07.30 น.
พยัคฆ์มีคำถามมากมายอยู่ในหัวอยากหันหน้ามาถามพ่อแม่ ขณะที่ทุกคนเข้ามาร่วมรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับแขกไม่รับเชิญในสายตาของเขา
แพรชมพูยังกล้าเสนอหน้ามาที่นี่อีก!
ตามเขาเข้ามาร่วมนั่งอยู่บนโต๊ะ ทำเหมือนยัดเยียดตัวเองเข้าไปเป็นคนสำคัญของชีวิตไม่พอ บดเบียดต้นขานุ่มใกล้ชิดหวังให้เขาเกิดอารมณ์อีก
ในระหว่างที่ทั้งคู่ลดน้อยลงเรื่อยๆ แทบทำให้ปลายจมูกหันมาชนกัน เขาลนลานเขยิบถอยห่างทันที
แพรชมพูใจแป้ว แอบหน้าเสีย ทว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยอมแพ้จนกว่าเธออาจถอดใจไปเอง ถ้าเขายังไร้เยื่อใยต่อตนเองเสมอต้นเสมอปลายอยู่อย่างนี้
“แม่ชวนหนูแพรมากินข้าวที่บ้านใหญ่ด้วย เสือคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยจ๊ะ”
พูดไปก็เท่านั้น พยัคฆ์ไม่มีสิทธิ์เสียงข้างมากต่อรองประมุขใหญ่อยู่แล้ว บ้านไร่แสงจันทร์แม่ของเขาเป็นใหญ่ แม้แต่พ่อพยักหน้ารับทุกอย่าง นับประสาอะไรกับลูกชาย
“ใครจะกล้าว่าขัดใจอะไรคุณแม่ล่ะครับ”
“ดีจ้ะ ต่อจากนี้ไปแม่จะให้หนูแพรขึ้นมาเป็นผู้ช่วยแม่ครัวของแม่เพ็ญของเขา และก็ขึ้นมากินข้าวกับเราทุกมื้อ เสือไม่ว่าอะไรใช่มั้ย?”
นอกจากพยัคฆ์จะตกใจแล้ว แพรชมพูก็ไม่คิดว่าจะได้รับความเมตตาใจดีจากท่าน
“คุณแม่!”
“แพรไม่รบกวนขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณป้า”
หลุบตาต่ำจะก้มลงมามองฝ่ามือตัวเองสอดประสานกุมเอาไว้ ถึงเธอบอกว่าแอบชอบเขาข้างเดียวขนาดนั้น ทว่าไม่หน้าด้านถึงขนาดทำตัวกลายเป็นผู้หญิงอยากมีคนรักจนตัวสั่นสู้เข้า
เธออยากเต๊าะเขาเล่นๆ เล็กน้อย น้ำหยดกร่อนลงหินทุกวันให้พอกระชุ่มกระชวย
“รบกวนอะไรกัน ป้าเห็นหนูแพรมาตั้งแต่ตัวเท่านี้ ใจจริงป้าอยากได้หนูแพรเป็นลูกสาวด้วยซ้ำ เอ๋ หรือว่าอยากเป็นลูกสะใภ้ของป้ากันแน่จ๊ะ จริงไหมเสือ”
พยัคฆ์นั่งเกร็ง คอแข็งตัวทื่อนิ่ง ชายหนุ่มไม่ยอมรับ ก่อนขอตัวลุกจากบนโต๊ะอาหาร ยิ่งรู้ภายหลังว่าแพรชมพูเป็นคนทำอาหาร ความอยากของเขาก็ลดน้อยลงจนไม่อยากกระเดือกลงคอ
“อ้าว เสือ”
“ผมกระเดือกไม่ลงหรอกครับ ไปกินอยู่ออฟฟิศดีกว่า” สบายใจกว่าตั้งเยอะ ท้ายประโยคหลังนี้เขาเก็บซ่อนมันไว้กลัวว่าถูกแม่เอ็ดใส่
“เสือ! ไม่เป็นไรนะหนูแพร”
นับดาวหันมาปลอบใจหญิงสาว คำพูดหยาบคาบของพยัคฆ์กลัวส่งผลกระทบความรู้สึกของเธอ
“แพรค่อนข้างชินชาแล้วค่ะคุณป้าดาว”
เสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงยีนส์พร้อมปีกหมวกกว้างปกป้องจากแสงแดดข้างนอก แพรชมพูเตรียมพร้อมเพื่อการนี้เสมอ ถึงป้านับดาวอยากให้เธอเรียนต่อระดับปริญญาตรีเพื่อกลับมาสมัครงานช่วยทำงานบริษัทของพยัคฆ์ ทว่าเธอไม่อยากเป็นภาระให้ใครเพิ่ม
บางคนเรียนจนจบปริญญาตรีก็ไม่ได้งานทำ หรือหวังเงินเดือนสูง สมัยนี้หางานตรงสายยาก ทว่าเธอไม่ได้เรียนต่อ แต่ก็มีโอกาสเรียนรู้งานจากผู้มีประสบการณ์ อีกอย่างแพรชมพูชอบเลี้ยงสัตว์ ทำการเกษตร ทำความสะอาดฟาร์มโคนม รีดน้ำนม ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุก
และที่นี่เธอก็มีเป้าหมายคอยพุ่งชนอยู่...
……
“พี่เสือจะเข้าออฟฟิศที่ไร่องุ่นใช่มั้ยคะ แพรขอติดรถไปด้วยคนนะคะ”
แพรชมพูวิ่งกระหืดกระหอบออกมาหาหน้าบ้าน ตงเฉินมีสุนัขเป็นเพื่อนเล่นออกไปตั้งแต่เช้า พ่อเธอเข้าไร่ตามคำสั่งพยัคฆ์ แม่เพ็ญก็ประจำการอยู่ที่ครัวบ้านใหญ่
ส่วนลูกสาวน่ะเหรอมาหยดน้ำลงกร่อนหินแข็งกระด้าง แข็งมาก เดี๋ยวหยอดทุกวันก็คงละลายลงเอง
เจ้าของไร่แสงจันทร์คิ้วขมวด “รถฉันไม่ใช่รถสาธารณะที่คนอย่างเธอจะมาขึ้นรถตามใจชอบ”
แปลกคน เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนชวนขึ้นรถผู้ชายตัวเองก่อน แพรชมพูน่าจะเป็นคนแรกกล้าบ้าบิ่นเอ่ยปากชวน ทว่ารถเขาเป็นรถเปิดประทุน รถสปอร์ตคันสีดำเงาวาบวับหรูหราเหมือนคนในเมืองใช้กันเสียส่วนใหญ่ เธอน่าจะชอบแบบนั้น
แต่...เธอชอบขึ้นรถจิ๊ปเก่าๆ เนี่ยนะ?
“ลองของแปลกบ้างก็ได้นะคะ ชีวิตพี่เสือจะได้มีสีสัน”
เธอคลี่ยิ้มทำทีว่าเป็นเรื่องน่าขำคนเดียว
“ฉันไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนแบบเธอแล้วละ”
“แล้วสเปคผู้หญิงที่พี่เสือชอบแบบไหนคะ แพรจะได้ปรับตัวให้เข้ากับสเปคของพี่เสือดูบ้าง”
“ฉันชอบแบบไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่เธอ”
เขาสบตากับเธอขณะพูดเสียงเข้มออกโมโหขึ้นนิดๆ ถอนหายใจใส่ ยอมให้เธอขึ้นรถจิ๊ปเก่าๆ คลุกฝุ่นคลุกดิน เผลอๆ อาจตกบ่อโคลนน้ำขังก็ได้
“ขึ้นมาสิ อยากไปไม่ใช่เหรอ” อย่างน้อยเขาก็ไม่ใจร้ายกับเธอเสียทีเดียว “หรือว่าอยากแอคท่าเป็นนางเอกการละครตากแดดจนผิวคล้ำก็ตามใจ”
“พี่เสืออย่าทิ้งแพรให้อยู่คนเดียวสิ”
ร่างบอบบางจับหมวกปีกกว้างอยู่บนศีรษะตนเองกลัวว่าจะทำหลุดระหว่างวิ่งขึ้นรถจิ๊ปเก่าๆ เธออุตส่าห์แต่งหน้า ประโคมเครื่องสำอางที่ป้านับดาวให้จนมั่นใจว่าสวยแล้วระดับหนึ่ง ทว่าทำไมเขาถึงไม่ชายตามองสักนิด
รถจิ๊ปเก่าๆ พาเจ้าของไร่แสงจันทร์เข้าที่ทำงาน รวมแล้วก็สามสิบนาทีจากบ้านใหญ่ แพรชมพูแทบทรุดตัวลงนั่งกับพื้นกับความเร็วแรง เธอมั่นใจว่าเขาสั่งมิ่งขับรถแรงเพื่อกลั่นแกล้ง
หัวใจข้างในเต้นแรงเมื่อแขนแกร่งช้อนหลังโอบกอดร่างบางขึ้นมาทรงตัว พยัคฆ์รับผิดชอบคนใช้จอมจุ้นจ้านในบ้านเข้ามาตากแอร์ออฟฟิศอยู่ห่างจากไร่องุ่นไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร
“ถ้าอยากอยู่ที่นี่สงบก็เข้าไปนั่งรอเงียบๆ ด้านในห้อง อย่าทำตัวปัญหาวุ่นวายให้ฉันปวดหัวอีก ฉันทำตามคำสั่งของแม่เท่านั้น อย่าคิดเกินเลย”
“คนใจดำ!”
“ฉันมันใจดำอยู่แล้ว เธอชอบหาเรื่องให้ฉันเอง”
พยัคฆ์ยัดร่างบอบบางเข้าข้างในห้องทำงานของตนเอง ล็อคกลอนประตูสำเร็จ พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เมื่อจัดการตัดปัญหาสำเร็จแล้วหนึ่ง
คนงานรู้เพียงแค่แพรชมพูเป็นลูกสาวป้าเพ็ญศิริ แม่ครัวประจำบ้านแอเรียสพอร์ต ทว่าคนที่นี่ไม่รู้ว่าครอบครัวเธอกับเขาสนิทกัน และแม่ของเขาชอบเข้าข้างลูกคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง
ความลับได้รั่วไหลแน่ถ้ามีคนรู้เห็น!
“คุณเสือกลับมาจากกรุงเทพฯ เมื่อไหร่คะ ยี่หวาคิดถึงคุณเสือ รอคุณเสือกลับมาทุกวัน”
ผู้ช่วยแผนกการบัญชีเห็นเจ้าของไร่กลับมาสำรวจที่ทำงานตัวเอง ยี่หวาปราดวิ่งเข้ามาจับมือถือแขนชายหนุ่มด้วยความลืมตัว เธอแอบสนใจพยัคฆ์ตั้งแต่เข้ามาทำงานวันแรก ตลอดสองปีที่แอบลอบๆ มองๆ ว่าชายหนุ่มยังครองตัวเป็นโสด
ยี่หวายังพอมีความหวัง
พยัคฆ์กระแอมเบาๆ ส่งเสียงบอกเชิงว่ายี่หวาทำเกินหน้าที่ แตะต้องผู้ชายทำเหมือนสนิทสนม สาวเจ้ารู้ตัวรีบปล่อยแล้วยิ้มอ่อน สร้างระยะห่างพอสมควร
“ฉันจะกลับมาตอนไหนมันไม่ใช่เรื่องของเธอที่ต้องรู้ งานบัญชีที่ฉันสั่งเสร็จแล้วเหรอ ถึงเสนอหน้าโผล่มาให้เห็น”
ยี่หวายิ้มเจื่อน สอดนิ้วประสานไว้ “เสร็จแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณยี่หวาช่วยสรุปรายได้ทั้งหมดของผลผลิตองุ่นหมดทั้งไร่ ผลกำไรและผลขาดทุนของปีแล้วส่งภายในวันนี้ที่ห้องทำงานของฉัน”
“ค่ะคุณเสือ”
พอได้รับคำสั่งจากคนที่เธอแอบชอบ ยี่หวาลนลานแทบเรียกว่าวิ่งมากกว่าเดินรวดเร็วเลยก็ว่าได้ เข้าไปแผนกตัวเองประจำการอยู่
ร่างสูงใหญ่แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตคลุมทับเสื้อสีขาวด้านในอีกชั้น กางเกงยีนส์ เครื่องประดับนาฬิกา น้ำหอมผสมโลโคลญกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของผู้ชาย ของทุกชิ้นล้วนมีราคา แม้แต่รองเท้าบูทแบบมีเชือกใส่ก็ยังเป็นแบรนด์ของมาร์ติน สีดำเงาวับที่เขาชื่นชอบ
“สวัสดีครับคุณเสือ”
เลขาหนุ่มทำหน้าที่แทนเจ้านายผายมือเชิญพยัคฆ์เข้าห้องประชุม หลังเสร็จจากไปงานกรุงเทพฯ แทนแม่ตัวเอง
พอเป็นเวลางาน พยัคฆ์ต้องจริงจัง เด็ดเดี่ยว ก่อนหันมาถามเลขาหนุ่ม
“งานที่นี่เรียบร้อย? ไม่มีอะไรติดขัดใช่มั้ย”
“ไม่มีครับ ลูกค้ารายใหญ่ต้องการผลผลิตแปรรูปไวน์องุ่นชั้นดีของทางเรามาก คุณเสือไม่ต้องกังวล ทางนั้นมีคนคอยควบคุมดูแลอยู่ ปีนี้กำไรพุ่งทะยานมากกว่าปีก่อนมากครับ”
พยัคฆ์แค่พอรู้ผลรายงานคร่าวๆ นำพาร่างแกร่งตัวเองเข้าในห้องประชุมเพื่อสรุปผลรายงานทุกเดือน ทว่าพอผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง เสียงดังจากข้างนอก ทำให้การประชุมต้องสะดุด
คนก่อเรื่องคงไม่พ้นยายจอมจุ้นจ้าน!
‘แพรชมพู เธอจะไม่ก่อเรื่องสักวันได้มั้ย ฉันปวดหัว’
...
มาอัพต่อแล้วนะ คนอ่านหายไปไหนหมด อัพดึกมีคนนอนหรือยัง คอมเมนท์ให้กำลังใจหน่อยน้า??