-6- ข้อเสนอ NC
ปอไหมยอมเดินกลับไปนั่งลงตรงโซฟาข้าง ๆ ติณณภพ เพราะตอนนี้เธอก็ยังไม่เห็นวี่แววคนที่ช่วยหาเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นได้นอกจากเขา
"คุณรู้ได้ยังไงคะ ว่าฉันต้องการเงินแปดล้านบาท"
"ฉันได้ยินเธอคุยกับเทวา ก่อนจะเดินขึ้นมาที่นี่" ติณณภพยื่นแก้วเปล่าไปตรงหน้าร่างบาง ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทีหยิ่งยโส
มือเรียวเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าตรงหน้ามาเทเครื่องดื่ม ก่อนยื่นส่งคืนให้กับร่างหน้าที่นั่งไขว่ห้างพิงกับโซฟาอยู่
"ดื่ม"
"ฉันไม่ดื่มกับลูกค้าค่ะ ฉันชงให้ได้อย่าง..."
"แก้วละสองแสน" คำพูดสุดท้ายของปอไหมถูกขัดขึ้นด้วยคำพูดจากน้ำเสียงเยือกเย็นของติณณภพเสียก่อน
มือเรียวกำแก้วเหล้าในมืออย่างชั่งใจ ต่อให้เธอฝืนดื่มจนสลบไปก็ไม่มีทางที่จะได้ครบกับจำนวนเงินที่เธอต้องการอยู่ดี
"ฉันคอไม่แข็งดื่มไม่กี่แก้วก็เมาแล้วค่ะ"
"ก็ยังดีกว่าหาเงินเพิ่มไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอดื่มครบสิบแก้วเธอก็หาเงินเพิ่มได้อีกสองล้าน เธอคิดว่าจะหาเงินสองล้านมาจากไหนตอนนี้"
เป็นอีกครั้งที่ปอไหมเผลอเม้มริมฝีปากบางเข้าหากันอย่างลืมตัว มือเรียวตัดสินใจกระดกแก้วเหล้าในมือเข้าปากรวดเดียว
"อึก! " ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเพราะรสชาติขมบาดคอของเหล้าราคาแพง
ติณณภพนั่งดูร่างบางกระดกแก้วเหล้า แก้วที่แปดด้วยสายตาเรียบเฉย เขารู้ว่าเธอแค่แกล้งแสดงเท่านั้น เขาไม่เชื่อหรอกว่าผู้หญิงที่ไม่หวังรวยทางลัดจะยอมมาทำงานกลางคืนแบบนี้
"อึก! ...ฉันไม่ไหวแล้ว" ปอไหมพยายามประคองมือที่สั่นเทาวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ
"แปดแก้ว ล้านหก ขาดอีกแค่สองแก้วจะได้สองล้าน"
"แต่ฉัน...ดื่มไม่ไหวแล้ว" ปอไหมพูดด้วยน้ำเสียงติดขัด พยายามประคองสติไม่ให้ดับลง
"ทำไงดีละ งั้น...จูบเธอแลกกับอีกสี่แสนที่เหลือดีไหม"
"..."
"ถ้าตกลงก็เดินมานี่" ติณณภพตบลงบนหน้าตักแกร่งเบา ๆ แววตาไร้ความรู้สึกแปรเปลี่ยนเป็นสมเพช เมื่อร่างบางลุกเดินมานั่งลงบนหน้าตักแกร่งของเขา
เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป ทำให้ร่างบางคิดแค่ว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินในการไปไถ่ถอนโฉนดบ้านเด็กกำพร้าคืนในวันพรุ่งนี้ โดยไม่ทันฉุกคิดว่าสิ่งที่ทำลงนั้นไปมันสมควรหรือคุ้มค่าพอที่จะแลกหรือไม่
"จูบแล้วจะได้เงินใช่ไหมคะ" ใบหน้าหวานมองใบหน้าคมคายด้วยแววตาหวานเยิ้ม เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
"อืม ถ้าทำให้ฉันพอใจฉันอาจจะให้ทิปเธอด้วยก็ได้นะ"
ดวงตาสีนิลจ้องมองไปยังริมฝีปากหนาอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนริมฝีปากบางไปแตะสัมผัสเบา ๆ บนริมฝีปากหนา แล้วดึงมันกลับมา
"สะ...เสร็จแล้วใช่ไหม" ริมฝีปากบางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับผู้ชายใกล้ชิดขนาดนี้
"คิดว่าจูบห่วย ๆ แบบนี้จะแลกกับเงินสี่แสนได้เหรอ"
ติณณภพพูดด้วยทำเสียงเยือกเย็น ก่อนจะดึงใบหน้าหวานมาประกบจูบลงไปอย่างแรง
"อื้อ!! " คนอ่อนประสบการณ์อย่างปอไหมได้แต่ดิ้นเร่า ๆ เมื่อถูกช่วงชิงอากาศหายใจ โดยเรียวลิ้นหนาที่ควานเข้ามาตวัดเลียเรียวลิ้นเล็กในโพรงปากเธออย่างเอาแต่ใจ
ติณณภพยังคงตะโบมจูบลงไปบนริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วง ราวกับว่าต้องการเอาให้คุ้มกับจำนวนเงินที่เขายอมจ่ายไป มือหนาเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างอรชร ที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจน กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเนื้อสาวกำลังปลุกอารมณ์กระสันของเขาที่ถูกซ่อนเอาไว้ให้ตื่นขึ้นมาอย่างง่ายดาย
"อึก! " มือเรียวจิกลงบนท่อนแขนแกร่งอย่างแรง เมื่อถูกแก่นใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงสแล็คดันขึ้นมาถูกใจกลางความเป็นสาวของเธอ
ติณณภพผลักร่างบางที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขาออกห่าง ก่อนหยิบเช็คเงินสดมาเขียนเงินจำนวนสามล้านบาทลงไป แล้ววางเอาไว้บนโต๊ะกระจก
"ถ้าอยากได้จำนวนเงินที่เหลือก็มาเป็นเด็กในปกครองของฉัน"
"เด็กในปกครอง คืออะไร" ใบหน้าหวานยังคงถามด้วยน้ำเสียงหยาดเยิ้ม เพราะอารมณ์ที่ยังคั่งค้างก่อนหน้านี้
"หึ จะแกล้งใสซื่อไปถึงไหน ที่มาทำงานที่นี่ก็เพราะอยากหาคนรวย ๆ มาเลี้ยงดูไม่ใช่รึไง"
"ฉันแค่อยากได้เงิน"
"ยอมรับแล้วสินะ ว่าเธอเองก็หน้าเงินไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ "
"ฉันต้องการเงินสิบล้าน" ร่างบางเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ในหัวคิดถึงแต่จำนวนเงินที่จะสามารถไถ่โฉนดคืน ทำให้ประโยคที่เธอพูดออกมาทำให้คนฟังเข้าใจผิด
"ฉันจะเป็นคนไถ่โฉนดคืน และก็จะเป็นคนอุปการะค่าใช้จ่ายในบ้านเด็กกำพร้านั้นเอง ถ้าเธอตกลงที่จะเซ็นสัญญามาเป็นเด็กในปกครองของฉัน"
"จะไถ่คืนให้จริง ๆ เหรอ" ดวงตาสีนิลที่กำลังจะปิดสนิทเบิกโพลงขึ้นมาในทันที เมื่อได้ฟังข้อเสนอจากอีกฝ่าย
"ถ้าเธอตกลง พรุ่งนี้ฉันจะจัดการเรื่องบ้านเด็กกำพร้าให้เรียบร้อย"
"ฉันตกลง" ร่างบางตอบอย่างไม่คิด เพราะข้อเสนอที่เข้าให้มามันเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องยอมทนทำงานหนักขนาดนี้
"หึ" ติณณภพเหยียดยิ้มสมเพช
มือหนากระชากร่างบางมาตะโบมจูบอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง มือเรียวทั้งสองข้างถูกพันธนาการไว้เหนือศีรษะด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำไปด้วย จนเผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มที่โผล่พ้นขึ้นมาเหนือบราเซียร์ลูกไม้สีดำ
"อือ...ยะ...อย่านะ" ร่างบางร้องประท้วงเสียงหลง เมื่อถูกริมฝีปากหนาขบเม้มบนลำคอระหง และเนินอกอวบอิ่มจนรู้สึกเจ็บ
"อืม" กลิ่นกายของเนื้อสาวทำให้ร่างหนารู้สึกพึงพอใจไม่น้อย ริมฝีปากคมคายเลื่อนลงไปตะโบมดูดดุนยอดปทุมถันทั้งสองข้างสลับกันไปมาจนแข็งชันเป็นไตรับสัมผัสตามสัญชาตญาณ
"อ๊ะ...อ๊า...อย่ากัดนะ" ร่างบางเชิดหน้าเปล่งเสียงครางออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อสติสัมปชัญญะที่เหลือเพียงน้อยนิดถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ติณณภพยอมถอนริมฝีปากออกจากเนินออกอวบอิ่ม เขาไล่มองร่องรอยที่ตัวเองทำไว้ด้วยความพึงพอใจก่อนลุกไปกระดกแก้วเหล้าที่วางเอาไว้บนโต๊ะเข้าปาก
"ถือว่าเป็นค่ามัดจำของฉันแล้วกัน ฉันหวังว่าราคาที่ฉันยอมจ่ายไปมันจะคุ้มค่านะ ใส่เสื้อผ้าแล้วรีบตามฉันไปที่ลานจอดรถ"
ติณณภพกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้เพียงแค่นั้น ก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้ร่างบางนอนหอบหายใจกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ยังคงค้างอยู่เพียงลำพัง