คำตอบจากคนที่เธอแอบมีใจมาตลอดสี่ปี ความประทับใจแรกเห็นเสือนักล่าผู้เคร่งขรึมสลัดลายคราบเสือทิ้งกลายเป็นผู้ชายมุมมองที่อบอุ่น เวลาอยู่กับสัตว์หรือมีน้ำใจมีเมตตาช่วยเหลือตงเฉิน หมดความเชื่อมั่นในตัวเขาหมดสิ้น
มือเรียวสวยจิกกำมือแน่นไขว้หลังไว้ด้านหลัง แพขนตางอนไล่กระพริบหยดน้ำตากำลังเอ่อล้นออกมา กลั้นเอาไว้ไม่ให้เขาเห็นว่าเธอร้องไห้ ผิดหวังกับคำตอบนั้น
แพรชมพูพยายามทำตัวเข้มแข็ง ยอมรับความจริงว่าการทำดีต่อเสือโลกส่วนตัวสูงมันไร้ค่าประโยชน์
“ค่ะ แพรเข้าใจกระจ่างชัดเจนขึ้นแล้วค่ะ”
พยัคฆ์สับสนบางอย่างในตัวเอง เขาต้องดีใจที่กล้าบอกแบบนั้นตรงๆ ทว่าอีกมือข้างหนึ่งอยากเอื้อมไปใช้นิ้วไกล่เกลี่ยเช็ดน้ำตากำลังไหลพรากอาบแก้มนวล
แต่เธอบ่ายเบี่ยง ไม่รับความเมตตาจากเขา “คนเรานี่ก็แปลกนะคะ รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร แต่ก็ยังอยากฝันลมๆ แล้งๆ เพื่อสนองความต้องการตัวเอง”
“ฉันชอบคนสวยก็จริงแต่ก็ไม่ได้เกลียดเธอนะแพร แค่ฉันเห็นเธอมาตั้งแต่ตัวเธอเท่านี้ ความคุ้นเคยชิน ภาพความจำวัยเด็กทำให้ฉันรู้สึกกับเธอมากกว่าเจ้านายกับลูกสาวหัวหน้าคนงานไม่ได้จริง”
เธอปาดน้ำตาทิ้งมัน ก่อนตัดใจจากเขาเข้าไปหาตงเฉิน พยัคฆ์เลิกสนใจลูกสาวป้าเพ็ญศิริ ใจจริงอยากยื้อเวลาถามว่าสี่ปีก่อนเธอทำอะไรมา
พยัคฆ์สะบัดศีรษะไล่เรื่องเกี่ยวกับลูกสาวหัวหน้าคนงานออก ชายหนุ่มเพียงแค่เป็นห่วงตามประสาเจ้านายกับลูกสาวลูกจ้างเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลย
……
แพรชมพูต้องการใครสักคนเข้ามาปลอบใจ หญิงสาวเฟลเล็กน้อย แค่อกหักกับรักแรกและรักข้างเดียว พอทำใจได้สักพักก็หาย
ผิดหวังได้แต่อย่าท้อ...
ตงเฉินเห็นเจ้านายสาวแอบเศร้าหมองรีบกระดิกหาง ส่งเสียงร้องเข้ามาคลอเคลียออดอ้อนเรียวขาสวย เหมือนกับว่าอยากให้กำลังใจเธอ
“โฮ่ง โฮ่ง”
“ตงเฉิน อย่าส่งเสียงดัง กินอิ่มแล้วทำไมยังไม่นอน”
ปกติหมาน้อยตงเฉินต้องหาที่หลับที่นอนบริเวณแถวนี้ ทว่ามันคงรู้ว่าเธอกำลังอกหัก(ทิพย์)หรืออย่างไรไม่รู้ ก็เลยอยากมานอนนิ่งๆ อยู่ใกล้กับเธอ
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วละ อกหักข้างเดียวยังไม่ตายหรอก ตื่นมาพรุ่งนี้ต้องใช้ชีวิตเหมือนเดิม”
เธอปิดปากหาวเหวอกับความง่วง ทำตัวเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เงยหน้าขึ้นมามองพระจันทร์ส่องแสงสว่างท่ามกลางในยามราตรี
แพรชมพูเป็นผู้หญิงธรรมดาที่อยากลองมีรักดีๆ กับเขาบ้าง แต่ก่อนใบหน้าขาวเนียนนวลเคยมีรอยสิวผดผื่นขึ้นแดง น้อยครั้งที่เธอไม่อยากไปโรงเรียน พวกผู้ชายตีตัวออกห่าง ไม่กล้าเข้าใกล้ ถึงเข้าขั้นรังเกียจ
เธอพูดความจริง ทั้งชีวิตไม่เคยมีแฟนสักคน!
“คุณพระจันทร์คะ แพรคงหมดหวังแล้วใช่มั้ยคะ แพรอยากลองมีความรักกับใครสักคน แต่ก็ถูกผู้ชายปฏิเสธ”
คำพูดจากพยัคฆ์ยังคงทิ่มแทงข้างในหัวใจเธอ
“แต่แพรจะไม่ยอมแพ้หรอกนะคะ แพรอยากจะลองมันสักครั้ง ถ้าปลายทางข้างหน้ามันจบ แพรก็ไม่เสียใจอีกแล้วค่ะ”
เกิดมาหนึ่งชีวิตแล้ว เธอก็ไม่นึกเสียดายที่จะลองมัน ถ้าหากว่าตอนนี้พยัคฆ์ยังไม่มีใครหรือมีข่าวว่าแต่งงานกับผู้หญิงคนไหน ก็มีคนพร้อมสนับสนุนหนุนหลังแพรชมพูเต็มที่แล้ว
เขาเคยถามเธอว่าเป็นผู้หญิงประเภทไหนถึงได้มาตามตื้อผู้ชาย เขาชอบเป็นผู้ล่าเหยื่อ ไม่ชอบเหยื่อล่าเสือ
‘คุณป้าดาวเคยสอนแพรว่าผู้ชายมีน้อยกว่าผู้หญิง ถ้าเราเกิดชอบใครไปแล้วก็ต้องเดินหน้าลุยจีบ ให้เขารู้ว่าเรามีตัวตน พี่เสือก็โสด แพรก็โสด พี่เสือบอกว่าชอบผู้หญิงสวย แพรก็เปลี่ยนแปลงตัวเองจนสวย ถ้าไม่หมดแรงง่าย ๆ แพรก็จะตื้อจนกว่าพี่เสือยอมใจอ่อน’
‘กินยาไม่เขย่าขวดหรือไง!’
‘แพรไม่เป็นอะไรสักหน่อย ทำไมต้องกินยา?’
‘ยาแก้ปัญญาอ่อนไง’
พยัคฆ์พูดจาตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม แพรชมพูแอบบ่นอุบใส่เขาว่าด่าแรงมาก แต่เปล่าเลย เธอชอบเขาแบบนี้ ดีกว่าผู้ชายบางคนพูดจาหวานล้อมหวานหู ทว่ากลับหาความจริงใจไม่มี
บรรยากาศภายในห้องนอนของเจ้าของไร่แสงจันทร์อึกครึมเหมือนความสับสนบางอย่างข้างในใจของพยัคฆ์ มือหนาหยิบกรอบรูปภาพสมัยเด็ก ตั้งแต่เขาจำความได้อายุสิบสี่ปีได้มั้ง
เพ็ญศิริเป็นแม่ครัวที่สนิทสนมกับครอบครัวเขา นับดาวรัก ผูกพันและเอ็นดูเหมือนน้องสาว พอรู้ว่าป้าเพ็ญกำลังคลอดลูกสาวคนแรก นับดาวและคาร์เตอร์ให้ความสำคัญ กระทั่งจองโรงพยาบาลเอกชนพิเศษ ออกค่าใช้จ่ายเอง เพราะแม่อยากได้ลูกสาว แต่ได้เขาเป็นลูกชายคนเดียว
พยัคฆ์ถูกสอนจากแม่ว่าต้องรักเอ็นดูน้องแพรชมพู ทำตัวเหมือนพี่ชายแสนดีดูแลน้อง ปกป้องน้อง แต่ก่อนเด็กหญิงหน้าตาพอเป็นวัดเป็นวาได้ ไม่ได้สวยมากเหมือนเด็กทั่วไป
จุดเปลี่ยนชีวิตของแพรชมพูก็คงอายุสิบสองปี เธอเป็นโรคภูมิแพ้ง่ายประกอบกับไม่ค่อยดูแลตัวเอง ฮอร์โมนวัยรุ่นกำลังปรับเปลี่ยน ช่วงปิดเทอมชอบออกตามพ่อทำงานตากแดดบ่อยตามประสาเด็ก
ใบหน้าเคยขาวนวลกลับมีสิวผดผื่นแดงเรื่อขึ้นมาง่ายดาย ลุกลามทั่ว ช่วงนั้นต้องหายามารักษาหน้าสิวผดผื่น แต่โชคร้ายกลับแพ้ยาตัวหนึ่งต้องพาไปหาหมอผิวหนังเฉพาะทาง
สี่ปีที่พยัคฆ์ไม่ค่อยเจอหน้าลูกสาวป้าเพ็ญ ด้วยความที่แพรชมพูอาย ไม่มั่นใจกับตัวเองจึงหมกตัวอยู่บ้านพักหัวหน้าคนงาน และเขาต้องทำงานหนัก ต้องออกไปดูงานแทนมารดาที่กรุงเทพฯ นานครั้งจะกลับมาพักผ่อนบ้านตัวเอง
ครั้งแรกชายหนุ่มเจอแพรชมพู ยอมรับว่าแอบตกตะลึงกับความสวย หน้าเรียวใสกระจ่าง ผิวขาวผ่องเปล่งปลั่งมีออร่า ขาวกว่าแสงแดงจากพระอาทิตย์เวลาออกแดด แม้ผู้หญิงผ่านเข้ามาในชีวิตเพื่อต้องการคู่นอนยังไม่สู้เทียบเท่าเธอด้วยซ้ำ
แวบแรกเขาสงสัยว่าใคร?
“ไม่อยากจะเชื่อว่ายายเด็กกะโปโล หน้าสิวคนนั้นจะสวยขึ้นมากเกือบจำไม่ได้ แต่เอ๊ะ ฉันจะไม่สนใจทำไม ก็แค่เด็กไม่รู้จักโต โตแต่ตัว สมองยังทำตัวเหมือนเด็ก”
มือข้างขวาวางกรอบรูปถ่ายความทรงจำวัยเด็กที่มีต่อลูกสาวป้าเพ็ญศิริลงบนโต๊ะ ความรู้สึกเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวอย่างไร ปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้น
เสียงแจ้งเตือนดังสั่นเข้ามือถือสีดำตามสไตล์ของพยัคฆ์ พื้นหลังห้องนอนเขายังคลุมโทน พลางหยิบขึ้นมาดู ไม่น่าใช่กลุ่มTiger man เพราะปิดแจ้งเตือนเสียงเด้งขึ้นตั้งแต่กลับมาเชียงราย
ยายเด็กกะโปโล หน้าสิว : ส่งสติกเกอร์ราตรีสวัสดิ์
ยายเด็กกะโปโล หน้าสิว : มัวแต่คุยกันเรื่องส่วนตัวของแพรจนลืมว่าตงเฉินอยากเล่นกับพี่เสือด้วย พรุ่งนี้พี่เสือจะเข้าออฟฟิศทำงานมั้ยคะ มีคนถามหาเยอะ จนแพรตอบแทนไม่ทันแล้ว
ข้อความล่าสุดเผยอปากหนาของเขาออก ร่างแกร่งเปลือยท่อนบนสวมทับผ้าขนหนูปกปิดความแข็งแรงช่วงล่างกำลังสาวเท้าก้าวเดินมานั่งบนเตียง
Tiger : เธอไม่ได้เรียนหรือไง ถึงได้มาจุ้นจ้านเรื่องคนอื่น
คราวก่อนเจอกันสี่ปี แพรชมพูยังเรียนอยู่ชั้นม.4 พอนับเวลาแล้วจากเด็กอายุสิบหกปีก็กลายเป็นอายุยี่สิบปีบริบูรณ์ แพรชมพูน่าจะเรียนระดับอุดมศึกษาต่อ เรื่องเงินส่งเรียนไม่ใช่ปัญหา คุณนายนับดาวมีเงินตั้งมากมาย
เด็กกะโปโล หน้าสิว : แพรเรียนจบตั้งแต่สองปีแล้วค่ะพี่เสือ
Tiger : เรียนจบแล้วทำไมไม่เรียนต่อ
เขาไม่ได้จุ้นจ้านเรื่องของคนอื่น แค่ถาม ย้ำ! ถามดูเพียงเพราะอยากรู้
เด็กกะโปโล หน้าสิว : รอเป็นเจ้าสาวของคนแถวนี้อยู่
Tiger : แก่แดด! ฉันไม่ชอบเด็ก
เด็กกะโปโล หน้าสิว : แพรไม่อยากสร้างภาระเพิ่มค่ะ แพรขอมาเป็นลูกจ้างของพี่เสือ ทำงานในไร่ดีกว่า แค่ทำความสะอาดฟาร์มก็ได้เงินพออยู่พอกินแล้วค่ะ
Tiger : แต่เงินเดือนทำงานตากแอร์สบายๆ ที่ออฟฟิศก็สูงนะ ให้ฉันส่งเรียนมั้ย หรือว่าอยากสมัครเป็นคนใช้ในบ้านฉันก็ได้นะ
เขาเสนอ เธออ่านแล้วเงียบ คงบ่ายเบี่ยงเลี่ยงตอบ ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มกับความจนมุมของลูกสาวหัวหน้าคนงาน ทว่าข้อความต่อมาทำเอาเขากัดริมฝีปากล่างแน่นด้วยความโมโห
เด็กกะโปโล หน้าสิว : ไม่ชอบแพร แต่มาสนใจถามแพรเพื่ออะไรกันคะ ถ้าไม่คิดอะไรก็อย่ามาเล่นกับใจสิค่ะ แพรยิ่งอ่อนไหวอยู่
เห็นที พยัคฆ์ต้องเปลี่ยนชื่อจากเด็กกะโปโลหน้าสิวกลายเป็นยายเด็กจอมจุ้นจ้านแล้วสิ กล้ามากที่มาเล่นลิ้นกับเสือคำราม!