EP. 09

1013 คำ
พิชชาอรถอนหายใจเมื่อเห็นว่าไฟในห้องของเธอนั้นถูกเปิดสว่างจ้า จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้ชายใจร้ายอันเป็นเจ้าของหัวใจของเธอ หญิงสาวสืบเท้าเข้าไปใกล้บานประตูแล้วต้องชะงักฝีเท้าเล็กน้อย เงี่ยหูฟังอย่างเสียมารยาทเมื่อได้ยินบทสนทนาดังมาจากด้านใน ‘คุณบัวอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมจะได้บอกเด็กที่บ้านทำให้คุณ” คนที่แอบฟังอยู่รู้สึกร้อนวูบไปถึงกระบอกตา หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองฟ้าเพื่อให้น้ำอุ่นๆ ที่ไหลเอ่อท้นมารอที่ขอบตากลับไปที่เดิม ‘ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องเกรงใจ... ผมยินดีเสมอ’ และประโยคถัดมาก็ทำให้คนที่ฝืนตัวเองไม่อาจเอาชนะได้ น้ำตาไหลอาบแก้มนวลแต่ก็แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะพิชชาอรรีบปาดมันทิ้ง ก่อนที่บานประตูจะถูกเปิดออกจากด้านใน “กลับมาแล้วเหรอ” ไม่ใช่คำถาม ไม่ใช่คำทักทาย คงเป็นคำแก้เก้อเพราะไม่คิดว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้กระมัง หญิงสาวยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ เธอเกรงว่าน้ำเสียงจะสั่นจนเขาจับได้ว่ามายืนฟังอยู่ตรงนี้นานแล้ว “ทำไมกลับมาช้า” “มี... เรื่องนิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวตอบช้าๆ ทีละคำ ไม่ได้แสดงพิรุธใดๆ ออกมา “เรียบร้อยดีใช่ไหม” เธอพยักหน้าแต่ก็ยังไม่กล้าสบสายตากับเขาอยู่ดี เพราะความน้อยใจกำลังรอซ้ำเติมเธออยู่ “ทำไมตาแดง ร้องไห้เหรอ ร้องไห้เรื่องอะไร” เขาจับปลายคางเธอให้เงยหน้าขึ้นสบตากัน คนใจร้ายเท่านั้นที่ทำกับเธออย่างนี้ แต่เธอก็ยังรักคนใจร้ายคนนี้อยู่ดี “หรือได้ยินที่ฉันคุยโทรศัพท์” น้ำเสียงเยาะที่เอ่ยออกมานั้นบีบรัดหัวใจของเธอจนปวดหนึบไปทั้งกาย “วันมะรืนรีบกลับมาหน่อย ฉันมีแขกมาทานอาหารที่บ้านด้วย” “คุณบัวเหรอคะ” หญิงสาวนึกโกรธตัวเองในความปากไวที่ถามออกไป เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก แสดงว่าพิชชาอรได้ยินทุกอย่างที่เขาคุยกับรวินท์นิภา “ใช่ นี่รายการอาหาร” เขายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เธอ พิชชาอรลอบกลืนก้อนแข็งๆ ที่แล่นขึ้นมาจุกคอลงไปอย่างยากลำบาก เธอยื่นมืออันสั่นเทาออกไปรับกระดาษแผ่นนั้น กวาดสายตาไล่อ่านทุกตัวอักษร นั่นลายมือของเขาเธอจำได้ “เธอทำได้ใช่ไหม” หญิงสาวพยักหน้า “ไปอาบน้ำเถอะ พรุ่งนี้ฉันมีประชุมเช้า” เขาสั่งแล้วหมุนตัวกลับไปนั่งลงที่โซฟาตัวโปรด พิชชากรฝืนน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เพราะนอกจากเขาจะไม่สงสารหรือเห็นใจแล้ว เธออาจจะได้รับสายตาสมเพชเวทนาในความไม่เจียมเนื้อเจียมตัว เสียงเรนชาวเวอร์กำลังทำงาน จิณณ์จินตนาการถึงร่างบางนุ่มนิ่มภายใต้สายน้ำเย็น เนื้อตัวเขาร้อนรุ่มจนแทบระเบิด นึกหงุดหงิดตัวเองที่ปล่อยให้พิชชาอรมีอิทธิพลเหนือกว่า เขากำลังควบคุมตัวเองไม่ให้แสดงความต้องการที่มีต่อหญิงสาวอย่างล้นเหลือออกมา เด็กสาวที่ไม่ประสีประสาในวันนั้น ผ่านการฝึกฝนจากน้ำมือของเขาอย่างชำนาญและคล่องแคล่ว เธอเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ในสายตาใครๆ ทว่าร้อนแรงราวจนเตียงลุกเป็นไฟยามได้ร่วมกิจกรรม เขาชอบแบบนี้และเธอก็ว่านอนสอนง่ายที่สำคัญเรียนรู้ได้เร็ว นี่กระมังอีกหนึ่งสาเหตุที่รู้สึกเสียดายหากต้องปล่อยเธอไป แต่แล้วจิณณ์ก็ใบหน้าบูดบึ้ง อารมณ์สวิงเสียดื้อๆ เมื่อคิดว่าพิชชาอรไปนอนใต้ร่างใครสักคนที่ไม่ใช่เขา จิณณ์ลุกขึ้นยืนเท้าเอวมองไปที่ประตูห้องน้ำที่ตอนนี้เสียงสายน้ำเงียบลงแล้ว เขาสืบเท้าเข้าไปใกล้ เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่หญิงสาวเดินออกมา ผมที่ยังคงเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำโดยมีผ้าเช็ดผมพาดอยู่บนไหล่มน มือมือข้างหนึ่งคอยซับน้ำเป็นระยะ สายตาของคนทั้งคู่สบกันนิ่ง ชายหนุ่มไล่มองสำรวจไปยังชุดนอนกระโปรงผ้าซาตินที่ดูเรียบร้อย ทว่าเนื้อผ้าลื่นที่แนบเนื้อกระตุ้นความต้องการของเขาได้ดีทุกครั้งที่สัมผัส จิณณ์ตวัดฝ่ามือคว้าเอวคอดเข้าหาตัว ปลายจมูกโด่งเป็นสันจรดลงบนหัวไหล่ กลิ่นหอมอ่อนจากครีมอาบน้ำและกลิ่นกายเฉพาะของเธอปลุกเร้าอารมณ์ที่ถูกปิดซ่อนไว้ภายในให้ลุกโชนยากจะควบคุม “วันนี้พราวเหนื่อยมากเลยค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธพร้อมกับแกะมือที่รอบเอวออกและเบี่ยงตัวจากอ้อมแขน จิณณ์ถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะพิชชาอรไม่เคยที่จะขัดความต้องการเขาสักครั้ง แต่วันนี้หญิงสาวกำลังทำตัวไม่น่ารัก “คุณจิณณ์จะเข้านอนเลยไหมคะ” เจ้าของห้องที่มือถือไดร์เป่าผมหันมาถามด้วยห่วงใย ทว่าคนถูกถามไม่ตอบแต่เดินประชิดร่างบาง ปลดอุปกรณ์ในมือแล้วเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไร้ทิศทาง เขากอดรัดร่างบางพร้อมกับทิ้งเธอลงไปบนเตียงนุ่มและตามทาบทับทันที “เธอไม่พอใจฉันเหรอ” ปลายนิ้วเรียวเกี่ยวกระหวัดเส้นผมที่เปียกหมาดๆ เล่น สายตาของเขาสำรวจใบหน้าหวานปนเศร้าอย่างไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จิณณ์ก็เป็นแบบนี้ เขาฉลาดและรู้ทันความคิดทุกคน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรู้และทันความคิดของเขา เขามีดวงตาเป็นอาวุธที่พร้อมจะฟาดฟันกับศัตรูและใช้มันทำร้ายคนอย่างเธอ “เปล่าค่ะ พราวไม่มีสิทธิ์นั้น” “ก็ดีที่ยังรู้ตัว” เขาวาดปลายนิ้วไปตามกรอบหน้ารูปไข่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม