Ep.7

1729 คำ
Ep.7 Namkhing talk. "แพร...ช่วยไรฉันหน่อยดิ" "อะไร จะให้ช่วยอะไร ?" "ช่วยฉันคิดวิธีที่จะเอาคืนอีตานั่นหน่อยสิ" ใช่แล้วละค่ะ เรื่องที่ฉันจะให้ยัยแพรช่วยก็คือ...ช่วยฉันคิดวิธีที่จะเอาคืนอีตานั่นไงล่ะ เพราะถ้าให้ฉันคิดเอง บอกตรงๆ เลยว่าฉันคิดไม่ออก! "...แกอยากได้เหรอ ?" แพรจิบเหล้าที่อยู่ในมืออีกครั้ง แล้วหันหน้ามาถามฉันด้วยเสียงเรียบนิ่ง "?" "ฉันหมายถึง...อีตานั่นน่ะ ?" "ไม่!" ฉันตอบแพรไปแบบไม่ต้องคิด ใครจะไปอยากได้ ปากก็จัด แถมยังไม่มีความรับผิดชอบอีกต่างหาก "ถ้าไม่อยากได้แล้วทำไมแกไม่ปล่อยให้มันจบๆ ไปล่ะ" ปล่อยให้มันจบไปงั้นเหรอ ? ทั้งๆ ที่ฉันเป็นคนเสียหายเนี่ยนะ "ไม่มีทางอะ ถ้าทำแบบนั้นฉันก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบฝ่ายเดียวน่ะสิ!" "นี่น้ำขิง ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ เดี๋ยวนี้เรื่องเซ็กส์มันไม่มีเสียเปรียบหรือได้เปรียบหรอก มันเป็นเรื่องที่วินวินกันทั้งคู่ แกจะเอาไรกับมันมากวะ" ฉันลืมไปว่ายัยนี่เป็นเด็กนักเรียนนอก สังคมที่นู้นก็เปิดรับเรื่องเซ็กส์อะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่ไง แล้วยิ่งเห็นสีหน้าของไอ้คนที่มันไม่มีความรับผิดชอบแล้วนั้น ฉันนี่ยิ่งยอมไม่ได้เลย "แต่อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ฉันได้เอาคืนอีตานั่นบ้างเถอะ" จะว่าเจ้าคิดเจ้าแค้นก็ได้นะ เพราะมันก็ถูกนั่นแหละ จะให้ฉันเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวมันก็ไม่แฟร์นะ ถ้ามันจะวินวินทั้งคู่มันก็ต้องสมยอมกันทั้องสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ แต่นี่ฉันไม่ได้ยอมสักหน่อย แบบนี้อีตานั่นก็วินอยู่ฝ่ายเดียวน่ะสิ แถมตื่นเช้าขึ้นมายังมาหาว่าฉันประสาทอีก ขอโทษสักคำยังไม่มีเลย! "แล้วแกอยากเอาคืนหมอนั่นแบบไหนล่ะ" แพรถามฉันพลางยกแก้วเหล้าตัวเองขึ้นมาจิบอีกครั้ง ถ้าถามว่าอยากเอาคืนแบบไหนงั้นเหรอ...หึๆ "…แต่งงาน เอาแบบที่ทำยังไงก็ได้ให้หมอนั่นแต่งงานกับฉัน" ฉันนิ่งคิดไปสักพักก่อนจะพูดออกมา ในเมื่อมันมีทางให้เลือกแค่สองทาง ฉันก็จะเลือกทางใดทางหนึ่งนั่นแหละ ซึ่งก็คือการแต่งงาน! "555 นี่แกเอาจริงเหรอ ?" แพรขำออกมาเล็กน้อยอย่างนึกตลกก่อนจะถามฉันออกมา "จริง" "ถามจริงดิ ?" แพรหันมาถามฉันอย่างจริงจัง หลังจากที่ฉันตอบมันไป เพราะเมื่อกี้ฉันตอบมันไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่ได้มีแววของความล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย "อื้ม ฉันเอาจริง" "ฉันถามแกจริงๆ นะ แกเสียซิงหรือเสียสมองกันแน่" "=_=" "...ถ้าแกได้แต่งงานกับหมอนั่นแล้วจะยังไงต่อ ?" "ก็ไม่ยังไง แต่งงานก็คือแต่งงานไง" อีตาบ้านั้นได้สิ่งที่ฉันหวงที่สุดไป ส่วนฉันก็จะขอเอาคืนโดยการเอาชีวิตอิสระของเขามาละกัน ฉันว่าแบบนี้มันน่าจะวินวินและแฟร์กับฉันที่สุด "แล้วแกไม่รอเจอเนื้อคู่ของแกแล้วหรือไง ที่หมอดูบอกน่ะ ?" อ้อ! เรื่องนี้มันอยู่ว่า เมื่อ 2-3 เดือนก่อนฉันไปดูดวงเรื่องความรักกับยัยใบบัวมา แล้วแม่หมอก็บอกฉันว่าอีกประมาณ 4-5 ปีฉันจะเจอเนื้อคู่ แล้วฉันก็เลยเอาเรื่องนี้ไปบ่ไปเล่าให้ยัยแพรที่ตอนนั้นยังเรียนอยู่อังกฤษฟัง มันก็เลยรู้เรื่องที่ฉันไปดูดวงมาไงล่ะ "เห้อ! ถ้าถึงตอนนั้นจริงๆ มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะ" ฉันพูดออกไปอย่างติดเศร้า ถ้าถึงเวลาที่ฉันต้องเจอเนื้อคู่จริงๆ มันคงไม่มีประโยชน์หรอก ในเมื่อสิ่งที่ฉันตั้งใจเก็บไว้ให้เขา โดนไอ้คนที่ไม่มีความรับผิดชอบชิ่งเอาไปแล้ว "...ฉันล่ะหมดคำจะพูดกับแม่สาวโลกสวยหัวโบราณอย่างแกจริงๆ" แพรส่ายหน้าแล้วพูดกับฉันอย่างเอือมๆ "..." แต่ใครว่าฉันเป็นสาวโลกสวยกันล่ะ ฉันน่ะสาวช่างคิดช่างแค้นต่างหาก เอาซิงฉันไปก็ต้องเอาอิสระมาแลกสิ มันถึงจะวินวิน "ถ้าแกจะเรียกร้องให้หมอนั่นรับผิดชอบแกโดยการแต่งงานจริงๆ....ฉันว่าฉันก็พอจะมีวิธีช่วยแกได้อยู่นะ..." "จริง!? ทำยังไง วิธีไหนแกบอกมาเลย" ฉันรีบขยับเข้าไปใกล้ๆ ยัยแพรพร้อมกับถามมันออกไปอย่างตื่นเต้นทันทีที่มันพูดจบ "แต่ว่ามันต้องค่อยๆ ทำไปทีละสเต็ป เริ่มจากคืนนี้ก่อนเลย...มองไปชั้นสอง มีผู้ชายสองคนกำลังมองมาทางเรา และหนึ่งในผู้ชายสองคนนั้นคือเป้าหมายของแก" ยัยแพรพูดพร้อมใช้สายตามองขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นโซน Vip ของผับนี้ พอยัยแพรพูดจบฉันจึงค่อยๆ หันขึ้นไปมองตาม... "!!!" ใช่จริงๆ ด้วย อีตาบ้าซิกซ์เซ้นส์กับวินเซนต์เพื่อนของเขา และตอนนี้สองคนนั้นก็กำลังมองมาที่ฉันด้วย! แล้วที่หนักไปกว่านั้นเลยก็คือตอนนี้อีตาบ้าซิกซ์เซ้นส์อะไรนั่น เขากำลังยักคิ้วให้ฉันอย่างกวนๆ อีกด้วย! "ถือเป็นเรื่องที่ดีที่หมอนั่นทักทายแก..." ยัยแพรยกเหล้าขึ้นมาจิบพร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบๆ "แกต้องแยกให้ออกนะ ระหว่างทักทายกับกวนตีน!" ฉันหันหน้ากลับมามองยัยแพรแล้วพูดขึ้น ก่อนจะคว้าแก้วของตัวเองขึ้นมากระดกจนหมด จากนั้นบาร์เทนเดอร์ก็เอาแก้วใหม่มาเปลี่ยนให้ทันที "ก็ไม่เห็นจะแปลก เพราะดูท่าแล้วแกกับหมอนั่นก็ลิ้นกับฟันอยู่แล้ว" "เออ! ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วแบบนี้แกจะไม่ให้ฉันหมั่นไส้จนอยากจะเอาคืนได้ยังไง" พูดมาแล้วก็ของขึ้นอีกแล้วค่ะ ดูเขาไม่ได้สำนึกใดๆ เลยด้วยซ้ำ ออกมาเที่ยวได้หน้าตาระรื่นเหมือนคนไม่มีความผิดเลย! "...งั้นก็เริ่มคืนนี้เลยสิ" แพรหัวเราะออกมาเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น พร้อมกับใช้สายตามองไปยังชั้นสองอีกครั้ง "แกจะให้ฉันทำยังไง" "ตามฉันมา" พูดจบยัยแพรก็หยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาสะพาย แล้วลุกขึ้นยืน "ห้ะ ? จะไปไหน" ฉันถามมันออกไปอย่างงงๆ แต่ก็ยอมลุกขึ้นและเดินตามยัยแพรไป ไปแบบงงๆ นี่แหละค่ะ "ขอโทษนะครับ โต๊ะ Vip ตอนนี้เต็มแล้วครับ" พนักงานผู้ชายคนเดิมเดินเข้ามาขวางยัยแพรไว้แล้วพูดขึ้น คงจะจำยัยแพรได้นั่นแหละ "ฉันมีโต๊ะแล้ว" ยัยแพรตอบไปด้วยน้ำเสียงปกติแต่สีหน้าเหวี่ยงๆ คือจริงๆ มันไม่ได้ขี้เหวี่ยงขนาดนั้นหรอกนะ แต่แพรมันเป็นหน้าเหวี่ยงอยู่แล้ว "ไม่ได้จริงๆ ครับคุณลูกค้า ถ้ายังไงรบกวนให้คนข้างบนลงมารับได้มั้ยครับ...!?" "โต๊ะผมเองครับ..." ยังไม่ทันที่พนักงานจะพูดจบ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งเดินลงมาจากข้างบนพูดขึ้นมาซะก่อน และผู้ชายคนนั้นก็คือ... "วินเซนต์ ?" แล้วก็เป็นฉันเองค่ะที่งงเป็นไก่ตาแตก งงว่าทำไมเป็นวินเซนต์ที่ลงมารับยัยแพร สองคนนี้รู้จักกันเหรอ แล้วไปรู้จักกันตอนไหน "อ๋อ ถ้างั้นเชิญตามสบายเลยครับ" พอเป็นวินเซนต์ที่เดินลงมารับ พนักงานคนนั้นก็ก้มหัวให้ยัยแพรกับฉันเล็กน้อย พร้อมกับขยับหลีกทางให้พวกฉันสองคนได้เดินขึ้นไป ส่วนวินเซนต์ก็ไม่พูดอะไร เขาหันไปมองหน้ายัยแพรเล็กน้อย ก่อนจะผายมือเชิญให้ยัยแพรเดินขึ้นไป "..." ยัยแพรมองหน้าวินเซนต์ด้วยสีหน้านิ่งๆ หยิ่งๆ ตามสไตล์ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินนำขึ้นไป "...!?" เหลือแต่ฉันที่ยังไม่ขยับไปไหนเพราะยังงงอยู่ มีใครอธิบายให้ฉันฟังได้บ้าง ว่ามันคืออะไรยังไง น้ำขิงงง !? "เธอ...ขึ้นไปสิ" ฉันยืนงงได้ไม่เท่าไหร่ วินเซนต์ยังยืนอยู่ก็สะกิดฉันเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นบอกให้ฉันเดินขึ้นไปข้างบน ซึ่งฉันก็ยอมเดินขึ้นไป เดินไปทั้งที่ยังงงนั่นแหละ ก็จะให้ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อยัยแพรเพื่อนฉันก็เดินนำไปแล้วนี่ "...แล้วเพื่อนนายอีกคนไปไหนล่ะ ?" พอขึ้นมานั่งอะไรเสร็จสรรพยัยแพรก็มองไปรอบๆ แล้วหันไปถามวินเซนต์ที่นั่งอยู่ข้างๆ อ้อ! ตอนนี้ฉันนั่งตรงข้ามกับยัยแพรนะ ส่วนวินเซนต์ก็นั่งอยู่ข้างๆ ยัยแพรนั่นแหละ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันออกมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง มัวแต่งงๆ เอ่อๆ รู้ตัวอีกทีเพื่อนก็ไปนั่งข้างผู้ชายแล้ว "อ้อ! ไอ้ซิกซ์เซ้นส์น่ะเหรอ ?" วินเซนต์ถามแพร "คนที่นั่งอยู่กับนายก่อนหน้านี้น่ะ" "น่าจะไปเข้าห้องน้ำมั้ง หรือไม่ก็น่าจะลงไปหาน้องสาวของมันข้างล่าง" วินเซนต์ตอบ ก่อนจะหันไปส่งสัญญาณให้พนักงานเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้พวกฉันสองคน จากนั้นฉันก็ได้แต่นั่งเงียบๆ และปล่อยให้ยัยแพรกับวินเซนต์คุยกัน เพราะดูจากสายตาของวินเซนต์แล้ว ฉันคิดว่ายังไงคืนนี้สองคนนี้ก็ต้องไปต่อด้วยกันชัวร์ๆ และในระหว่างที่ฉันกำลังนั่งดื่มเพลินๆ ไปได้สักพัก ก็มีคนเดินเข้ามานั่งลงตรงที่ว่างข้างๆ ฉัน พร้อมกับยกมือขึ้นมาโอบไหล่ฉันเอาไว้ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะพูดขึ้น ฟุ่บ! "ไงครับที่รัก" "!?!" และคนที่พูดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ก็อีตาบ้าซิกซ์เซ้นส์ไงล่ะ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม