แพรชมพูหันมาสนใจภายรอบห้องทำงานของพยัคฆ์ อีกมือแอบถือกล่องข้าวไว้ติดตัวมาด้วย เพราะเธอกับเขาไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยกันทั้งคู่ ด้วยความที่มีศีลธรรมเมตตาต่อมนุษย์โลก ก็ไม่อยากใจดำกับเขา กลัวว่าเขาจะเรียกหาของกิน
“โห ห้องทำงานกับห้องนอนคลุมโทนสีดำเหมือนกันเปี๊ยบ เสมอต้นเสมอปลายจริง”
ปากบอกว่าเขามีไลฟ์สไตล์คลุมโทนสีดำ ทว่าเธอไม่เลิกแอบสำรวจภายนอก บนโต๊ะทำงานมีแค่แฟ้มกองเอกสารกองโตที่น่าจะยังไม่อนุมัติโครงการทั้งหมด เธอสำรวจจนเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจ
“เมื่อไหร่พี่เสือจะกลับมา จะขังแพรแบบนี้ไม่ได้”
เธอคิดถึงตงเฉิน คิดได้ดังนั้น แพรชมพูลองหมุนบิดกลอนประตูจากด้านใน
แกร๊ก!
“ประตูไม่ได้ล็อคนี่น่า พี่เสือโกหกแพร”
กล่องข้าววางไว้บนโต๊ะทำงานไว้ตรงนั้น เขาจะกินหรือไม่กินก็ไม่ใช่เรื่องของเธอต้องสนใจ แพรชมพูยกยิ้มย่ามใจพยายามเปิดมันออกโดยไม่สนใจคำขู่ของพยัคฆ์
แต่ใครจะคิดว่าจะเจอผู้ช่วยสาวบัญชี!
“เธอ! มาทำอะไรที่นี่”
ยี่หวาอุทานตกใจเรียกชื่อผู้หญิงคนอยู่ข้างในห้องทำงานเจ้านายหนุ่ม เธอพอรู้ว่าแพรชมพูเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงานควบคุมผลผลิตไร่องุ่น กลับแอบหลบซ่อนห้องทำงานพยัคฆ์ มีอะไรที่ยี่หวาไม่รู้
“แพรก็มาหาพี่เสือยังไงล่ะคะคุณยี่หวา คุณป้าดาวส่งแพรมาควบคุมพฤติกรรมเสือผู้หญิงว่ามีพวกชะนีแถวนี้จ้องจะเข้าหาพี่เสือหรือเปล่า”
แพรชมพูไม่ยอมถูกรังแกฝ่ายเดียว เธอรู้จักยี่หวา พอๆ กับยี่หวารู้จักเธอ ยี่หวาต้องการทำอะไรก็รู้หมด
คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกชะนีรับไม่ได้ “ยัยเด็กปากมอม อย่าคิดว่าเป็นคนโปรดของคุณนับดาวจะทำอะไรก็ได้ ฉันจะแจ้งคุณเสือว่าเธอไร้มารยาท”
“แจ้งเลยค่ะ พี่เสือจะได้รู้ว่าคุณยี่หวาชอบแต่งหน้าแต่งตาทั้งวัน ไม่ยอมทำการทำงาน มีแต่อ่อยผู้ชาย ความจริงแพรไม่อยากฟ้องหรอก เพราะไม่ใช่เรื่องของแพร ขอตัวก่อนนะคะ”
เธอเคยไม่ถูกกันกับยี่หวา ไม่สิ! ยี่หวาต่างหากกลายเป็นปรปักษ์กับเธอ ตั้งแต่เห็นเธอเคียงข้างกับพยัคฆ์เข้ามาทำงานออฟฟิศ และไม่เคยพูดจาดีๆ แพรชมพูดีตอบต่อคนที่ดีต่อตัวเองเท่านั้น
ยี่หวาอดทนอดกลั้นเก็บกดความไม่พอใจต่อลูกสาวแม่ครัวป้าเพ็ญ คนโปรดปรานของนับดาว คิดว่ามีผู้ใหญ่คอยหนุนหลังก็เลยไม่คิดเกรงกลัว มีมารยาทต่อคนที่มีอายุมากกว่าสองปีหรืออย่างไร
“คิดจะชิ่งหนีกันง่ายๆ เหรอ”
“แพรไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องหนีด้วยค่ะ” เอียงคอถามด้วยความงุนงง
“ขอสักทีเถอะ”
ยี่หวากำลังจะสั่งสอนเด็กปากมอม ทว่าเสียงเข้มทุ้มใหญ่รีบขัดพฤติกรรมของลูกน้องตัวเอง
“ที่นี่คือออฟฟิศ ไม่ใช่ฟาร์มโคนมที่จะต้องกัดกันเอง”
“พี่เสือ/คุณเสือ!”
ยี่หวาลดมือลงพลันหน้าซีดเผือด ผู้ช่วยบัญชีสาวกลัวถูกเจ้านายลงโทษหรือตำหนิ หรือขั้นร้ายแรงสุดอาจต้องตัดเงินเดือน เธอไม่กล้าหือกับคนของเจ้านาย แต่ส่งสายตาข่มขู่ทางแพรชมพูว่าฝากไว้ก่อนเถอะ!
“ยี่หวาแค่เอาสรุปผลรายงานที่คุณเสือสั่งมาวางไว้บนโต๊ะ แต่คนของคุณเสือพูดจาไม่ดีใส่ยี่หวาก่อนค่ะ”
“เธอทำแบบนั้นที่ยี่หวาพูดจริงเหรอ แพรชมพู”
ได้ยินอย่างนั้น สะบัดมือตัวเองออกจากการเกาะกุมมือแกร่งเต็มแรง ไม่ว่าเธอจะทำอย่างไร ในสายตาพยัคฆ์ก็ยังเป็นคนผิดอยู่ดี
“แพรไม่ผิดค่ะ พี่เสือขังแพรไว้ในห้อง แพรต้องการออกจากห้อง คุณยี่หวาก็มาหาเรื่องแพรก่อน แพรต้องป้องกันตัว แพรผิดตรงไหนเหรอคะ”
ต่อให้เธอจะพูดปากเปียกปากแฉะขนาดไหน เจ้านายก็ต้องเข้าข้างลูกน้องตัวเองอยู่ดี คนนอกผลประโยชน์อย่างแพรชมพูมีสิทธิ์คัดค้านด้วยเหรอ
“จะไปไหนก็ไป คนอย่างเธอมีแต่สร้างปัญหาให้ฉันไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าไม่ติดว่าแม่ฉันขอร้อง อย่าหวังจะได้มาสะเออะหาเรื่องที่นี่อีก”
“พี่เสือ”
นอกจากเขาปากหมาเน่า ปากเสีย ยังใจร้ายใจดำกับเธอเสมอต้นเสมอปลาย คนเปรียบเสมือนพี่ชายวัยเด็กคนนั้นมันหายไปแล้ว
“คุณเสือไล่เธอไปแล้วยังมีเสนอหน้าอยู่อีก ฉันนับถือความใจกล้าจริงๆ แพรชมพู”
ยี่หวาสอดแทรกบทสนทนาหวังเอาคืนให้เธอเจ็บแสบ
มือเรียวเล็กเคยกำมือแน่นด้วยความโกรธต่อผู้ชายใจดำ ชอบประจานเธอตรงหน้า สักพักคลายออก ก่อนที่เธอจะไปตามที่เขาต้องการ ขอทำอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
พยัคฆ์มองตามร่างบอบบางวิ่งกลับเข้าไปเอาของอะไรจากในห้องทำงานตัวเอง ชายหนุ่มพูดความจริง เขาไม่สนใจเด็กผู้หญิงโตแต่ตัวกับอายุ ตามตื้อผู้ชาย ยิ่งตื้อมาก เขาก็อยากวิ่งหนี
“คนใจดำ เราไปหลงรักคนพวกนี้ได้ยังไงกันนะ”
สุดท้ายบ่นอุบ หยิบเอาข้าวกล่องติดตัวมาจากบ้านใหญ่ออกจากห้องทำงาน พยัคฆ์เห็นสิ่งที่อยู่ในมือเธอแอบใจหายแวบครู่หนึ่ง
“แพรเห็นว่าพี่เสือไม่ได้กินข้าวเช้า ว่าจะเอามาให้ถึงที่นี่ แต่ถ้าพี่เสือไม่รับความหวังดีจากแพร ข้าวพวกนี้พี่เสือไม่ต้องกิน!”
ให้ตงเฉินกินยังจะมีประโยชน์เสียมากกว่า แพรชมพูกำกล่องข้าวไว้แน่นแล้วเดินออกจากออฟฟิศ เหมือนสุนัขตัวที่เธอเลี้ยงรู้เรื่อง เห็นเจ้านายหอบกับข้าวมารีบวิ่งคลอเคลียแข้งขา
“โฮ่ง โฮ่ง”
“เราไปอยู่ในที่ที่ของเราดีกว่านะตงเฉิน”
ในเมื่อเขาไม่อยากให้เธออยู่ เธอกับตงเฉินออกจากชีวิตของอีกฝ่ายก็ได้
คนอย่างเธอไม่จำเป็นต้องให้ใครมาง้อ!
“ทำไมกูต้องสนใจยัยเด็กสร้างปัญหาด้วยวะ”
พยัคฆ์บังคับสายตาไม่ได้ แอบหันมามองแผ่นหลังร่างเรียวบางจับสายจูงสุนัขที่เธอเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาออกไกลจากสายตาระยะห่าง มองอยู่อย่างนั้นจนลับไปแล้ว ก่อนบังคับตัวเองจดจ่อกับงาน
‘ตอนเย็นคงกลับไปซื้อลูกอมเป็นการขอโทษแล้วกัน”
ทว่าเขาอาจลืมว่าตอนนี้แพรชมพูไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อย พอเธอน้อยใจ หันไปฟ้องพ่อแม่เขา แล้วต้องซื้อลูกอมของชื่นชอบแล้วจะหายโกรธ
……
พอหลังเลิกงานจริง คำพูดไม่เป็นความจริง พยัคฆ์ยังกลับบ้านใหญ่ตอนนี้ไม่ได้ เพราะถูกพวกคนงานในไร่องุ่นจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ต้อนรับฉลองเจ้านายกลับมา หลังจากห่างหายทำงานกรุงเทพฯ สองเดือน
“พอแล้วครับ”
แอลกอฮอล์ในร่างกายของเขามีเพิ่มมากขึ้น พยัคฆ์รู้ตัวเองดีว่าเมา ควบคุมมันได้ สติไม่ถึงกับเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าจะยกแก้วเหล้าดื่มเมากรึ่ม ความกล้าก็พลอยมีมากขึ้นตามระดับ
“ไม่ต้องเกรงใจครับคุณเสือ ไม่เมาไม่เลิก เอ้า ชนแก้ว”
บรรยากาศสนุกสนานครึกครื้นกับพวกคนงาน พยัคฆ์แตกต่างจากเจ้านายทั่วไป เขาเข้ากันกับทุกคนได้ดี ไม่เกี่ยงว่าจะลูกน้องหรือคนงาน ทำให้พวกคนงานต่างรักและเคารพเจ้านายฉายาใจดี ฉายานี้ไม่ได้มากันง่ายๆ
“ขอบใจทุกคนมาก เดี๋ยวสิ้นเดือนฉันอาจมีแจกโบนัสให้ทุกคน”
พวกคนงานได้ยินดังนั้นต่างส่งเสียงร้องชอบใจกับการประกาศของเจ้านาย สมแล้วกับความเหน็ดเหนื่อย ผลของคนขยันคือค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ
พยัคฆ์เดินเซเล็กน้อยขึ้นไปนั่งเบาะรถทางฝั่งคนขับรถจิ๊ป โดยมีมิ่งคอยดูแลเจ้านายเมามายหนัก สภาพแบบนี้ถ้าขับรถถึงบ้านไหว เขาว่าสุดยอดแล้ว
“ไม่ต้อง ฉันไม่ได้เมาขนาดนั้น”
เขายกมือห้ามปราบแล้วไล่มิ่งกลับบ้านตัวเอง ชีวิตเสือล่าเหยื่อคงหมดสีสันในชีวิต ถ้าไม่มีผู้หญิงบนเตียงหรือคู่นอนคอยรองรับระบายอารมณ์ ปกติไม่ชอบดื่ม เพราะเมาแล้วหาผู้หญิงต่างจังหวัดยาก
ไม่เหมือนผู้หญิงในตัวเมือง ชอบความสัมพันธ์รักสนุกหรือน้ำแตกแล้วแยกทางใครทางมัน เขาชอบแบบนั้น
“หมาใครวะ”
จำได้ว่าพ่อแม่เขาไม่ได้เลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าบ้าน ทว่าตัวนี้คุ้นๆ เหมือนตงเฉินเจ้าหมาปัญหาพร้อมกับเจ้าของ หรือว่าเขาเมามาก เบลอๆ งงๆ เลยคิดถึงแต่แพรชมพู
ร่างสูงพยายามประคับประคองตัวเอง กลั้นใจเดินขึ้นบันไดสู่ชั้นข้างบน เขาบอกแล้วว่าไม่ได้เมาหนัก แค่เมาเบลอๆ เดินเข้าห้องตัวเองได้
“ประตูก็เปิดยากเปิดเย็นจริง”
ประตูห้องถูกเปิดออกก่อนใช้เท้าปิดสนิท ในใจตอนนี้อยากกระโจนลงนอนบนเตียงนุ่ม สะสมความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน อีกมือเลื่อนสัมผัสสิ่งบางอย่าง เหมือนผิวนุ่มลื่นของผู้หญิง
หรือว่ามิ่งจะรู้ใจเจ้านายด้วยการเฟ้นหาผู้หญิงสะอาดมาให้เขาฟัดถึงที่ หลังจากกินเหล้ามา
เขารู้สึกตัวตั้งแต่อยู่ภายในรถ แต่ก็รู้ว่าที่นี่คือบ้านไร่ ไม่ใช่ไนต์คลับต้องหิ้วสาวขึ้นคอนโดฯ ชานเมืองทุกครั้ง
‘ไม่ต้องอ้อยอิ่ง เธอมาที่นี่ก็เพื่อรองรับอารมณ์จากฉัน จะเอาให้ตายคาเตียงไปเลย อดอยากปากแห้งมานาน!’