“นิตาไม่ได้อยากเป็นเมียพี่ชินสักหน่อย”
หลังจากที่เธอชะงักไปเพราะคำพูดของเขาดวงตาคู่สวยก็เอ่อคลอด้วยน้ำสีใสแทบจะทันที เธอเมามากจนไม่อาจกักเก็บความในใจไว้ได้อีกแล้ว
“ทำไมถึงได้เอาแต่โทษกันล่ะ นิตาผิดอะไร....”
“หุบปากซะ”
“ไม่! พี่ชินน่ะใจร้ายที่สุดในโลกเลย”
“เงียบไปซะอย่าทำให้ฉันโกรธนะนิตา”
เขาพูดเสียงลอดไรฟันก่อนจะจับหญิงสาวพาดบ่าแล้วพาเดินดุ่ม ๆ ออกไปทางด้านหลังผับโดยที่นิตาก็ดิ้นรนขัดขืนไปตลอดทาง เธอทั้งทุบ ทั้งข่วนตรงจุดที่มือและเท้าไปถึงทำเอาชินรีบโยนเธอเข้าไปในรถ
“ปล่อยนะ ปล่อยสิ! โอ๊ยย!”
หัวเธอโขกเข้ากับคอนโซลรถดังตุ๊บ! ทำเอาคนเมาแทบสร่างในพริบตานิตาสะบัดหัวเบา ๆ ไล่ความมึนงงในขณะที่ชินเดินอ้อมมาฝั่งคนขับ
“ถ้ายังไม่อยากตายก็คาดเข็มขัดซะ เป็นภาระจริง ๆ เลยนะเธอน่ะ”
นิตาเม้มปากแน่นแล้วทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี ตลอดระยะทางทั้งคู่แทบไม่คุยอะไรกันเลยจนกระทั่งรถติดไฟแดงพร้อมสายฝนที่เริ่มโปรยปราย
“คิดว่าใช้วิธีนี้จะเรียกร้องความสนใจจากฉันได้เหรอ?”
“คะ?”
นิตาหันมองเขาด้วยสายตางุนงง เธอไปเรียกร้องอะไรจากเขาตั้งแต่ตอนไหน? เมื่อไหร่?
“ไม่ต้องมาทำหน้าใสซื่อ มาเที่ยวผับที่พ่อฉันเคยทำบัตรให้ยังไงมันก็ต้องแจ้งเตือนเรื่องการใช้บัตรไปที่ฉันอยู่แล้ว หึ พอใจหรือยังที่ให้ผัวมาตามกลับบ้านแบบนี้”
นิตาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับอารมณ์โกรธที่เริ่มพลุ่งพล่านแต่ชินก็ยังไม่หยุด ไฟแดงนับถอยหลังลงไปเรื่อย ๆ พร้อมกับความอดทนที่เริ่มหมดไป
“เรียกร้องความสนใจเก่งดีนะถึงมันจะดูโง่-”
“เปิดประตูค่ะ”
“อะไรนะ”
“นิตาบอกให้เปิดประตูไงคะ เปิดเดี๋ยวนี้!”
เธอแผดเสียงขึ้นมาจนชินตกใจแล้วข้อศอกบังเอิญไปชนกับปุ่มปลดล็อคประตูเข้า นิตารีบเปิดมันออกและก้าวลงไปทันทีพร้อมกับหันมาพูดกับเขาทั้งน้ำตา
“พี่มันคนไม่มีหัวใจ! เห็นนิตาเป็นคนยังไงถึงได้คิดแบบนั้นกัน นิตาเกลียดพี่ เกลียด! เกลียด! เกลียดที่สุดเลย!”
ปึง!!
นิตาปิดประตูรถอย่างแรงด้วยความโกรธแล้วเดินฝ่าสายฝนจากไปทิ้งให้ชินนั่งอึ้งกับความใจเด็ดของเธอ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นิตาขึ้นเสียงใส่เขา
“เหอะ!”
เขาปัดความรู้สึกบางอย่างที่แล่นเข้ามาในหัวทิ้งก่อนจะเหยียบคันเร่งพุ่งออกไปหลังสัญญาณไฟเขียว ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายลงไปเองนั่นมันก็เรื่องของเธอไม่เกี่ยวอะไรกับเขาทั้งนั้น
“ปากดีนักฉันก็จะไม่ยุ่งกับเธออีกแล้วนิตา”
»»»»««««
แม้จะเมาแค่ไหนหรือหนาวเหน็บเพราะสายฝนที่กระหน่ำเทลงมามากแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยให้ลืมความเจ็บปวดจากคำพูดของคนที่เธอรักได้เลย นิตาเดินไปตามท้องถนนอย่างเหม่อลอย ดวงตาคู่สวยมีน้ำสีใสไหลออกมาปะปนกับหยาดฝน
“พี่ชิน นิตา....”
ปี้นนนน!!
เสียงแตรดังขึ้นพร้อมกับเสียงเบรกที่ดังบาดหู นิตายังคงเหม่อลอยแม้ว่ารถคันนั้นจะพุ่งเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตามที เธอหลับตาลงแล้วหยุดเดินเพื่อรอรับสิ่งที่จะตามมา
“เหนื่อยจัง....”
ถ้ารถคันนั้นไม่หักหลบคงได้ชนเธอเข้าจัง ๆ ไปแล้ว ร่างสูงที่เป็นคนขับรีบเปิดประตูรถลงมาดูหญิงสาวที่ยืนโศกเศร้าอยู่กลางถนน มือหนาหยิบร่มที่มักพกติดตัวออกมาด้วยแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ
“คุณครับเป็นอะไรหรือเปล่า!”
“....”
“คุณครับ! เวรเอ้ยย”
นิตาหมดสติไปท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ถ้าพศิณไม่รับเธอเอาไว้นิตาคงลงไปนอนกองกับพื้นแล้ว
“เอาไงดีว่ะเนี่ย”
เขาหันมองซ้ายขวาด้วยความร้อนใจ ตอนนี้มันดึกมากแล้วเลยแทบไม่มีใครผ่านทางมาเลย พศิณจึงตัดสินใจอุ้มร่างบางที่หมดสติไปแล้วพาไปส่งยังโรงพยาบาล
“ฝากด้วยนะครับ คุณหมอ”
“ได้ครับคุณพศิณ”
เขาเองก็มีธุระต้องไปต่อเลยไม่ได้อยู่ดูอาการของเธอแต่คงไม่มีอะไรน่าห่วง ร่างสูงเหลือบตามองหญิงสาวที่หลับใหลอยู่บนเตียงก่อนจะคิดในใจ
‘คุณเศร้าเพราะอะไรนะ แววตาของคุณถ้ายิ้มคงจะสวยมากแน่เลย’
»»»»««««
“อืมม ที่นี่มัน....”
นิตามองไปรอบ ๆ ห้องด้วยอาการเวียนหัวนิด ๆ กลิ่นยาฆ่าเชื้อทำให้เธอปิดจมูกแทบไม่ทัน
“โรงพยาบาลงั้นเหรอ”
เธอไม่ชอบกลิ่นของที่นี่เอาซะเลยเพราะมันทำให้นึกถึงวันที่พ่อกับแม่เสียไป ความทรงจำในวันนั้นเหมือนฝันที่ตามหลอกหลอนไม่มีวันหยุด
“รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ นอนพักต่อก่อนก็ได้นะคะ”
พยาบาลที่เข้ามาเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้ นิตาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเธอปล่อยให้พยาบาลทำหน้าที่ของตัวเองก่อนจะถามคำถามที่คาใจ
“เอ่อ...ใครพาฉันมาส่งเหรอคะ”
“อ๋อ คุณพศิณค่ะเห็นว่าเจอคุณเป็นลมเลยพามาส่งที่นี่”
“คุณพศิณ?”
“ใช่ค่ะ แต่เขามีธุระเลยไม่ได้อยู่ดูอาการคุณ”
เธอเหมือนจะคุ้น ๆ กับชื่อเขาอยู่แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก เรื่องเมื่อวานนี้หลังลงรถก็จำไม่ค่อยได้ด้วย
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ยินดีค่ะ คุณหมอบอกว่าอาการของคุณไม่มีอะไรน่าห่วงแค่พักผ่อนน้อยและเครียดเท่านั้น สาย ๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้วสามารถกลับเลยได้นะคะหรือจะนอนพักที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ”
“ค่ะ”
นิตาไม่อยากอยู่ที่นี่เธอเลยเลือกที่จะกลับบ้านแม้จะยังปวดหัวอยู่ก็ตาม เธอโบกรถเพื่อไปยังผับและขับรถที่จอดทิ้งไว้กลับไปด้วย
“สายป่านนี้แล้วคงไม่อยู่แล้วมั้ง....”
นิตาพึมพำออกมาก่อนจะเปิดประตูรถลงไปหลังจอดเรียบร้อย ร่างบางเดินเซเล็กน้อยแต่ก็พยุงตัวเองจนเข้ามาในบ้านได้
“หายหัวไปกกผู้ชายที่ไหนมาล่ะ ที่ขอลงกลางทางเพราะแบบนี้เองสินะ”
น้ำเสียงเย็นชาและดูถูกดังขึ้นทันทีที่เธอก้าวขาเข้ามาในห้องนั่งเล่น นิตาลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอน เธอปวดหัวมากและไม่อยากทะเลาะกับเขาในตอนนี้
“อย่ามาเมินฉันนะนิตา”
ชินผุดลุกขึ้นจากโซฟาแล้วกระชากแขนบางเต็มแรงจนนิตานิ่วหน้า เธอมองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจและเต็มไปด้วยคำถาม
“นิตาเหนื่อยค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
“ไปเอากับคนอื่นจนหมดแรงเลยงั้นเหรอ?”
ร่างบางชะงักนิ่งอยู่กับที่เมื่อได้ยินถ้อยคำอันแสนร้ายกาจของชายหนุ่มที่เธอหลงรัก สายตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังตอนมองมาที่เขา
“อย่ามามองหน้าฉันแบบนั้นนะนิตา”
“ทำไมคะ? พี่ชินกลัวอะไรกันแน่ นิตาจะไปนอนกับใครหรือเอากับใครพี่ชินก็ไม่เกี่ยวนี่คะ”
“นิตา!”
“ปล่อยค่ะ ถ้าเกลียดกันนักก็อย่ามาแตะต้องตัวกันเกินความจำเป็นเลยค่ะ”
เธอสะบัดมือเขาออกก่อนจะเดินตรงลิ่วไปยังห้องนอนเดิมของตัวเอง ในเมื่อไม่อยากอยู่ด้วยกันนักก็แยกห้องไปเลยแล้วกัน
“เฮ้ออ ปวดหัวจัง”
นิตาหลับไปแทบจะทันทีที่หัวถึงหมอน ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทำให้เธอหลับสนิทจนไม่รู้เลยว่าชินแอบย่องมาดูที่หน้าประตู
“นิตา เธอมันเลวที่สุด”
เขาโกรธมากที่เธอพูดแบบนั้นออกมา เพิ่งแต่งงานยังได้ไม่ถึงเดือนก็ทำท่าจะออกลายซะแล้ว นอกจากจะไม่กลับบ้านยังเอาตัวเองไปเที่ยวผับทั้งที่เกลียดสถานที่แบบนั้นถ้าไม่ใช่เรียกร้องความสนใจจากเขาแล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ
“อย่าหวังว่าเราจะอยู่กันอย่างสงบสุขได้เลย นิตา”
ชินกัดฟันพูดออกมาแล้วหันหลังเดินออกไปจากตัวบ้านโดยไม่รู้เลยว่าอาการป่วยของนิตานั้นรุนแรงกว่าที่เขาคิด เธอนอนซมบนเตียงด้วยพิษไข้จนแม่บ้านเข้ามาเจอและโทรตามเนเน่ให้ช่วยเข้ามาดูอาการให้
“พี่คะ!”
เนเน่รีบมาทันทีที่รู้เรื่องแม้จะอยากถามถึงพี่เขยแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเท่าไหร่ นิตาที่ได้สติกลับมาก็เอาแต่พูดว่าไม่ยอมไปโรงพยาบาลจนเนเน่ใจอ่อนและอยู่ดูแลเธอ
กว่านิตาจะไข้ลดก็ปาไปเช้าของอีกวัน แน่นอนว่าชินไม่รู้เรื่องนี้เขาออกไปเที่ยวกลางคืนและดื่มเหล้าจนเมาหลับคาผับ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยกว่าเขาจะกลับมาก็สายของอีกวันแล้ว
“หายหัวไปทั้งคืนแบบนี้ไม่บอกก็ไม่รู้นะคะว่าพี่แต่งงานแล้ว”
เนเน่ที่เพิ่งเช็ดตัวให้นิตาเสร็จพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ชินยกมือกุมขมับที่ปวดตุบ ๆ กลับบ้านมาก็เจอเรื่องน่าปวดหัวเลย
“มาทำอะไรที่นี่ เนเน่”
“พี่นิตาไม่สบาย พี่ไปมุดหัวอยู่ไหนมา?”
ชินที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะรีบปรับสีหน้ามาเป็นนิ่งเฉย การที่เธอป่วยมันมาเกี่ยวอะไรกับเขากันล่ะ
“แล้วไง มาเพื่อพูดแค่นี้งั้นเหรอ”
“พี่ชิน!”
“หนวกหู ออกไปจากบ้านฉันซะ”
“พี่มันผู้ชายเฮงซวย มัวแต่ถือทิฐิสักวันพี่นั่นล่ะที่จะต้องเสียใจ!”