“ไม่เปลี่ยนใจค่ะ ต่อให้หนูต้องอยู่ที่นี่จนแก่ หนูก็จะทำ ถ้ามันจะทำให้ยายได้ที่ดินคืน” ปรารินกล่าวด้วยความมุ่งมั่น ซึ่งพ่อเลี้ยงได้แต่แอบชื่นชมในใจกับความมุ่งมั่นของแม่สาวน้อย
“ตกลงไปแล้วเธอเปลี่ยนใจทีหลังไม่ได้นะ” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ไม่เปลี่ยนใจแน่นอนค่ะ อ้อ...หนูมีเรื่องที่ต้องขอร้องพ่อเลี้ยง หนูขอกลับไปดูแลยายที่บ้านบ้างได้มั้ยคะ” แม้ตนเองจะต้องลำบาก แต่เด็กสาวก็ไม่เคยละทิ้งความกตัญญูที่มีมาตลอดนั่นเอง
“ได้สิ ถ้าเธอจะกลับไปหายายก็แค่บอกฉัน”
“ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยง” ปรารินรู้สึกขอบคุณพ่อเลี้ยงหนุ่มเป็นอย่างมาก ในคราแรกเด็กสาวคิดว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มเป็นนายทุนหน้าเลือด แต่เมื่อได้สัมผัสใกล้ชิด พ่อเลี้ยงหนุ่มก็มีความโอบอ้อมอารีไม่น้อย
“ทำหน้าที่ของเธอให้ดีแล้วกัน ไม่อย่างนั้นข้อตกลงทั้งหมดเป็นอันยกเลิก” การันต์กล่าวก่อนจะก้าวออกไปจากห้องของเด็กสาว
“ค่ะพ่อเลี้ยง” ปรารินกล่าวก่อนที่จะปิดประตูห้องเพื่อจัดการเก็บของที่นำมาเพียงน้อยนิด เด็กสาวรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่ได้ต้องการตัวเธออย่างที่เธอคิด แม้จะต้องอยู่ที่นี่นานขึ้น แต่อย่างน้อยคุณค่าในตัวของเธอก็ไม่เสียไป เพียงเพราะว่าเธอเอาตัวเข้าแลกโฉนดที่ดินผืนนี้
ทุกเช้าปรารินจะตื่นขึ้นมาแต่เช้า เพื่อเตรียมอาหารให้พ่อเลี้ยงหนุ่ม ซึ่งเขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาหารที่เด็กสาวทำนั้นมันถูกปากเขาเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อว่าอายุเท่านี้ ปรารินจะสามารถทำอาหารได้อย่างคล่องแคล่ว แถมบ้านใหญ่หลังนี้ก็สะอาดด้วยฝีมือของเด็กสาว นั่นทำให้การันต์แอบชื่นชมเด็กสาวอยู่ในใจ
“พ่อเลี้ยงคะ วันนี้หนูขอไปหายายที่บ้านนะคะ” ปรารินกล่าวหลังจากที่เสิร์ฟอาหารเช้าให้พ่อเลี้ยงหนุ่มเรียบร้อยแล้ว
“ได้สิ แล้วก็เอาข้าวโพดพันธุ์ใหม่ที่ฉันเอามาจากไร่เมื่อวานไปฝากยายเธอด้วยนะ” การันต์เอ่ยกับหญิงสาวด้วยความอาทร
“ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยง แล้วหนูจะรีบกลับมาทำอาหารเย็นให้พ่อเลี้ยงรับประทานค่ะ” ปรารินยิ้มให้กับการันต์
“ไม่ต้องรีบกลับมาหรอก เย็นนี้ฉันมีนัดกินข้าวเย็นกับเพื่อนในเมือง เธออยู่กับยายตามสบายได้เลย”