เขาหันไปหยิบซองสี่เหลี่ยมขนาดเล็กๆขึ้นมา มือหนาฉีกออกเตรียมสวมปลอกป้องกันให้แท่งลำใหญ่ของเขา ความรู้สึกเก่าๆของคนที่นอนมองตีตื้นขึ้นมา พบขวัญหน้าซีดเผือดแทนที่ความเสียดเสียวที่เขาปลุกปั่นมานาน เธอกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะไอ้เจ้าพลาสติกบางๆนั่นไม่ได้ป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
“ฉันอาจจะท้อง ฉันเคยผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง จนได้ของขวัญติดท้องมา”
“หา! คุณหมายความว่ายังไง”
พบขวัญคิดว่าถึงเวลาที่เธอต้องพูดไม่อย่างนั้นเธอจะต้องถูกเขารังแกอีกอย่างแน่นอน “ฉันมีลูกแล้ว ฉันไม่ควรทำตัวแบบนี้อีก ฉันเป็นแม่คนแล้ว”
คำพูดที่พบขวัญโพล่งออกมาทำให้โดมินิกชะงักงันไป นี่เธอท้อง เธอมีลูกกับใครกัน เขาจำได้ว่าห่างกันมาแค่ปีกว่าได้ล่ะมั้ง แสดงว่าหลังจากเขาแล้วเธอก็ยังมีผู้ชายคนอื่นอีกซึ่งสุดจะเดาว่าเป็นใคร แล้วที่สำคัญเหมือนถูกค้อนกระแทกใส่หน้าคือเธอมีลูกแล้วอีกด้วย
ช่างเป็นข้อมูลใหม่ที่น่าตกใจระหว่างการมีเซ็กซ์ โดมินิกไม่ได้ถือสาผู้หญิงที่ผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว เขาต้องการคนที่รักสนุกเหมือนกันโดยไม่มีข้อผูกมัด แต่นี่พบขวัญกำลังบอกให้เขาหยุดด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่เต็มใจ และเธอไม่อยากทำผิดบาปจากศีลธรรมในใจเมื่อได้ชื่อว่าเป็นแม่ ซวยล่ะสิความเหยียดยาวที่กำลังขยายยุบลงไปทันทีอย่างหมดอารมณ์
“คุณมีสามีแล้ว สามีคุณยังอยู่ จะบอกแบบนั้นใช่ไหม” เขาถามรัว “ผมไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่มีสามีคาอยู่หรอกนะ”
โดมินิกคำราม เขาคิดตามที่พูด รักสนุกแต่ไม่ผิดลูกผิดเมียใคร ผู้หญิงมีให้เลือกกินมากมายไม่จำเป็นต้องใช้ของที่มีเจ้าของใช้อยู่ประจำ
ร่างบางเนื้อตัวแดงก่ำ ขอบตาร้อนผ่าว “ฉันมีสามีแล้วแต่เราเลิกกัน เราไปด้วยกันไม่ได้
โดมินิกมึนงงไปหมด ตกลงมันยังไงกันพบขวัญยังโสดแต่หมดความซิงไปนานแล้ว และเพิ่งประกาศตัวว่ามีลูกทั้งหมดสร้างความสับสนให้เขาไม่น้อยจนอาการส่งผ่านมาทางสีหน้าที่มีความกังขาในแววตา
“คุณคลอดลูกเองหรือว่าผ่า”
“เด็กตัวใหญ่น้ำหนักเกือบสามจุดแปดกิโลกรัม หมอแนะนำให้ผ่าคลอดเพราะปากมดลูกไม่เปิด ตอนนั้นเปิดแค่สองเซ็นต์เร่งน้ำเกลือแล้วก็ยังไม่เปิด” พบขวัญเล่าพลางนึกถึงวันที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต
“พอๆ ผมไม่อยากฟัง” เขารู้สึกเจ็บลึกๆ กับผลิตผลของคนอื่น “ แต่ผมอยากรู้ว่าที่คุณพูดจริงไหม ผมไม่เชื่อคำพูดของคุณจนกว่าจะมีหลักฐาน”
เพื่อยืนยันว่าเธอพูดจริงหรือโกหก เขาจึงขอดูหลักฐานเบื้องต้นหากว่าเป็นจริงอย่างที่เธอพูด เรือนร่างอ้อนแอ้นต้องมีร่องรอยการผ่าตัดถ้าหากว่าเธอใช้วิธีนี้ในการคลอดลูก
ไม่รอช้าดวงตาสีฟ้าคมกริบรีบก้มมองหาหลักฐานที่ว่า แล้วเขาต้องสะดุดลมหายใจเมื่อพบว่ามีรอยผ่าตัดบนหน้าท้องแบนราบไร้ไขมันอยู่จริงๆ เขาไม่ทันสังเกตเพราะดวงตากำลังพร่าลายจากความขาวโพลน เรือนร่างอวบอิ่มน่าขย้ำจึงไม่เห็นร่อยรอยหลักฐานชิ้นโตนี้
“โอ้! พระเจ้า”
เขาพลาดได้อย่างไร เขายันกายลุกขึ้นแล้วไปกระชากผ้าขนหนูมาพันรอบเอวสอบ ความคึกคักเหี่ยวเฉาลงทันตา “คุณรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ผมจะออกไปนอนข้างนอก”
“เดี๋ยวก่อนสิ ฉันคิดถึงลูก ปล่อยฉันไปได้ไหม”
“ลูกของคุณอยู่กับใครล่ะตอนนี้ ผมจะไปเอามาให้”
คำถามของเขาทำให้พบขวัญนิ่ง ถึงอยากเจอลูกแต่เธอจะให้เขาพบแทนคุณไม่ได้เพราะถ้าเขาเห็นหน้าที่เหมือนกันยังกับแกะทั้งที่โดมินิกอาจไม่ได้ตั้งใจทำเขาต้องสงสัยแน่ๆ
เธอไม่ต้องการให้เขาเกี่ยวข้องอะไรกับเธอและลูกอีก ถ้าหลังจากนี้ได้กลับออกไปเธอจะไปให้ไกลไม่ให้เขาตามเจออีกเลย หรือบางทีเขาอาจจะไม่ตามหาเธอแล้วก็ได้เมื่อรู้ว่าเธอมีลูกแล้ว และถ้าน้องสาวเขาได้แต่งงานสมใจ
“ลูกของฉัน เอ่อ อยู่กับ...”
“ไม่ต้องพูด ไม่อยากบอกก็ไม่อยากฟัง” โดมินิกยกมือห้ามเพราะมันทำให้เขาเจ็บปวดไม่รู้ว่าเธอท้องกับใคร
ร่างแกร่งที่แต่งตัวเสร็จแล้วจึงรีบเปิดประตูออกไปอย่างหงุดหงิดปิดประตูดังโครมแต่พบขวัญไม่สนใจรีบวิ่งไปเอาหูแนบประตู เธอได้ยินเสียงดังทรงอำนาจยืนสั่งการอะไรอยู่ด้านนอก
“ดูแลคุณพบขวัญให้ดี ถ้าเธอต้องการอะไรก็หาให้เธอ”
เขาสั่งแล้วคงเดินออกไปเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย พบขวัญยืนพิงหลังประตูอย่างหมดเรี่ยวแรง คิดถึงลูกใจจะขาดแต่ไม่รู้จะหนีออกไปอย่างไร น้ำตาร้อนๆไหลรินออกมาไม่ขาดสาย หัวอกคนเป็นแม่เจียนจะขาด
อุแว้ อุแว้
เสียงเด็กแผดร้องจ้าดังอยู่ด้านหน้าป้อมรักษาความปลอดภัย ทำให้พนักงานรักษาความปลอดภัยในชุดยูนิฟอร์มสองคนชายหนึ่ง หญิงหนึ่งออกไปยืนด้อมๆมองๆ แล้วต้องมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นต้นเหตุของเสียงวางอยู่ตรงหน้า
“นั่นเด็กนี่ ใครกันเอาเด็กมาทิ้งไว้ นี่อุไรแกไปอุ้มมาดูสิยังเป็นทารกอยู่เลย” หัวหน้ายามผู้ชายบอกลูกน้องที่เป็นยามผู้หญิงให้ไปอุ้มทารกที่กำลังแผดเสียงลั่นไปทั่วบริเวณเข้ามาดู
ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งแล้ว รถยนต์ของพนักงานทยอยเลี้ยวเข้ามาทำงาน หัวหน้ายามจึงต้องรีบจัดการกับต้นตอเสียงให้หยุดลงเสียก่อนเพราะถ้าหากว่าผู้บริหารระดับสูงมาเห็นเข้าจะถูกตำหนิได้ และวุ่นวายไปจนถึงต้นสังกัดซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ส่งมาทำงานจะลงโทษได้
ยามผู้หญิงที่ชื่ออุไรรีบวิ่งไปดู พร้อมกับอุ้มทารกในตะกร้ามาด้วยสีหน้าตื่นๆ
“เด็กผู้ชาย หน้าตาน่ารักซะด้วย แต่สงสัยจะหิวเดี๋ยวฉันเอานมให้กินก่อนนะแต่นมคนคงหาไม่ได้นมวัวพาสเจอร์ไรซ์ได้ไหม เอ๊ะ แต่ดูนี่สิในตระกร้ามีขวดน้ำมีขวดนมมาพร้อมเลย”
ยามผู้ชายที่ชื่อสุนทรรีบเดินเข้าไปดูบ้าง โชคดีที่เขามีลูกอ่อนเหมือนกันจึงรักเด็กมาก เมื่อเห็นว่ามีคนนำเด็กมาทิ้งจึงยิ่งสงสารเป็นกำลังทำใจดำปล่อยทิ้งไปไม่ลง “เออ จริงด้วย น่าสงสารนะอุไร แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงกันดี” สุนทรถามยกมือเกาหัว ขณะที่อุไรก็เอาขวดนมป้อนให้เด็กน้อยกินไปพลางๆ
เด็กน้อยดูดอักๆจนแก้มบุ๋มทำให้อุไรยิ่งสงสาร ตาแป๋วแหววสีฟ้าน้ำทะเลมองอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่มองดูน่ารัก “ตาสีฟ้า เป็นเด็กลูกครึ่งน่ารักซะด้วย เราจะทำยังไงกันดี ฉันเองก็มีลูกแล้วสามคนจะให้เอาไอ้หนูนี่ไปเลี้ยงก็เห็นจะไม่ไหว”
“พี่ก็ไม่ไหว ลูกใครหว่า น่ารักขนาดนี้พ่อแม่มันกล้าทิ้งลงคอได้ยังไง”
“นั่นสิพี่ทำไมพ่อแม่สมัยนี้มันใจคอโหดร้ายแบบนี้ คงเป็นพวกวัยรุ่นรักสนุกแน่เลยพี่”