3 รังเกียจ

1711 คำ
“นิตาไม่ได้อยากเป็นเมียพี่ชินสักหน่อย” หลังจากที่เธอชะงักไปเพราะคำพูดของเขาดวงตาคู่สวยก็เอ่อคลอด้วยน้ำสีใสแทบจะทันที เธอเมามากจนไม่อาจกักเก็บความในใจไว้ได้อีกแล้ว “ทำไมถึงได้เอาแต่โทษกันล่ะ นิตาผิดอะไร....” “หุบปากซะ” “ไม่! พี่ชินน่ะใจร้ายที่สุดในโลกเลย” “เงียบไปซะอย่าทำให้ฉันโกรธนะนิตา” เขาพูดเสียงลอดไรฟันก่อนจะจับหญิงสาวพาดบ่าแล้วพาเดินดุ่ม ๆ ออกไปทางด้านหลังผับโดยที่นิตาก็ดิ้นรนขัดขืนไปตลอดทาง เธอทั้งทุบ ทั้งข่วนตรงจุดที่มือและเท้าไปถึงทำเอาชินรีบโยนเธอเข้าไปในรถ “ปล่อยนะ ปล่อยสิ! โอ๊ยย!” หัวเธอโขกเข้ากับคอนโซลรถดังตุ๊บ! ทำเอาคนเมาแทบสร่างในพริบตานิตาสะบัดหัวเบา ๆ ไล่ความมึนงงในขณะที่ชินเดินอ้อมมาฝั่งคนขับ “ถ้ายังไม่อยากตายก็คาดเข็มขัดซะ เป็นภาระจริง ๆ เลยนะเธอน่ะ” นิตาเม้มปากแน่นแล้วทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี ตลอดระยะทางทั้งคู่แทบไม่คุยอะไรกันเลยจนกระทั่งรถติดไฟแดงพร้อมสายฝนที่เริ่มโปรยปราย “คิดว่าใช้วิธีนี้จะเรียกร้องความสนใจจากฉันได้เหรอ?” “คะ?” นิตาหันมองเขาด้วยสายตางุนงง เธอไปเรียกร้องอะไรจากเขาตั้งแต่ตอนไหน? เมื่อไหร่? “ไม่ต้องมาทำหน้าใสซื่อ มาเที่ยวผับที่พ่อฉันเคยทำบัตรให้ยังไงมันก็ต้องแจ้งเตือนเรื่องการใช้บัตรไปที่ฉันอยู่แล้ว หึ พอใจหรือยังที่ให้ผัวมาตามกลับบ้านแบบนี้” นิตาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับอารมณ์โกรธที่เริ่มพลุ่งพล่านแต่ชินก็ยังไม่หยุด ไฟแดงนับถอยหลังลงไปเรื่อย ๆ พร้อมกับความอดทนที่เริ่มหมดไป “เรียกร้องความสนใจเก่งดีนะถึงมันจะดูโง่-” “เปิดประตูค่ะ” “อะไรนะ” “นิตาบอกให้เปิดประตูไงคะ เปิดเดี๋ยวนี้!” เธอแผดเสียงขึ้นมาจนชินตกใจแล้วข้อศอกบังเอิญไปชนกับปุ่มปลดล็อคประตูเข้า นิตารีบเปิดมันออกและก้าวลงไปทันทีพร้อมกับหันมาพูดกับเขาทั้งน้ำตา “พี่มันคนไม่มีหัวใจ! เห็นนิตาเป็นคนยังไงถึงได้คิดแบบนั้นกัน นิตาเกลียดพี่ เกลียด! เกลียด! เกลียดที่สุดเลย!” ปึง!! นิตาปิดประตูรถอย่างแรงด้วยความโกรธแล้วเดินฝ่าสายฝนจากไปทิ้งให้ชินนั่งอึ้งกับความใจเด็ดของเธอ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นิตาขึ้นเสียงใส่เขา “เหอะ!” เขาปัดความรู้สึกบางอย่างที่แล่นเข้ามาในหัวทิ้งก่อนจะเหยียบคันเร่งพุ่งออกไปหลังสัญญาณไฟเขียว ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายลงไปเองนั่นมันก็เรื่องของเธอไม่เกี่ยวอะไรกับเขาทั้งนั้น “ปากดีนักฉันก็จะไม่ยุ่งกับเธออีกแล้วนิตา” »»»»«««« แม้จะเมาแค่ไหนหรือหนาวเหน็บเพราะสายฝนที่กระหน่ำเทลงมามากแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยให้ลืมความเจ็บปวดจากคำพูดของคนที่เธอรักได้เลย นิตาเดินไปตามท้องถนนอย่างเหม่อลอย ดวงตาคู่สวยมีน้ำสีใสไหลออกมาปะปนกับหยาดฝน “พี่ชิน นิตา....” ปี้นนนน!! เสียงแตรดังขึ้นพร้อมกับเสียงเบรกที่ดังบาดหู นิตายังคงเหม่อลอยแม้ว่ารถคันนั้นจะพุ่งเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตามที เธอหลับตาลงแล้วหยุดเดินเพื่อรอรับสิ่งที่จะตามมา “เหนื่อยจัง....” ถ้ารถคันนั้นไม่หักหลบคงได้ชนเธอเข้าจัง ๆ ไปแล้ว ร่างสูงที่เป็นคนขับรีบเปิดประตูรถลงมาดูหญิงสาวที่ยืนโศกเศร้าอยู่กลางถนน มือหนาหยิบร่มที่มักพกติดตัวออกมาด้วยแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ “คุณครับเป็นอะไรหรือเปล่า!” “....” “คุณครับ! เวรเอ้ยย” นิตาหมดสติไปท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ถ้าพศิณไม่รับเธอเอาไว้นิตาคงลงไปนอนกองกับพื้นแล้ว “เอาไงดีว่ะเนี่ย” เขาหันมองซ้ายขวาด้วยความร้อนใจ ตอนนี้มันดึกมากแล้วเลยแทบไม่มีใครผ่านทางมาเลย พศิณจึงตัดสินใจอุ้มร่างบางที่หมดสติไปแล้วพาไปส่งยังโรงพยาบาล “ฝากด้วยนะครับ คุณหมอ” “ได้ครับคุณพศิณ” เขาเองก็มีธุระต้องไปต่อเลยไม่ได้อยู่ดูอาการของเธอแต่คงไม่มีอะไรน่าห่วง ร่างสูงเหลือบตามองหญิงสาวที่หลับใหลอยู่บนเตียงก่อนจะคิดในใจ ‘คุณเศร้าเพราะอะไรนะ แววตาของคุณถ้ายิ้มคงจะสวยมากแน่เลย’ »»»»«««« “อืมม ที่นี่มัน....” นิตามองไปรอบ ๆ ห้องด้วยอาการเวียนหัวนิด ๆ กลิ่นยาฆ่าเชื้อทำให้เธอปิดจมูกแทบไม่ทัน “โรงพยาบาลงั้นเหรอ” เธอไม่ชอบกลิ่นของที่นี่เอาซะเลยเพราะมันทำให้นึกถึงวันที่พ่อกับแม่เสียไป ความทรงจำในวันนั้นเหมือนฝันที่ตามหลอกหลอนไม่มีวันหยุด “รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ นอนพักต่อก่อนก็ได้นะคะ” พยาบาลที่เข้ามาเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้ นิตาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเธอปล่อยให้พยาบาลทำหน้าที่ของตัวเองก่อนจะถามคำถามที่คาใจ “เอ่อ...ใครพาฉันมาส่งเหรอคะ” “อ๋อ คุณพศิณค่ะเห็นว่าเจอคุณเป็นลมเลยพามาส่งที่นี่” “คุณพศิณ?” “ใช่ค่ะ แต่เขามีธุระเลยไม่ได้อยู่ดูอาการคุณ” เธอเหมือนจะคุ้น ๆ กับชื่อเขาอยู่แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก เรื่องเมื่อวานนี้หลังลงรถก็จำไม่ค่อยได้ด้วย “ขอบคุณมากค่ะ” “ยินดีค่ะ คุณหมอบอกว่าอาการของคุณไม่มีอะไรน่าห่วงแค่พักผ่อนน้อยและเครียดเท่านั้น สาย ๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้วสามารถกลับเลยได้นะคะหรือจะนอนพักที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ” “ค่ะ” นิตาไม่อยากอยู่ที่นี่เธอเลยเลือกที่จะกลับบ้านแม้จะยังปวดหัวอยู่ก็ตาม เธอโบกรถเพื่อไปยังผับและขับรถที่จอดทิ้งไว้กลับไปด้วย “สายป่านนี้แล้วคงไม่อยู่แล้วมั้ง....” นิตาพึมพำออกมาก่อนจะเปิดประตูรถลงไปหลังจอดเรียบร้อย ร่างบางเดินเซเล็กน้อยแต่ก็พยุงตัวเองจนเข้ามาในบ้านได้ “หายหัวไปกกผู้ชายที่ไหนมาล่ะ ที่ขอลงกลางทางเพราะแบบนี้เองสินะ” น้ำเสียงเย็นชาและดูถูกดังขึ้นทันทีที่เธอก้าวขาเข้ามาในห้องนั่งเล่น นิตาลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอน เธอปวดหัวมากและไม่อยากทะเลาะกับเขาในตอนนี้ “อย่ามาเมินฉันนะนิตา” ชินผุดลุกขึ้นจากโซฟาแล้วกระชากแขนบางเต็มแรงจนนิตานิ่วหน้า เธอมองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจและเต็มไปด้วยคำถาม “นิตาเหนื่อยค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” “ไปเอากับคนอื่นจนหมดแรงเลยงั้นเหรอ?” ร่างบางชะงักนิ่งอยู่กับที่เมื่อได้ยินถ้อยคำอันแสนร้ายกาจของชายหนุ่มที่เธอหลงรัก สายตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังตอนมองมาที่เขา “อย่ามามองหน้าฉันแบบนั้นนะนิตา” “ทำไมคะ? พี่ชินกลัวอะไรกันแน่ นิตาจะไปนอนกับใครหรือเอากับใครพี่ชินก็ไม่เกี่ยวนี่คะ” “นิตา!” “ปล่อยค่ะ ถ้าเกลียดกันนักก็อย่ามาแตะต้องตัวกันเกินความจำเป็นเลยค่ะ” เธอสะบัดมือเขาออกก่อนจะเดินตรงลิ่วไปยังห้องนอนเดิมของตัวเอง ในเมื่อไม่อยากอยู่ด้วยกันนักก็แยกห้องไปเลยแล้วกัน “เฮ้ออ ปวดหัวจัง” นิตาหลับไปแทบจะทันทีที่หัวถึงหมอน ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทำให้เธอหลับสนิทจนไม่รู้เลยว่าชินแอบย่องมาดูที่หน้าประตู “นิตา เธอมันเลวที่สุด” เขาโกรธมากที่เธอพูดแบบนั้นออกมา เพิ่งแต่งงานยังได้ไม่ถึงเดือนก็ทำท่าจะออกลายซะแล้ว นอกจากจะไม่กลับบ้านยังเอาตัวเองไปเที่ยวผับทั้งที่เกลียดสถานที่แบบนั้นถ้าไม่ใช่เรียกร้องความสนใจจากเขาแล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ “อย่าหวังว่าเราจะอยู่กันอย่างสงบสุขได้เลย นิตา” ชินกัดฟันพูดออกมาแล้วหันหลังเดินออกไปจากตัวบ้านโดยไม่รู้เลยว่าอาการป่วยของนิตานั้นรุนแรงกว่าที่เขาคิด เธอนอนซมบนเตียงด้วยพิษไข้จนแม่บ้านเข้ามาเจอและโทรตามเนเน่ให้ช่วยเข้ามาดูอาการให้ “พี่คะ!” เนเน่รีบมาทันทีที่รู้เรื่องแม้จะอยากถามถึงพี่เขยแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเท่าไหร่ นิตาที่ได้สติกลับมาก็เอาแต่พูดว่าไม่ยอมไปโรงพยาบาลจนเนเน่ใจอ่อนและอยู่ดูแลเธอ กว่านิตาจะไข้ลดก็ปาไปเช้าของอีกวัน แน่นอนว่าชินไม่รู้เรื่องนี้เขาออกไปเที่ยวกลางคืนและดื่มเหล้าจนเมาหลับคาผับ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยกว่าเขาจะกลับมาก็สายของอีกวันแล้ว “หายหัวไปทั้งคืนแบบนี้ไม่บอกก็ไม่รู้นะคะว่าพี่แต่งงานแล้ว” เนเน่ที่เพิ่งเช็ดตัวให้นิตาเสร็จพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ชินยกมือกุมขมับที่ปวดตุบ ๆ กลับบ้านมาก็เจอเรื่องน่าปวดหัวเลย “มาทำอะไรที่นี่ เนเน่” “พี่นิตาไม่สบาย พี่ไปมุดหัวอยู่ไหนมา?” ชินที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะรีบปรับสีหน้ามาเป็นนิ่งเฉย การที่เธอป่วยมันมาเกี่ยวอะไรกับเขากันล่ะ “แล้วไง มาเพื่อพูดแค่นี้งั้นเหรอ” “พี่ชิน!” “หนวกหู ออกไปจากบ้านฉันซะ” “พี่มันผู้ชายเฮงซวย มัวแต่ถือทิฐิสักวันพี่นั่นล่ะที่จะต้องเสียใจ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม