ปรารินเดินเข้ามาภายในบ้าน เมื่อถึงด้านในเธอจึงหยุดเดินเพื่อรอเจ้าของบ้าน เพียงไม่นานพ่อเลี้ยงหนุ่มก็เดินมาบริเวณด้านหลังของเธอ
“จะให้หนูพักที่ไหนคะ” ปรารินเอ่ยถามทันทีที่พ่อเลี้ยงหนุ่มเข้ามา
“ข้างบน ห้องข้างๆ ฉัน ตามฉันมาสิ” การันต์เดินนำหน้าเด็กสาว เพื่อไปยังชั้นสองของบ้าน ปรารินเดินตามชายหนุ่มด้วยความมุ่งมั่น เมื่อก้าวมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอจะถอยหลังกลับไม่ได้เป็นอันขาด
“จะให้หนูทำอะไรบ้างคะ” ปรารินเอ่ยถามหลังจากที่วางกระเป๋าใบย่อมของเธอไว้ที่เตียง
“เธอทำอาหารเป็นมั้ย” แทนที่จะตอบ พ่อเลี้ยงหนุ่มกลับถามคำถามกลับมายังเด็กสาว
“เป็นค่ะ อยู่ที่บ้านหนูก็ทำให้ยายกิน” ปรารินรีบตอบเสียงใส
“งั้นเธอก็ทำงานบ้าน แล้วก็คอยดูแลเรื่องอาหารให้ฉัน ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้แม่บ้านมาทำงานที่นี่เธอต้องทำทุกอย่างแทนแม่บ้าน” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งการทันที
“แล้วเรื่องอย่างอื่นล่ะคะ” ปรารินเอ่ยถามด้วยความสงสัย เธอควรจะรู้ล่วงหน้าสักนิดว่าเธอต้องเจอกับอะไรบ้าง
“เรื่องอะไรล่ะ” การันต์แสร้งทำเป็นไม่รู้
“ช่างเถอะค่ะ พ่อเลี้ยงสั่งแค่นี้หนูก็ทำแค่นี้แหล่ะค่ะ” ปรารินเสเปลี่ยนเรื่องทันที
“เรื่องอะไรก็บอกมาสิ” การันต์ยังไม่ยอมหยุดแกล้งเด็กสาว เขาอยากรู้ว่าเธอจะแก่นแก้วซักแค่ไหน
“ก็บอกว่าช่างมันเถอะไงคะ พ่อเลี้ยงออกไปก่อนนะ เดี๋ยวหนูขอจัดการธุระส่วนตัวก่อน” ว่าแล้วร่างบางก็รีบดันร่างสูงออกไปจากห้องทันที การันต์ได้แต่ยกยิ้มด้วยความขบขัน เพราะบัดนี้ใบหน้าของเด็กสาวแดงกล่ำด้วยความเขินอายอย่างที่เจ้าตัวไม่สามารถกลบมันไว้ได้
“ฉันยังออกไปไม่ได้หรอก ฉันต้องบอกเงื่อนไขของการอยู่ที่นี่ของเธอก่อน” คราวนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ยังไงคะ”
“เธอทำงานที่นี่ฉันจะให้เงินเดือนเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ส่วนเธอจะตกลงจ่ายหนี้สินเท่าไหร่นั้นมันก็แล้วแต่เธอว่าเธอจะอยากอยู่ที่นี่ไปนานแค่ไหน แล้วเรื่องที่เธอสงสัยน่ะ อันนั้นฉันให้ครั้งละสองหมื่น แต่บอกไว้ก่อนว่าตอนนี้ฉันยังไม่อยากโดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์” คำกล่าวของพ่อเลี้ยงหนุ่มทำให้เด็กสาวใบหน้าแดงกล่ำด้วยความเขินอาย
“หนูให้พ่อเลี้ยงหักหนูเดือนละหกพันเลยค่ะ ว่าแต่น้านนท์จำนองโฉนดไว้ที่เท่าไหร่คะ”
“อานนท์จำนองไว้แสนห้า รวมดอกเบี้ยที่ไม่เคยชำระเลย เป็นเงินทั้งหมดสองแสน ว่าไงตกลงจะเปลี่ยนใจมั้ย” การันต์กล่าวเพื่อสอบถามความคิดเห็นของหญิงสาวอีกครั้งเมื่อได้รู้ยอดหนี้ที่น้าชายก่อขึ้นมา