2

1152 คำ
“ผมไม่ตรวจแล้ว” แต่ไทเลอร์ขยับไม่ได้ เมื่อตัวประกันนั้นยังอยู่ในมือคุณหมอ “นอนลงไปค่ะ” พิลาสินีกล่าวเสียงดุ “ไม่นอน ไม่ตรวจ ผมจะกลับ” “กลับไม่ได้ค่ะ คุณจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา ถ้าอยากจะหายก็ต้องอดทน นอนลงค่ะ” เธอสั่งเสียงดุทว่าไทเลอร์อมยิ้มร้าย “โอเค ผมจะนอนลงก็ได้ ถ้าคุณหมอรับปากว่าจะนอนข้างล่าง และให้ผมเป็นฝ่ายนอนทับอยู่ข้างบน” “คุณ!” พิลาสินีตวาดแล้วเผลอกำมือแน่นนั่นทำให้ไทเลอร์หน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยว เพราะไทเลอร์น้อยกำลังถูกคุณหมอบีบคอจนหายใจไม่ออก “จรรยาบรรณแพทย์อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมารวมกับเรื่องงานสิคุณ ปล่อยน้องชายผมนะ” “หมอก็กำลังทำการรักษาอยู่ไงคะ กรุณาให้ความร่วมมือด้วย ไม่งั้นเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายคุณ หมอไม่รับผิดชอบนะ” พิลาสินีแกล้งเอ็ด ก่อนจะเริ่มตรวจอาการของคนไข้ตัวแสบ ใช้เวลาทำการตรวจโรคไม่นานก็เดินออกมาจากฉากกั้น ปล่อยให้คนไข้จัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย คุณหมอสาวสูดลมหายใจเข้าลึก เรียกสติไม่ให้หวั่นไหว เพราะอีกเดี๋ยวเธอต้องเผชิญหน้ากับเขา พิลาสินีกลับมานั่งที่โต๊ะเขียนใบสั่งยาเสร็จแล้ว ตอนที่ไทเลอร์เดินออกมาพอดี เธอบอกให้ไทเลอร์นั่งลง แต่เป็นเขาที่ชิงถามขึ้นก่อน “ผลตรวจเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ” “ปกติดีค่ะ ถ้าคุณทานยาอย่างต่อเนื่อง โรคนี้ก็จะไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้กับคุณ คุณจะมีชีวิตปกติรวมถึงสามารถใช้ชีวิตคู่ได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องกังวลนะคะ หมอเขียนใบสั่งยาให้แล้ว เชิญคุณออกไปรอรับยาที่ด้านนอกได้เลย” พิลาสินีบอกเสียงเรียบ แล้วก็คิดว่า ระหว่างเธอกับไทเลอร์คงจบกันแค่นี้ เขาคงจะเดินออกไปแต่โดยดี ทว่าจากครรลองสายตาก็พบว่า ไทเลอร์ยังไม่ยอมลุกไป หนำซ้ำเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าเขาจ้องหน้าเธออยู่ “มีอะไรคะ หมอบอกให้ออกไปรอรับยาด้านนอก ไม่เข้าใจหรือคะ” “ผมเข้าใจดี แต่คุณหมอต่างหากที่ไม่เข้าใจ” ที่ผ่านมาไทเลอร์คิดมาตลอดว่าทำไมไม่จริงจังกับใครสักคน หรือรับใครมาอยู่ในใจได้เต็มพื้นที่เสียที ก็เพราะเธอคนนี้ยังอยู่ในหัวใจเขา แล้วมันชัดเจนเมื่อต้องมาพบกันอีกครั้ง “ผมต้องพูดให้คุณหมอเข้าใจผมเรื่องหนึ่งก่อน คุณหมอเข้าใจผิดเรื่องผมมีคู่ครองแล้ว ความจริงคือ ผมยังเป็นโสดอยู่ แต่คิดไปคิดมาก็อยากมีชีวิตคู่เหมือนกัน ถ้าหากคุณหมอสนใจจะใช้ชีวิตคู่กับผม ผมก็อยากสละโสด” พิลาสินีวางปากกาในมือลง บอกอย่างข่มอารมณ์หมั่นไส้ “เวลานี้หมอกำลังทำงานอยู่นะคะ คุณไม่ควรมาล้อเล่นแบบนี้ กรุณาให้เกียรติหมอด้วย” ไทเลอร์อมยิ้ม ยิ่งเห็นแก้มพิลาสินีแดงก่ำเขายิ่งชอบ “คุณหมอพูดแบบนี้หมายความว่า ถ้าผมคุยด้วยเวลาอื่นที่ไม่ใช่เวลาทำงาน ผมสามารถคุยกับคุณหมอได้ใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ผมจะรอรับคุณหมอกลับนะครับ ผมอยากเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารคุณหมอสักมื้อ” “หมอไม่ไป และกรุณาอย่ามาล้อเล่นแบบนี้อีก หมอยังมีคนไข้รออยู่ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว” พิลาสินีไล่ไม่เต็มเสียงนักว่าไม่พอใจการกระทำเขา เพราะหัวใจที่เต้นโครมครามจนจะกระเด็นออกมานอกอก เมื่อสายตาคู่คมมองมาอย่างลึกซึ้ง ทำให้คิดถึงช่วงเวลาที่เคยคบหากับอีกฝ่ายขึ้นมา “กลับก็ได้แต่ผมจะรอรับคุณหมอนะครับ ยังไงผมก็จะรอ กรุณาอย่าลืมนัดของเรา” ไทเลอร์บอกเสียงจริงจังแล้วก็ยืดตัวขึ้น มิวายโปรยยิ้มให้พิลาสินีอีกครั้ง ก่อนเดินจากไปทิ้งให้พิลาสินีมองตามอย่างเข่นเขี้ยว “คนบ้า ฉันไม่มีวันไปเจอกับคุณหรอก” พิลาสินีตะโกนไล่หลังเสียงดังแล้วต้องสะดุ้งตื่น ร่างบางผวาจากเตียงนอน กวาดสายตามองไปรอบห้องนอน มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อที่ใบหน้า หัวใจยังเต้นแรงตุ้บๆราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่คือเรื่องจริง แต่มันไม่ใช่! พิลาสินีกวามองรอบตัวอีกครั้ง ตอนนี้เธออยู่ที่บ้านของตัวเอง แสดงว่าเมื่อกี้นี้เธอฝันไปความฝันที่จะได้เป็นหมอตามมาหลอกหลอนอีกแล้ว พิลาสินีระบายลมหายใจยาวเหยียด เธอเรียนไม่จบหมอจึงเป็นได้แค่ผู้ช่วยแพทย์ และถึงอยากช่วยผู้ชายคนนั้นให้หายขาดจากโรคที่เขาเป็นอยู่แต่เธอก็ไม่มีโอกาสจะได้ช่วยเขาอีกแล้ว สิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้คือต้องตัดใจจากเขาไม่ควรคิดถึงเขาอีก เธอไม่ใช่พิลาสินี วอร์วิคคนเดิมอีกต่อไป เพราะเธอเป็นแม่ม่ายสามีตาย มีลูกสาวตัวน้อยหนึ่งคนให้ต้องดูแล พิลาสินีสะบัดหน้า ตื่นจากความฝัน ดวงตากลมโตที่มีแพขนตางอนยาว มองไปที่ร่างเล็กป้อมที่นอนข้างๆ อีกครู่เดียวลูกสาวของเธอก็จะตื่นแล้ว เธอต้องรีบไปทำอาหารเช้าและทำความสะอาดบ้านก่อนที่แม่หนูจะตื่นขึ้นมาแล้วจะเล่นซนจนเธอไม่มีเวลาทำอะไรเลย “ฝันอะไรเป็นตุเป็นตะ พิลาสินี เธอเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยแล้วฝันว่าจะเป็นหมอได้ยังไง ตื่นมาพบกับความจริงได้แล้ว เธอก็เป็นได้แค่ผู้ช่วยแพทย์” จมูกเล็กๆ สูดกลิ่นหอมจัดที่ลอยมาแตะจมูก ปากกระจับของแม่หนูตัวน้อยคลี่ยิ้มไปถึงดวงตาจินตนาการไปไกลถึงขนมอบรสอร่อย หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วมองหามารดาไม่เจอ ‘มาลี’ คือชื่อของเธอ เด็กหญิงตัวน้อยเริ่มเดินตามหามารดาไปทั่ว ดวงหน้ากลมเกลี้ยงเกลาขับดวงตาดำสนิทให้บริสุทธิ์ใสแจ๋วมากขึ้นอีก ส่วนเจ้าแมวขนฟู สะอาดสะอ้าน ตัวสีขาวในอ้อมกอด เด็กหญิงตั้งชื่อให้มันว่า มาเรีย มาลีอยู่ในวัยใกล้สี่ขวบแต่น้ำหนักนั้นดูจะมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ดังนั้นผู้เป็นแม่จึงมักเลือกชุดนอนที่ทำจากผ้าฝ้ายเพื่อให้นอนหลับสบายเนื้อผ้าไม่ระคายเคืองผิว ซึ่งชุดโปรดชุดนี้มารดาของหนูน้อยตัดเย็บให้เองเป็นชุดนอนสีขาวความยาวคลุมเข่า ตกแต่งด้วยริบบิ้นสีชมพูที่หน้าอกดูน่ารักน่าเอ็นดู
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม