ยขึ้น “ฉันง่วง อยากนอนแล้ว”
“รอเดี๋ยวค่ะ ล้างจานเสร็จ เดี๋ยวจัดที่นอนให้นะคะ”
อิ่มอุ่นรีบลุกขึ้นเก็บจานชามที่เขากินจนหมดเกลี้ยงไปล้างในครัวทันที แล้วยิ้มโล่งอกที่เมื่อเดินออกมาจากครัวเห็นเขายังกึ่งนั่งกึ่งนอนดูทีวี ไม่ได้อุกอาจบุกเข้าไปในห้องนอนของเธอ หญิงสาวจึงจัดแจงนำมุ้งสายบัวมาผูกโยง จัดที่นอนชั่วคราวให้เขากลางบ้าน เหมราชลอบมองท่าทางหวาดระแวงของอิ่มอุ่นอยู่เงียบ ๆ แต่เมื่อเธอหันมามอง เขาก็ทำเป็นกำลังนั่งดูทีวีตามเดิม
“เสร็จแล้วค่ะ คุณเหมง่วงก็เชิญนอนได้เลย”
พูดจบเธอก็รีบเผ่นหนีเดินเข้าห้องนอนตัวเอง เมื่อเหลียวมองก็ยิ้มโล่งอก ปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ อย่างพอใจ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อเห็นร่างสูงยืนขึ้นมาจากโซฟา ปิดทีวีเรียบร้อยแล้วก้าวฉับ ๆ ไปยังมุ้งสายบัวบริเวณกลางบ้านซึ่งเธอกางเอาไว้ให้เขาเพื่อกันแมลง ร่างสูงมุดเข้าไปในมุ้งทันที
แต่พออิ่มอุ่นจะดึงประตูห้องนอนและจะล็อกกลอนให้เรียบร้อยก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากมุ้ง
“เดี๋ยวก่อน”
เหมราชคว้าหมอนอิงสามเหลี่ยมมาใบหนึ่งที่วางอยู่บนที่นอนซึ่งมีมุ้งขาวสะอาดครอบไว้ ถือติดมือมาแล้วยกมือเลิกปลายมุ้ง พาร่างสูงใหญ่เดินออกมาด้านนอก
“ใครบอกว่าฉันจะนอนตรงนี้”
แววตาเปิดเผยโจ่งแจ้งของเขาพันธนาการเธอไว้ แล้วพาร่างเต็มความสูงมายืนประจันหน้าก่อนจะตามมายืนขวางประตูห้องนอนเอาไว้ ปลายนิ้วแข็งแรงชี้เข้าไปด้านหลังของอิ่มอุ่น เขาเห็นเตียงไม้สักขนาดหกฟุตดูสะอาดน่านอน เหมาะสมกับแผ่นหลังของเขาอยู่ในนั้น
“ที่นอนฉันอยู่ในห้องนี้ต่างหาก หลบไป”
“ไม่ได้นะคะ เข้ามาไม่ได้ นี่มันห้องนอนของอิ่ม ที่นอนคุณเหม อิ่มจัดให้ตรงโน้น” เธอชี้ออกไปนอกห้อง สายตาขอร้องให้เขากลับไปนอนตรงบริเวณที่เธอจัดฟูก กางมุ้ง เอาไว้ให้ที่โถงกลางบ้าน
“ห้องนอนเธอ ก็เหมือนห้องนอนฉัน เดี๋ยวกลับไปที่ไร่ชา ฉันก็ต้องแบ่งห้อง แบ่งเตียงให้เธอนอนเหมือนกัน หรือเธอจะใจดำกับผัว ให้ผัวนอนนอกห้อง ตัวเองนอนสบายบนเตียงคนเดียว”
อิ่มอุ่นไม่คุ้นชินกับสรรพนามที่เขาพูด ยิ่งเขาพูดแทนตัวว่าผัว เธอก็ยิ่งอายจนหน้าแดง
เหมราชจึงได้จังหวะ ก้าวเข้ามาในห้องอย่างถือสิทธิ์ “ไม่นอนด้วยกันคืนนี้ พรุ่งนี้ก็ต้องนอน อย่าเยอะน่า หลบไป”
“แต่คุณเหมกับอิ่มยังไม่ได้แต่งงาน เราจะนอนด้วยกันแบบนี้ไม่ได้”
ดวงตานั้นอ่อนลงแกมขอร้องให้เขาออกไป เธอแค่ขอระยะเวลาทำใจบ้าง
“ได้ไหมคะ” อิ่มอุ่นใช้เสียงอ่อนลง พยายามใช้น้ำเย็นลูบ เคยได้ยินว่าผู้ชายอายุเยอะชอบผู้หญิงอ่อนหวาน ขี้อ้อน “นะคะ คุณเหม”
เขาหยุดคิด มองใบหน้าซีดเผือดของเธอครู่หนึ่ง
“ไม่ได้ อย่ามาเรื่องเยอะ ฉันก็ไม่คิดจะแต่งงานกับเธอเป็นเรื่องเป็นราวหรอก แม่ขอให้ฉันมารับเธอไปเป็นเมีย ฉันก็มารับไปเป็นเมีย ไม่ได้บอกให้มารับไปแต่งงาน และถ้าให้รับไว้เป็นเมีย เธอก็ต้องทำหน้าที่ของเมียด้วย เข้าใจไหม”
อิ่มอุ่นฟังแล้วน้ำตารื้นคลอเบ้า นี่เขาคงไม่คิดจะจัดงานแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสด้วย แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ แม่เลี้ยงบุหงาขอให้เธอสัญญาว่าจะทนอยู่กับลูกชายเขาสักสามปี ถ้าเวลานั้นอยู่ด้วยกันไม่ได้จริง ๆ ท่านก็จะไม่บังคับให้อยู่ด้วยกันต่อ จะยอมให้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเดิม
“เรามาเจรจากันดีไหม คุณเหมก็ไม่ได้อยากได้อิ่มไปเป็นเมีย ส่วนอิ่มก็ไม่อยากได้คุณเหมมาเป็น...”
“ผัว” เขาพูดต่อให้
อิ่มอุ่นหน้าแดง เบนหน้าหลบสายตากล้าที่จ้องมองราวกับให้เธอหนาวสะท้าน
“นักธุรกิจอย่างฉันลองจิ้มเครื่องคิดเลขเมื่อครู่นี้ ขืนไปขอร้องให้เธอกับคนงานอยู่ที่นี่ฟรี ๆ หรือจะจ่ายค่าเช่าทำบ่อรายปี นับว่าขาดทุน อีกกี่ปีกว่าฉันจะคืนทุน พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อม สาย ๆ ฉันจะพาเธอกลับไปที่ไร่ชาด้วยกัน”
สีหน้าแข็งกร้าวประดุจเหล็กของเขาฉายแววจริงจังเป็นงานเป็นการ เขาปิดประตูความหวังของเธอจนสนิท แล้วตีแสกหน้าบอกว่าไม่ได้