หลังจากดื่มอยู่หลายรอบมญชุ์ชัญญาก็ตัดสินใจซื้อน้ำผึ้งเป็นของฝากสำหรับคุณปู่ จากนั้นทินภัทรก็พาหญิงสาวไปดูคอนโดมิเนียมของเขา
“ห้องกว้างมากเลยนะคะ มีกี่ห้องนอนคะพี่ทิน” เธอเดินไปรอบห้องก่อนจะถามขึ้น
“มีสองห้องนอนกับหนึ่งห้องทำงานเล็กๆ ถ้าเราแต่งงานกันแล้วชัญญ่าย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ได้ไม่ต้องซื้อคอนโดหรอก”
“พี่ทินหมายถึงเราสองคนจะอยู่คอนโดห้องเดียวกันเหรอคะ”
“คอนโดห้องเดียวกันก็จริงแต่เรานอนกันคนละห้อง ชัญญ่าไม่ต้องซื้อคอนโดหรอกนะ เพราะหลังแต่งงานครบหนึ่งปีพี่ไม่แน่ใจเลยนะว่าชัญญ่าจะต้องกลับไปอยู่ที่บ้านหรือเปล่า เอาไว้ถึงตอนนั้นถ้าสนใจอยากจะได้คอนโดจริงๆ พี่จะช่วยหาห้องที่เหมาะสมกว่านี้ให้เองโอเคไหมครับ”
“ทำไมเราจะต้องอยู่คอนโดเดียวกันด้วยล่ะพี่ทิน เราอยู่แยกกันก็ได้ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ”
“ผู้ใหญ่ของเราทั้งสองฝ่ายมีคนรู้จักเยอะแยะ ชัญญ่าคิดว่าถ้าหากเราอยู่กันคนละห้องหรือคนละคอนโดคอนโดจะไม่มีใครเอาเรื่องนี้ไปบอกท่านเหรอพี่ว่ามันเสี่ยงเกินไปถ้าหากเราจะต่างคนต่างอยู่แบบนั้นจริงๆ”
“แต่...”
“ถ้าเราอยู่ในห้องนี้เราจะนอนห้องเดียวกันหรือนอนคนละห้องก็ไม่มีใครรู้หรอกนะชัญญ่า” ทินภัทรอธิบายเพราะเขาไม่อยากให้เธอต้องเสียเงินซื้อคอนโดมิเนียมห้องใหม่อีกอย่างเขาก็คิดเอา ยังไงก็จะต้องกล่อมให้เธออยู่ที่บ้านของเขาให้ได้
“ที่พี่ทินพูดมันก็ถูกนะคะ ครอบครัวเรามีคนรู้จักเยอะจริงๆ ด้วยค่ะ”
“ชัญญ่าชอบห้องนี้ไหม ถ้าไม่ชอบพี่จะพาไปดูคอนโดของพี่อีกที่หนึ่ง”
“ชอบค่ะ”
“แล้วอยากตกแต่งอะไรเพิ่มหรือเปล่าบอกพี่ได้เลยนะพี่จะจัดการให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชัญญ่าว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว ที่นี่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและใกล้ร้านทองของคุณแม่ด้วยค่ะ การเดินทางสะดวกมากๆ เลย”
“พี่ว่าถ้าแต่งงานแล้วพี่จะขับรถรับส่งชัญญ่าเอง ไม่ต้องนั่งรถไฟฟ้าหลอก”
“ได้ยังไงกันคะรถในกรุงเทพติดมากๆ ถ้าพี่เอาแต่รับส่งชัญญ่าแล้วจะมีเวลาไปทำงานเหรอ”
“พี่เป็นผู้บริหารให้ชัญญ่าไม่ต้องเข้างานตรงเวลาก็ได้เรื่องการเดินทางเราค่อยคุยกันทีหลังหรือว่าชัญญ่าอยากได้รถไว้ใช้สักคันไหมเดี๋ยวพี่ซื้อให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชัญญ่าก็มีรถของบ้านแล้ว แต่ขับไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่เพราะไม่ได้ขับรถที่เมืองไทยนาน”
“อยากขับรถเก่งๆ ไหมล่ะ”
“อยากสิคะ”
“เอาไว้วันหยุดเวลาออกไปข้างนอกพี่จะให้ชัญญ่าเป็นคนขับดีไหม ขับบ่อยๆ จะได้คุ้นกับถนนของกรุงเทพ”
“ก็น่าสนใจนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นชัญญ่าจะลองขับเย็นนี้เลยไหม ขับไปบ้านพี่”
“เอาไว้วันหลังเถอะค่ะวันนี้ชัญญ่ายังไม่ได้ทำใจและยังไม่ได้เอาใบขับขี่มา”
“ก็ได้งั้นเราไปหาคุณย่ากันเลยไหม อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าพี่จะได้โทรสั่งแม่บ้านให้ทำให้”
“ไม่เป็นไรค่ะชัญญ่ากินอะไรก็ได้ไปกันเถอะค่ะ”
ออกจากคอนโดมิเนียมทินภัทรก็ขับรถพามญชุ์ชัญญามายังบ้านของเขาซึ่งใช้ระยะเวลาไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น
“บ้านพี่ทินกับคอนโดอยู่ไม่ไกลกันเลยนะ ชัญญ่าสงสัยจังว่าพี่ซื้อคอนโดไว้ทำไม”
“ก็คอนโดนั้นมันเป็นโครงการของบริษัทพี่เลยซื้อไว้”
“แล้วพี่ทินได้ไปพักที่คอนโดบ้างหรือเปล่า”
“นานๆ ครั้งน่ะถ้าวันไหนออกไปดื่มจนดึกก็แวะค้างที่นั่นเพราะกลัวว่าขับรถเข้ามาในบ้านดึกๆ แล้วคุณย่าจะตื่นน่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจเพราะถ้าหากบ้านกับคอนโดมิเนียมไม่ได้ห่างกันแบบนี้การที่เธอกับเขาจะอยู่คอนโดมิเนียมและมาหาคุณย่าอรุณีที่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร
เมื่อชายหนุ่มจอดรถที่หน้าบ้านหญิงสาวก็เปิดประตูและเดินเข้าไปในบ้านซึ่งตอนนี้คุณย่าอรุณีกับเด็กรับใช้กำลังนั่งทำอะไรกันอยู่ในห้องรับแขก
“สวัสดีค่ะคุณย่า”
“หนูชัญญ่าสวัสดีจ้ะ”
“คุณย่าทำอะไรคะ”
“ย่ากำลังเลือกแหวนน่ะ หนูมาก็ดีเลยมาช่วยลาเลือกแหวนหน่อย”
“เลือกแหวนอะไรคะคุณย่า”
“ก็แหวนแต่งงานไงหนูชอบวงไหนหนูเลือกได้เลย”
“คุณย่าคะเราแต่งงานตามพินัยกรรมนะคะ หนูรับของมีค่าแบบนี้ของคุณย่าหรอกค่ะ”
“ที่ไม่รับเพราะที่บ้านของหนูมีของพวกนี้เยอะแล้วใช่ไหมลูก ย่าลืมคิดเรื่องนี้เลย”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะคุณย่า หนูแค่เกรงใจเราก็รู้กันอยู่ว่าเพราะอะไรหนูกับพี่ทินถึงแต่งงานกัน”
“ถึงแม้การแต่งงานจะเป็นเพราะตามพินัยกรรมแต่เราก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณีนะ ชุดเครื่องเพชรพวกนี้ย่าเก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้งาน”
“คุณย่าก็เก็บไว้ให้ลูกหลานคนอื่นได้นี่คะ”
“ลูกหลานคนอื่นแต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้วและย่าก็ให้ของเหล่านี้กับทุกคน ที่เหลือตรงนี้ย่าก็เก็บไว้ให้ทินเขาน่ะ หนูชัญญ่าชอบชุดไหนก็เลือกไปได้เลยหรือถ้าไม่ชอบจะสั่งแบบใหม่ก็ได้บอกย่ามาได้เลยนะ”
“คุณย่าหนูขอบคุณคุณย่ามากๆ นะคะที่เมตตาแต่มันมากเกินไปจริงๆ”
“พี่ว่าชัญญ่าลองเลือกดูนะเผื่อมีวงไหนที่ถูกใจหรือถ้าไม่ถูกใจเอาไปให้ที่ร้านขึ้นตัวเรือนใหม่ก็ได้”
หญิงสาวมองเครื่องเพชรตรงหน้าอย่างใช้ความคิดเธอที่บ้านของเธอค้าขายอัญมณีทั้งทองเพชรแล้วทับทิมก็เลยพอจะรู้ราคาว่าแต่ละชิ้นนั้นราคามันไม่น้อยเลย
“คุณย่าคะหนูว่าให้คุณย่าเป็นคนเลือกให้ดีกว่านะคะ”
“ทำไมล่ะลูก ไม่กลัวว่าย่าเลือกไม่ถูกใจเหรอ”
“ถูกใจสิคะ หนูเชื่อว่าคุณย่าจะต้องเลือกได้ถูกใจหนูนอนค่ะคุณย่า”
“เอาเป็นแหวนวงนี้ดีไหม” คุณอรุณีหยิบแหวนเพชรที่เธอเคยได้รับจากสามีให้ในวันแต่งงานส่งให้กับมญชุ์ชัญญา แหวนวงนี้เธอห่วงมากแม้กระทั่งลูกสะใภ้หรือหลานสะใภ้คนอื่นเธอก็ไม่ให้ใครเลยแต่วันนี้กลับรู้สึกถูกชะตากับมญชุ์ชัญญาและอยากจะให้แหวนของตนเองเป็นแหวนแต่งงานของหลานสะใภ้
“สวยจังเลยค่ะคุณย่า” มญชุ์ชัญญามองแหวนที่คุณย่าอรุณีส่งให้แล้วยิ้มอย่างถูกใจ
“ย่าว่าแบบมันดูโบราณไปหรือเปล่า”
“ไม่นะคะเพชรน้ำงามมากค่ะคุณย่าแบบอาจจะไม่ทันสมัยเท่าไหร่แต่โดยรวมแล้วหนูว่ามันสวยมากค่ะ”
“หนูชัญญ่าอยากได้แค่เพชรแล้วเอาไปขึ้นตัวเรือนใหม่ก็ได้นะลูก”
“ไม่ค่ะคุณย่าหนูว่ามันลงตัวแล้วถ้าอย่างงั้นตกลงหนูเลือกแหวนวงนี้ค่ะ”
“ส่วนเครื่องเพชรชุดอื่นเดี๋ยวย่าจะเป็นคนจัดการให้เอง”
“คุณย่าขาหนูขอแค่แหวนวงเดียวได้ไหม เครื่องเพชรชุดอื่นให้คุณย่าเก็บไว้เถอะค่ะ”
“แต่ย่าอยากยกให้หนูนะ”
“เอาอย่างนี้ดีมั๊ยคะ หนูให้คุณย่าเก็บไว้ทั้งหมดนี่แหละหนูเอาแค่แหวนแต่ถ้าวันไหนหนูจำเป็นต้องใส่เครื่องเพชรเพื่อออกงานหนูจะมายืมคุณย่าตกลงไหมคะ”
“หนูจะเอาแบบนั้นแน่นะ”
“แน่ค่ะคุณย่า นะคะเพราะหนูไม่อยากจะเอาไปเก็บไว้ที่บ้านหรอกค่ะ ที่บ้านหนูคนเยอะแยะหนูกลัวมันไม่ปลอดภัย” มญชุ์ชัญญาให้เหตุผลแต่อันที่จริงแล้วเธอไม่อยากได้เครื่องเพชรพวกนี้เลย
“ถ้าหนูอยากให้ย่าทำแบบนั้นก็ได้แต่อย่าลืมนะว่าหนูมีสิทธิ์ในสมบัติทุกอย่างของย่า”
“ทำไมคุณย่าใจดีกับหนูจังคะ”
“ก็หนูเป็นหลานของเพื่อนรักคุณปู่นี่แล้วตอนนี้หนูก็กำลังจะมาเป็นหลานสะใภ้ของย่า”
คุณอรุณีรู้สึกเอ็นดูว่าที่หลานสะใภ้คนนี้มากๆ ถึงแม้จะเจอกันไม่กี่ครั้งแต่ก็รู้สึกผูกพันและอยากให้เธอแต่งงานกับหลานชายของตนเองและได้แต่หวังว่าความใกล้ชิดของหลานทั้งสองจะทำให้พวกเขารักกันและ และใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอด
“ขอบคุณค่ะคุณย่า คุณย่าค่ะหนูลืมไปเลยหนูซื้อผ้าพันคอมาให้คุณย่าด้วยนะคะ” หญิงสาวหยิบผ้าพันคอสีชมพูกลีบบัวทำจากผ้าไหมมาให้กับคุณย่าอรุณี
“สวยถูกใจย่ามากเลยลูก หนูรู้ได้ยังไงว่ายายชอบสีนี้พี่ทินบอกเหรอ”
“เปล่าหรอกค่ะ แต่หนูคิดว่ามันเหมาะกับคุณย่ามากๆ คุณเยอะจะได้เอาไปไว้ห่มเวลาไปวัดหรือไปทำบุญตอนอากาศเย็นๆ ค่ะ”
“หนูชัญญ่ารู้ใจย่ามากที่สุดเลย ขอบใจมากนะลูก” ย่าอรุณีรู้สึกเอ็นดูมญชุ์ชัญญามาดขึ้นอีกหลายเท่าเพราะหญิงสาวช่างพูดและเอาใจจนคนที่ไม่เคยมีหลานสาวหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น