บทที่10 ก็ไม่อยากจะยุ่ง

1944 คำ
ไลน์กลุ่มTiger man เขาคิดถูกหรือคิดผิดจะต้องเอาเรื่องส่วนตัวเองมาปรึกษาพวกเพื่อนเพลย์บอย ทว่าหันไปพึ่งพาใครก็ไม่ได้ พ่อแม่รู้ยิ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่างน้อยเขายังมีเพื่อนค่อนข้างจัญไรคอยเป็นโถสุขภัณฑ์รองรับระบายความตึงเครียดทุกข์ใจ ใช่...การเผลอมีอะไรกับแพรชมพูด้วยความสติไม่เต็มร้อย ทำให้เขาหงุดหงิด ถ้าย้อนเวลาตอนนั้นได้ เขาเลือกไปเอากับโคนมเจ้าแดงยังจะดีกว่า Tiger : มีใครว่างมั้ยวะ กูมีเรื่องด่วนจะปรึกษา เช้าๆ อย่างนี้พวกเพื่อนผู้ชายกลางคืนน่าจะยังไม่ตื่นมาเห็นข้อความ หลังจากออกห่างยายเด็กนมแบนนั่น ชายหนุ่มสลัดเสื้อผ้าตัวเองโยนทิ้งใส่ตระกร้าหน้าห้องน้ำ ใช้สบู่ฟอกตัวทำความสะอาดลวกๆ เขาไม่อยากมีรอยสัมผัสจากตัวเธอติดอยู่ ทว่าผิวลื่นนุ่มเมื่อคืนสัมผัสจากต้นขาเรียวยังคงวนเวียนกลับเข้ามานึกย้อนจนเขาต้องสลัดศีรษะตัวเองแรงๆ ตบแก้มตัวเองว่าอย่าหลงใหลไปกับมัน Set : เช้าๆ แบบนี้มึงมีอะไรหรือเปล่าไอ้เสือ เห็นไอ้เจมส์บอกว่ามึงกลับเชียงรายแล้วนี่น่า เซซาราเข้ามาอ่านแล้วตอบคนแรก ก่อนจะมีเจมส์ เพลย์บอยตัวพ่อสวนถามกลับ รู้จักคนกว้างขวางน่าจะพ่วงนิสัยชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้าน James : ส่งรูปภาพ James : เห็นกูไม่มีงานทำหรือไงถึงลากมาช่วย งานแต่งของมึงหรือของกู แต่เอ๊ะ เจ้าสาวสวยดีนี่น่าไอ้เซต กูขอ Set : เด็กของมึงมีเป็นขโยง ทำไมมึงไม่เอา เมียกู ใครห้ามแตะ ถ้ามึงอยากมีเมียก็รีบหาสิวะไอ้เจมส์ James : รอแจกขนมเลี้ยงหลานมึงดีกว่า กูยังไม่รีบ ให้พวกมึงสามคนแต่งงานเอาเมียก่อน เออ ว่าแต่ไอ้เสือมีอะไรจะพูด @Tiger พยัคฆ์เกือบลืมว่าอีกสองสัปดาห์จะมีงานแต่งของเซซารากับอ้อนรักจัดตั้งอยู่โรงแรมใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ทว่าไอเดียเด็ดๆ ผุดขึ้นมาในสมองปัจจุบันทันด่วน เขาอาจใช้โอกาสหนีหลบซ่อนตัวอยู่ที่นั่น จนแน่ใจว่าไม่เกิดอาการฟุ้งซ่านเวลาได้สูดดมกลิ่นหอมจากตัวลูกสาวป้าเพ็ญศิริ ‘ทีนี้ยายเด็กจอมจุ้นจ้านก็ไม่ตามตื้อฉันแล้วสิ’ Tiger : เมื่อคืนกูเมามาก กูก็เลยเข้าห้องผิด สองเพื่อนสนิทส่งสติกเกอร์รูปแมวแบมือยกไหล่ ‘What!’ James : มึงเข้าห้องผิดเป็นเรื่องใหญ่? แล้วกูล่ะ เกือบไปซัมติงกับคนมีผัวแล้วจะไม่ข่าวดังเลยเหรอไงวะ Tiger : กูเข้าห้องผิด แล้วห้องนั้นเป็นของยายเด็กแพรชมพูนั่นอยู่ จากนั้นกูก็หน้ามืดตามัวเผลอมีอะไรกันกับยายเด็กนมแบน แต่กูก็ไม่ได้สติถึงขนาดปล่อยใน ป้องกันไว้อย่างดี Set : ทำไมสถานการณ์มันคุ้นๆ พิลึก James : น้องแพรชมพู คนที่แกบอกว่าป้าดาวอยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้เหรอวะ ทั้งเซซารา การันย์และเจมส์ มีใครบ้างจะไม่รู้จักแพรชมพู เด็กสาวสดใส ร่าเริง ช่างพูดช่างคุย ใบหน้าเต็มด้วยสิวผดผื่น แถมพยัคฆ์บ่นบ่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องพ่อแม่ให้ความสำคัญแพรชมพู จนเขากลายเป็นหมาหัวเน่าเรียบร้อย Set : กูขอตัวแล้วกัน ไปหาเมีย คิดถึงเมีย Tiger : มึงมีเมียได้ก็รอดตัวเลยนี่หว่า ไอ้เจมส์ มึงอย่าเพิ่งไป James : กูรอฟังอยู่ ตกลงเรื่องมันไปมายังไงกันแน่วะ คนอย่างเจมส์ต้องเอาเรื่องสอดแนมของชาวบ้านมาล่อถึงจะอยู่ พยัคฆ์กำลังคุยปรึกษาเพื่อนกลุ่มไลน์อย่างออกรส เสียงจากมิ่งวิ่งแตกตื่นเข้ามาหานายใหญ่ “คุณเสือ แย่แล้วครับ” “มีอะไรมิ่ง” ละจากมือถือสีดำก่อนหย่อนมันเก็บไว้ลงใต้กระเป๋ากางเกง “เจ้าแดงไม่รู้เป็นอะไรครับ วิ่งออกจากฟาร์มทำเอาพวกโคนมตัวอื่นแตกตื่นตามกันด้วยครับ” “มีใครไปทำอะไรมันหรือเปล่า” ปกติเจ้าแดง ชื่อโคนมตัวโปรดของพยัคฆ์ค่อนข้างสงบเสงี่ยม ถ้าไม่มีใครแกล้งหรือกระตุ้นมีหรือจะทำให้มันตกใจวิ่งหนีเตลิด “ไม่รู้ครับคุณเสือ” พอได้ยินข่าวแบบนั้น เจ้าของไร่แสงจันทร์รีบขึ้นรถจิ๊ปตรงไปยังฟาร์มโคนมและโคเนื้อมีนับร้อยกว่าตัว ส่วนมากมิ่งและแพรชมพูจะเป็นคนคอยดูแล ทำความสะอาด ให้อาหารมัน กลับวันนี้ไร้ร่องรอยยายเด็กนมแบนราวกับไม้กระดานนั่นมาทำงาน พยัคฆ์ไปถึงก็มีพวกคนงานคอยควบคุมสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติ ยกเว้นเจ้าแดงวิ่งทางชันเกือบออกจากอาณาเขตรั้วไร่ของเขา ชายหนุ่มต้องตามมันกลับมา ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมเกินครึ่งชั่วโมง “แพรชมพูหายไปไหน ทำไมถึงไม่มาดูแลเจ้าแดง” แววตาคมเข้มตวัดมาทางมิ่งต้องการคำตอบ ขณะที่สอดส่องหาร่างบางอยู่ในชุดคนงานไม่เจอ เพราะเขาสั่งให้แพรชมพูดูแลเจ้าแดง ทำความสะอาดฟาร์ม สั่งห้ามยุ่งวุ่นวายกับออฟฟิศตั้งแต่เกิดเรื่องกับยี่หวา ผู้ช่วยแผนกบัญชีสาว “คุณแพรบอกว่าไม่สบายครับก็เลยขอหยุดวันนี้ครับคุณเสือ” มิ่งกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอยากลำบาก คนงานก็รู้ว่าพยัคฆ์ไม่ค่อยชอบลูกสาวชนัตรศร ชอบหาเรื่องใช้งานหนัก ดีกว่าออกไปตามตื้อผู้ชาย “ฉันอนุญาตแล้วเหรอว่าให้หยุด!” พยัคฆ์หัวเสีย ฝากเจ้าแดงให้มิ่งดูแลชั่วคราว ส่วนตัวเขาจะลากตัวยายเด็กจอมจุ้นจ้านเรื่องคนอื่นกลับมาทำงาน ดัดจริตสำออยปากบอกว่าไม่สบาย คนอย่างเขามีตัวเลือกให้จิ้มมาเป็นภรรยาเยอะแยะ ยกเว้นแพรชมพูที่เป็นตัวแก้ขัด เรื่องคืนนั้นเขาไม่อยากพูดถึง... บ้านพักหัวหน้าคนงาน เสียงเคาะประตูดังสองสามครั้งติดต่อกัน ไร้เสียงตอบรับจากคนด้านใน พยัคฆ์กัดฟันขบแน่น ทุบมือเข้าใส่ประตูแรงๆ “เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้ยายเด็กบ้า คิดเหรอว่าเมื่อคืนฉันจะพิศวาสเธอแล้วจะไม่ไปทำงาน แพรชมพู นี่เป็นคำสั่งหัวหน้าของเธอ” พอไม่ได้ดั่งใจ ชายหนุ่มขอกุญแจจากป้าเพ็ญศิริมาเปิดเพื่อลากตัวลูกน้องสาวกลับเข้าทำงาน ทว่าร่างบางนอนหมดสติภายในห้องนอน อีกมือจับเขย่าแขนพบว่าตัวเธอร้อน “บ้าจริง ทำไมต้องมาเป็นไข้ตอนนี้ว่ะ” ร่างสูงช้อนอุ้มคนหมดสติ นอนซมพิษไข้มีเจลเย็นคอยติดอยู่หน้าผากมนช้อนเข้าสู่วงแขน น่าจะเป็นเพราะเธอรู้ตัวว่ากำลังไม่สบาย คิดว่าติดแปะเจลเย็นลดไข้แล้วก็หาย สมองเธอคิดได้แค่นี้เหรอ แพรชมพู! “คุณเสือ ลูกแพรเป็นอะไรเหรอคะ” คนเป็นแม่มัวแต่ทำงานอยู่ในครัวจึงไม่ทันสังเกตอาการแปลกของลูกสาว “น่าจะเป็นไข้สูงนะครับ” เขาก็ห่วงพวกคนงานทุกคน แพรชมพูเป็นหนึ่งในคนงานนั้น “มิ่งเตรียมรถ” ได้ยินดังนั้น มิ่งพยักหน้ารับคำสั่งเจ้านายบ้านไร่ เตรียมรถยนต์อีกคันเอาไว้ใช้ออกไปข้างนอก ด้วยความร้อนใจ ร่างแกร่งรีบอุ้มพาคนงานสาวขึ้นรถท่ามกลางความงุนงงสงสัยของพวกคนงาน ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่ของพยัคฆ์ “น้องเพ็ญ เกิดอะไรขึ้นเหรอ” ด้วยความที่เพ็ญศิริอ่อนกว่าและสนิทสนมกันจึงเรียกว่าน้อง “เอ่อ คุณเสืออุ้มลูกแพรจะไปหาหมอค่ะ เห็นว่าลูกแพรไม่สบาย” คนฟังอ้าปากค้างเหวอๆ ทาบอกตกใจ “ตายจริง” “น้องดาว” เดือดร้อนสามีคอยประคับประคองรับร่างภรรยาเกือบเป็นลม อาการน่าจะหนักกว่าคนหมดสติเสียอีก “ไม่รู้ว่าหนูแพรจะเป็นยังไงบ้าง” นับดาวพยายามระงับอาการแตกตื่นลง เธอเห็นลูกสาวคนสนิทมีท่าทีแปลกๆ แต่ไม่เอะใจว่าแพรชมพูเป็นหนักถึงขั้นคอพับคออ่อนหมดสติในเวลาต่อมา “คุณนับดาวไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ยายแพรมีคุณเสืออยู่” ต่อให้จะห่วงลูกสาวมากขนาดไหน ทว่าหัวใจขานรอนของคนเป็นแม่ยังคงเชื่อมั่นในตัวเจ้าของไร่แสงจันทร์ คงได้แต่นั่งรอฟังข่าวจากคนทางโน้น …… ใบหน้าคมสันเคยตึงเครียดกลับผ่อนคลายลง เมื่อรู้ผลรายงานจากหมอว่าแพรชมพูแค่เป็นไข้สูง นอนพักให้น้ำเกลือสักสองสามวัน ตอนนี้เธอหลับด้วยฤทธิ์ยาลดไข้ที่ฉีดเข้าสู่กระแสเลือด ขณะที่ถูกย้ายพักห้องพิเศษตามความต้องการเจ้าของไร่แสงจันทร์ พยัคฆ์รู้แล้วว่าเหตุเธอเป็นไข้เพราะเขาเอง! “อื้อ...” ร่างบางกำลังขยับตัวเล็กน้อยจากการรู้สึกตัว แพขนตางอนปรือขึ้นช้าๆ หันมองรอบห้องเป็นครั้งแรกที่ตื่นก่อน กลิ่นยาชวนอาเจียนก็พอเดาออกว่าที่นี่คือโรงพยาบาล “ตื่นแล้วเหรอ” เธอหันขวับไปทางต้นเสียง ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะเป็นคนนำพาตัวเธอนำส่งโรงพยาบาล พี่เสือใจดำกับน้องแพรจะตาย! “ถ้าไม่ตื่น พี่เสือก็ไม่เห็นแพรลืมตาหรอกค่ะ” “อย่ามายอกย้อนฉัน! แพรชมพู” เขาอุตส่าห์รีบร้อนช้อนอุ้มร่างบอบบางหมดสติ กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรร้ายแรงแล้วนับดาวมาพาลมาโทษใส่เขาไม่หยุด มันน่าทิ้งปล่อยให้นอนซมตายอยู่บ้านพัก พยัคฆ์ควบคุมชีวิตคนงานนับร้อยภายในไร่ ถ้าคนงานเป็นอะไรก็ต้องห่วงหาห่วงใยธรรมดา ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ พอเธอฟื้นขึ้นมาก็ปากดีใส่เขาเชียว “แพรเป็นอะไรเหรอคะ” แพรชมพูจำได้เลือนรางว่าตัวร้อนๆ หนาวๆ คิดว่าตัวเองเป็นไข้ก็เลยเอาเจลเย็นแปะติดไว้หน้าผากมน คงนอนพักผ่อนเสียหน่อยคงหาย หรือว่าเหตุเกิดเรื่องเมื่อคืน เขายังตามติดเธอไม่ห่าง อย่าหวั่นไหวเชียว คืนนั้นมันแค่อุบัติเหตุ “ฉันเห็นเธอไม่ไปทำงานดูแลเจ้าแดงก็เลยมาดู เห็นว่าเธอนอนหมดสติก็เลยพามาให้หมอดู เธอเป็นไข้สูง แต่ตอนนี้หมอฉีดยาลดไข้แล้ว ฉันให้เธอหยุดงานสองสามวัน” เธอย่นคิ้ว คนชอบเจ้ากี้เจ้าการ เข้มงวดเรื่องงานจะยอมให้ลูกน้องหยุดพักสองสามวันโดยไม่ตัดเงินค่าจ้างแต่ละวัน “มองอะไร?” เขาเบี่ยงหน้าหนีทางอื่น “แพรก็แค่แปลกใจ” หากพูดมันต่ออีก กลัวว่าเขาจะโกรธพาลอาละวาดใส่เธอ “ปกติพี่เสืออยากวิ่งหนีแพรจะตายไป” “ก็ไม่อยากจะยุ่งนักหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องเมื่อคืน ถ้าฉันไม่เมาไร้สติก็ไม่มีทางแตะต้องตัวคนที่อยากได้ฉันเป็นสามีจนตัวสั่น” “แล้วมายุ่งกับแพรทำไมคะ พี่เสือน่าจะปล่อยให้แพรนอนซมพิษไข้ให้ตายคาบ้านพักคนงาน พี่เสือจะได้ดีใจที่ไม่มีแพรคอยวุ่นวายในชีวิตพี่เสืออีก” “นี่เธอ!” ไม่เคยมีใครยอกย้อนเขาแสบขนาดนี้! แพรชมพูทำใจยอมรับความจริงได้แล้ว ทว่าหัวใจเจ้ากรรมไม่ฟังคำสั่งการของเธอ ยังคงคิดถึงและโหยหาต้องการอ้อมกอดของเขา ต่อให้โอกาสนั้นจะแทบไม่มี เกลียดตัวเองเหลือเกิน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม