16.00 น.
“เมื่อตอนกลางวันลูกแพรไปแหย่อะไรให้คุณเสือโกรธล่ะ เขาดูไม่พอใจมากเลยนะ”
ครอบครัวเล็กของหัวหน้าคนสวนกลับมารับประทานอาหาร บรรยากาศมีแต่ความสนุกไม่หยุดเพราะแพรชมพูช่างพูดช่างชวนถามตลอดจนคนเป็นแม่ห้ามปราบเอ็ดดุเสียงดัง
“แพรก็เลยตอบความจริง คนโลกส่วนตัวสูงทำเป็นรับไม่ได้ แพรอุตส่าห์หวังดีกลับหวังร้ายเสียอย่างนั้น ทีหลังแพรไม่ไปบ้านใหญ่หรอก อยู่เล่นกับตงเฉินดีกว่า”
“แต่พ่อคิดต่างออกไปนะ การที่แพรละเมิดความเป็นส่วนตัวของเจ้านายมันก็มากเกินไป จริงอยู่ที่ทางนั้นเขารักและเอ็นดูแพรเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง แต่ลูกต้องรู้จักมารยาทด้วย”
ชนัตศรลูบศีรษะของลูกสาว เขากับแม่ของแพรชมพูเข้ามาทำงานในไร่แสงจันทร์ตั้งแต่ยังไม่พบรักกันด้วยซ้ำ พ่อเธอเป็นคนต่างพื้นที่ขอเข้ามาหางานทำแล้วเจ้าของไร่ก็ใจดีรับคนทำงาน เข้ามาพบรักกับเพ็ญศิริ ซึ่งเป็นแม่ครัวประจำบ้านหลังใหญ่ สร้างครอบครัวด้วยกันจึงมีผลผลิตความรักออกมาคือแพรชมพู
“ที่พ่อมาพูดให้แพรยอมใจอ่อนก็เพราะพี่เสือเรียกไปตักเตือนใช่มั้ยคะ คนอะไรบ้าอำนาจ นิสัยไม่ดี ปาก...อีกต่างหาก”
แพรชมพูลอบสังเกตเห็นว่าพยัคฆ์เรียกหัวหน้าคนงานเข้ามาพูดคุยสักสิบนาทีก็ปล่อยไปเพราะถึงเวลาเลิกงาน ท้ายประโยคหลังเกือบห้ามโพล่งปากพูดคำหยาบคาบออกมา
“ทำเป็นว่าเขา แล้วทีตัวเองเถอะ แม่เห็นนะว่าช่วงตอนกลางวันที่คุณเสือลงมาจากรถ ลูกพาตงเฉิน หมาของลูกที่เลี้ยงไว้ออกไปดักรออยู่พุ่มต้นไม้ข้างบ้าน”
“แม่เห็นด้วยเหรอคะ”
พูดจบเบิกตาโตขึ้น เรื่องนี้เถียงไม่สู้เพราะมันเป็นความจริง เธอรู้ข่าวจากป้านับดาวว่าพยัคฆ์กลับมาวันนี้
จากเด็กหน้าสิวผดผื่นต้องรักษาตัวมานานจนกลับมาผิวขาวใสหน้าเนียนนุ่ม แต่สวยกว่านี้ไม่ได้เดี๋ยวมีคนเข้ามาจีบเยอะจะยุ่ง เธอรอเขากลับมาคนเดียว คนนั้นคือพยัคฆ์
แต่ก่อนอย่าหวังว่าคนงานในไร่คิดอยากจะเหลียวมองเลย เข้าใกล้แต่ละที ถอยหนีอย่างรังเกียจ ทว่ากลับพลิกจากหลังมือเป็นหน้ามือ
คำว่าหน้าตาดีใช้ได้ผล หน้าบ้านเธอไม่แห้ง!
“แม่เป็นแม่ของลูกนะ ทำไมแค่นี้แม่จะไม่รู้”
คนอาบน้ำร้อนมากก่อนอย่างแม่เธอดูสายตาหวานเชื่อมของเธอออกว่าแอบชอบพยัคฆ์เมื่อสี่ปี และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองยอมรักษาสิวผดผื่นเต็มใบหน้าตามคำสั่งป้านับดาว
ได้รับคำตอบจากแพรชมพูว่า ‘พี่เสือชอบคนสวย ถ้าแพรเปลี่ยนแปลงตัวเอง สักวันพี่เสืออาจหันมาสนใจคนสวยอย่างแพรก็ได้’
“แพรอิ่มแล้ว ขอตัวเอาข้าวไปให้ตงเฉินก่อนนะคะ ท่าทางจะหิว”
แพรชมพูหลบสายตาเขินอายจากพ่อแม่ตัวเอง หญิงสาวปลีกตัวออกทางหลังบ้าน ไม่ลืมหยิบข้าวของตงเฉินไปด้วย
“โฮ่ง โฮ่ง”
หมาน้อยตงเฉินกระดิกหางดีใจอย่างลืมตัว ขณะผูกเชือกมัดอยู่ใต้ต้นไม้ ซึ่งเป็นที่นอนประจำของมัน
“พอหิวแล้วก็ร้องเรียกหาเลยนะ เจ้าตงเฉิน กินให้อิ่มนะ”
แพรชมพูให้อาหารสุนัขด้วยความรัก สี่ปีแล้วมั้งที่หญิงสาวรับหมาน้อยเปียกปอนด้วยโคลนด้วยการตกท่อบาดเจ็บขาหลังท่ามกลางคืนฝนตกกระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา พามารักษาตัวที่นี่ หมาจรจัดไร้เจ้าของ
และเป็นสี่ปีที่แพรชมพูยอมหน้าด้านหน้าทนทำความสะอาดห้องส่วนตัวของคนนั้น พยัคฆ์เขาเป็นผู้ชายมุมอ่อนโยนคนหนึ่ง หญิงสาวเพิ่งเห็นมุมมองครั้งแรกเวลาที่เขายอมเอาตัวเองไปช่วยลูกหมาน้อยตกท่อ ระหว่างถูกแม่ขอร้องรับเธอจากโรงเรียน
โชคร้ายขี่จักรยานตกบ่อโคลนน้ำขังที่เขาโฟกัสเส้นทาง คืนนั้นฝนตกเส้นทางวิวข้างนอกไม่ค่อยเห็นชัดจึงตกลงไปอย่างที่เห็น
“พอเห็นแกก็นึกถึงตอนนั้นเนอะ สภาพเปียกมอมแมมเลอะโคลนน้อยกว่าฉันเสียอีก” จำได้ว่าตอนนั้นเธอถูกเขาล้อเลียนว่าเป็นแม่หมูตกท่อมากกว่า
“ฮะแฮ่ม”
แพรชมพูเลิกสนใจสุนัขที่ตัวเองเลี้ยงเหลือบไปมองเสียงกระแอมจากใครบางคน พยัคฆ์เบนทางอื่น ไม่อยากเป็นจุดสนใจมากว่าว่าเขาเผลอเอาตัวเองมาหยุดที่เด็กกะโปโล
“มีอะไรเหรอคะพี่เสือ หรือว่าคิดอยากจะมาหาเรื่องแพรเมื่อตอนกลางวันอีก”
“ที่นี่เป็นไร่ของฉัน ทำไมฉันจะมาเดินเล่นไม่ได้ อย่าคิดมโนไปไกลว่าเธอทำตัวเองให้ขาวขึ้น สวยขึ้น แล้วจะได้รับความสนใจจากฉัน ในสายตาฉัน เธอก็แค่ยายเด็กเจ้าปัญหา”
หางตาพลันเหลือบมองเห็นสุนัขขนฟูสีน้ำตาลกำลังสนใจอาหารตรงหน้า เขาจำได้ว่าคือเจ้าหมาน้อยมอมแมม ผ่านมาสี่ปีจากหมาน้อยกลายเป็นเจ้าสุนัขพันธุ์ใหญ่ สงสัยเจ้านายคงเลี้ยงอย่างดี
“หมาในปากพี่เสือยังน้อยกว่าตงเฉินของแพรด้วยซ้ำ”
“ตงเฉิน? ใคร” อะไรไม่เจ็บแสบเท่าคำพูดของเธอ
“หมาน้อยน่ารักของน้องแพรที่เราสองคนไปเจอในคืนฝนตกหนักยังไงล่ะคะ ตอนนั้นพี่เสือไม่น่ารัก ไม่อยากพามันไปหาหมอต้องให้แพรบอก พี่เสือถึงจะพาเจ้าตงเฉินรักษาขาหลังของมัน แพรชอบชื่อนี้ก็เลยตั้งชื่อให้มันว่าตงเฉิน หมาของน้องแพรเอง”
“นี่เธอหาว่าฉันเป็นหมาเหรอ”
แพรชมพูส่ายหน้ายิ้ม
“พี่เสือพูดเองนะว่าพี่ยอมรับเป็นหมา ตงเฉินมันรู้ความมากกว่าพี่เสือที่ไม่รู้จักอะไรเลย แพรขอตัวไปทำงานก่อนค่ะ เดี๋ยวจะโดนทำโทษไม่ให้กินข้าวเที่ยงเมื่อคราวที่แล้วอีก”
เขาก็เพิ่งรู้ว่าเธอติดผู้ชายในซีรีย์มาก บ้าดาราเอามาก ถึงขนาดเอาชื่อดาราในดวงใจมาตั้งชื่อสุนัขขนฟูสีน้ำตาล เจ้าสี่ขาฉลาด แสนรู้ได้
“พี่เสืออยากมีฉายามั้ยคะ เอาไว้กัดกับตงเฉิน”
แน่ะ! พูดไม่ทันขาดคำ เธอก็เล่นเขาซะแล้ว หมากัดเสือหรือเสือจะกัดหมากัน พยัคฆ์ชักจะหมดความอดทนกับเธอ
“แพรชมพู อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันให้มาก อย่าคิดว่ามีพ่อแม่ฉันหนุนหลังแล้วจะมาพูดจาไร้มารยาทกับเจ้าของไร่ ไม่งั้นพ่อแม่เธอจะเดือดร้อน”
พยัคฆ์ไม่อยากเสวนาคุยกับเด็กแสบซุกซนให้เปลืองน้ำลาย แพรชมพูว่ากำลังจะตามหลังแผ่นหลังไป เดินสองก้าวกลับสะดุดล้มก้อนหินเกือบล้มลง ในขณะที่เขาหันกลับมาประคองรับไว้ทัน
“อุ๊ย!”
เหมือนภาพซีรีย์เกาหลีของแพรชมพูแวบเข้ามาในหัว ฉากพระเอกรับนางเอกพร้อมสบตากันท่ามกลางแสงจันทร์ยามราตรี เพียงแค่แพรชมพูไม่ใช่นางเอกแต่เป็นตัวประกอบที่ไม่มีใครเอา
“หน้าเคลิ้มแบบนี้คิดอะไรกับฉันหรือเปล่า ฉันไม่น่ามาแถวนี้เลย เจ็บตัวทุกที”
เจ็บตัวเพราะแรงกระแทกจากตัวแพรชมพูซบแผงอก เขาดันหัวของเธอออกเมื่อเห็นว่าไม่เป็นอะไร
“ให้เวลาซบอกหน่อยก็ไม่ได้ ทำเป็นหวงตัวจัง”
หมดกัน! ภาพซีรีย์เกาหลีรักสุดฟินมโนของเธอไม่ใช่อย่างที่คิด แพรชมพูย่นจมูกใส่คนตายด้านอารมณ์ เธออุตส่าห์เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูสวย ดูเหมือนเขาจะไม่ส่งสายตาสำรวจไล่ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าของเธอซึ่งๆ หน้าเหมือนเคยทำกับผู้หญิงอื่น
“หวงตัว?”
เขาหัวเราะน้อยๆ ขบขำกับเด็กน้อยเมื่อวานซืน
“ฉันไม่คิดจะแตะต้องลูกสาวหัวหน้าคนงาน แม้แต่ปลายเล็บก็ไม่คิดจะสัมผัส เธอวิ่งถลาเข้ามากอดผู้ชายก่อน”
“เมื่อกี้มันเป็นอุบัติเหตุ แพรขอโทษแล้วกันค่ะ”
แม้ว่าแพรชมพูอยู่นิ่งเรียบเฉย ทว่าเธอยังอยากยกมือขอโทษคนที่มีอายุมากกว่าตน พยัคฆ์ไม่รับเพราะไม่มีความจำเป็น มันเป็นอุบัติเหตุเกิดขึ้น
“กองไว้ตรงนั้นแหละ” พอนึกอะไรขึ้นได้ “อ้อ ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปเสนอหน้าขึ้นบ้านใหญ่อีก หมานั่นด้วย ฉันไม่ชอบ”
ท่าทางหน้าหงอยรู้สึกผิด เสียงคำตอบอึกๆ อักๆ ในลำคอทำเอาพยัคฆ์คันยุบยิบข้างในประหลาด ก่อนยื่นบางอย่างให้กับแพรชมพู
“เอาไปสิ ยิ่งเธอร้องไห้ สภาพดูไม่ได้”
แพรชมพูโกรธขึ้นมาทันที
“พี่เสือ!” ร้องใส่เขาเสียงดัง “แพรไม่ใช่แพรคนก่อนแล้วนะคะ เมื่อกี้แพรไม่ได้ร้องไห้ด้วย”
“อ้าวเหรอ”
เขาไหวไหล่แล้วเก็บผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยลงกระเป๋าเสื้อผ้า กลิ่นน้ำหอมพร้อมนาฬิการาคาแพงที่สวมประดับไว้บนข้อมือ เป็นเจ้าของไร่ที่รวยติดอันดับต้นๆ ของจังหวัดเชียงราย ของทุกชิ้นล้วนมีราคา
“พี่เสือ แพรขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ”
ระหว่างเธอพาเขาออกห่างจากตงเฉิน พยัคฆ์หันขวับกลับมาหรี่ตามองคนถามก่อนเอ่ยปากออกมา
“มีอะไรอีกยายจอมยุ่ง” น้ำเสียงเขาติออกรำคาญนิดๆ
บ้านใหญ่ของเขาก็ตั้งห่างไกลจากบ้านพักของแพรชมพูมาพอสมควร ทว่าพยัคฆ์กลับเดินเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็เจอยายเด็กเจ้าปัญหากับสุนัขจอมป่วนอาละวาด
เธอเพียงแค่ยิ้มกับน้ำเสียงทุ้มนุ่ม แพรชมพูพยายามประคองเสียงสั่นต้องการจะถาม กลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนที่แอบชอบ
“พี่เสือเคยบอกว่าชอบคนสวย ตอนนี้แพรก็เริ่มสวยแล้ว หน้าไม่มีรอยสิวผดผื่น ผิวเริ่มขาวแล้วนะคะ แบบนี้พี่เสือคงจะ...”
คำต่อไปกลับกลืนเข้าลำคอแทบไม่ทัน เมื่อเขาตอบทันขวับไม่ต้องขบคิดเวลานาน
“ฉันเคยบอกเหรอ?”
หรือว่าเขาคิดจะบ่ายเบี่ยง เลี่ยงตอบคำถาม?
“ก็ตอนนั้นพี่เสือบอกแบบนั่นนี่น่า”
เมื่อสี่ปีที่แล้ว เธอยังคงจำมันขึ้นใจได้ดี เธอพยายามรักษา ดูแลตัวเองเพื่อให้เขาหันมาสนใจ
แววตาสีนิลเหยียดมองเรือนร่างบอบบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาเป็นคนชอบคนสวยที่หน้าตาก็จริง เขาก็มีสิทธิ์เลือก เจอผู้หญิงมาหลายรูปแบบ ทว่าเป็นคู่นอนก็ว่าไปอย่าง แต่แพรชมพูคือกฎข้อห้าม
เขาไม่รังเกียจ แค่กระเดือกเอาไม่ลง!
“ฉันเคยบอกว่าชอบคนสวย แต่หนึ่งในนั้นต้องไม่มีเธอรวมอยู่ด้วย”