ปากแข็ง

1731 คำ
แสงแดดสีทองทอแสง เข้ามาภายในห้องนอนในเวลาเที่ยงของวันใหม่ ปลุกคนที่นอนหลับสลบไสลอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่น เปลือกตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้นช้าๆ ก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง เพื่อปรับม่านตาให้คุ้นชินกับแสงสว่างจ้าภายในห้อง ดวงตาคู่สวย มองเพดานห้องอย่างงุนงง ก่อนจะหันมองไปรอบห้อง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้ากันด้วยความสงสัย เพราะไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นบ้านของเธอเลยสักนิด ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา เมื่อสำนึกได้ว่าที่นี่คือที่ไหน และเธอมาทำอะไรที่นี่ ร่างบางลุกขึ้นนั่งลูบหน้าตัวเอง ขยับตัวลุกลงจากเตียง แต่ความเจ็บบริเวณกลางกายสาว ก็แล่นแปลบขึ้นมา จนหญิงสาวต้องร้องออกมาเบาๆ “อือ” สมองไม่รักดี ดันคิดไปถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น พาลหงุดหงิดใส่คนต้นเหตุ ที่ทำให้เธอระบมทั้งตัว เพราะหลังจากครั้งแรกจบลง ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่รอบเดียวเหมือนที่พริมาคิดไว้ และหญิงสาวก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าบทรักอันร้อนแรงนั้นจบลงตอนไหน เสียงสุดท้ายที่เธอได้ยินก่อนจะสลบไปคือ... “มังกร...พะ พิมพ์ไม่ไหว” “ถ้าไม่ไหวก็นอน เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเข้มดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่อยู่ในชุดลำลอง ยืนกอดอกพิงประตูห้อง มองหญิงสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย พริมาหันมองไปยังต้นเสียงด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทว่าพวงแก้มกับแดงระเรื่อ ก่อนจะหันกลับมาตามเดิม พาร่างกายอันบอบช้ำของตัวเองลงจากเตียง แต่ลุกขึ้นยืนก้าวขาเดินได้เพียงก้าวเดียว ก็ถึงกลับทรุดลงไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยที่พื้นห้อง โดยที่อีกคนไม่คิดจะเข้ามาช่วยแต่อย่างใด “ไม่ไหวก็อย่าอวดเก่งได้” เงยหน้ามองเจ้าของคำพูดตาขวาง อยากจะเอ่ยย้อนกลับไป ว่าที่เธอต้องเจ็บระบมช้ำไปทั้งตัวแบบนี้เพราะใคร ไม่ใช่เพราะความเอาแต่ใจ ความตะกละตะกลาม ไม่รู้จักพอของเขาหรอกเหรอ ที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับบ้าน และยังสูบพลังจากร่างกายของเธอตลอดทั้งคืน เกือบสว่างคาตาด้วยซ้ำไป “ลุก” ดึงแขนเรียวให้ลุกขึ้น “ยุ่ง” พริมาสะบัดแขนออกจากฝ่ามือแกร่งที่จับไว้ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยแขนของหญิงสาวออกตามที่เธอบอก จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งพริมาให้นั่งอ้าปากค้าง มองประตูห้องที่ปิดลงตาปริบๆ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเดินออกจากห้องไปจริงๆ ทว่าไม่ถึงนาที ประตูห้องที่เพิ่งปิดก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ด้วยฝีมือของผู้ชายที่พาเธอมาที่นี่เมื่อวาน โดยมีผู้หญิงเดินตามหลังเข้ามา “เจ้านายให้ผมพาแม่บ้านเข้ามาช่วยดูแลคุณ ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ออกไปหาเจ้านายข้างนอกนะครับ” ไมเคิลเอ่ยบอก จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกจากห้อง ไปหาผู้เป็นเจ้านายที่นั่งรออยู่ที่โซฟา “ของที่นายสั่งเรียบร้อยแล้วนะครับ อาหารเช้าของนายกับผู้หญิงของนาย ขึ้นโต๊ะรอเรียบร้อยแล้ว” เบญจมินปรายตามองลูกน้องอย่างหมั่นไส้ กับคำพูดที่บอกว่าผู้หญิงของนาย และยังเตรียมอาหารไว้รออีก รู้ดีเกินหน้าที่เสียจริงๆ “ใครสั่งให้ทำ แล้วถอนคำพูดด้วยนะ ที่บอกว่าผู้หญิงคนนั้น คือผู้หญิงของฉัน” คนถูกตำหนิหน้าสลดลงก้มหน้างุด ก็เห็นอยู่ด้วยกันจนถึงเช้า อีกทั้งยังสั่งให้เขาซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้ นั่นก็แสดงว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนพิเศษ เพราะปกติเจ้านายของเขา ไม่เคยปล่อยสดกับผู้หญิงคนไหน อีกอย่างปกติเวลาเจ้านายเรียกผู้หญิงมาใช้บริการ ก็ไม่เคยมีใครได้ขึ้นมาบนห้องนี้สักคน และหากบริการเสร็จสิ้น ต่างคนก็ต่างไปจ่ายเงินแล้วแยกย้าย ไม่มีใครได้นอนค้างแบบผู้หญิงคนนี้ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ไมเคิล เรียกว่าผู้หญิงของนายได้ยังไง “ครับ ขอโทษครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมสั่งให้แม่บ้าน เอาอาหารไปเก็บนะครับ” “ไม่ต้อง” เอ่ยบอกโดยไม่ต้องคิด แต่เมื่อหันไปเห็นสายตาเป็นคำถามปนสงสัยของไมเคิลที่มองมา ก็รีบพูดแก้เก้อออกไป “ไหนๆ ก็สั่งมาแล้ว ให้กินไปเถอะ” ไมเคิลลอบยิ้ม เมื่อได้ยินคำพูดแก้ตัวของเจ้านาย คนอย่างเบญจมิน ที่ร่ำรวยล้นฟ้าเนี่ยนะ รู้จักคำว่าเสียดาย และยังเป็นความเสียดาย แค่อาหารจานละไม่กี่บาทด้วย “ที่แท้ก็เป็นห่วง” แม้จะพูดออกมาเบาๆ แต่คนหูไวอย่างเบญจมินก็ได้ยิน ประโยคที่ลูกน้องคนสนิท ที่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่คิดพูดออกมา “ไมเคิล ฉันว่านายทำงานสบายมากเกินไป เปลี่ยนไปเลี้ยงลูกชายฉันไหม” น้ำเสียงราบเรียบที่พูดออกมา ทำให้ไมเคิลเย็นยะเยือกไปถึงไขสันหลัง ใบหน้าซีดเผือดกลืนน้ำลายดังเอือก เมื่อได้ยินคำว่าต้องไปเลี้ยงลูกชายของเจ้านาย ที่ไม่มีใครไม่รู้ ว่าลูกชายนั้นมันหมายถึง จระเข้ที่เบญจมินเลี้ยงเอาไว้ในบ่อ ภายในบริเวณบ้าน “มะ ไม่ดีกว่าครับนาย” ไมเคิลรีบปฏิเสธรัวเร็ว ใครอยากจะไปเลี้ยงลูกๆ ของเจ้านายกัน มีแต่ตัวโตน่ารักน่าชังทั้งนั้น ไม่อยากจะคิดเลย ว่าถ้าตกลงไปในบ่อสภาพจะเป็นยังไง พริมาออกมาจากห้องน้ำ ด้วยผ้าเช็ดตัวพันรอบกายเพียงผืนเดียว แม้ยังรู้สึกเจ็บเวลาก้าวเดินตรงกลางกาย แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ หญิงสาวไม่มีเวลามานั่งคร่ำครวญร้องไห้เสียใจอีกแล้ว เสียแล้วก็เสียไปไม่เป็นไร สิ่งสำคัญที่เธอต้องทำ คือรีบไปโรงพยาบาลเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล และบอกกับทีมแพทย์ว่าให้ช่วยรักษาแม่ของเธอให้เต็มที่ เพราะเธอมีเงินจ่ายค่ารักษาแล้ว “นี่ค่ะ คุณเบญจมินให้ป้าเอาไปซักมาให้” แม่บ้านรีบยื่นเสื้อผ้าส่งให้ เมื่อเห็นพริมาเดินออกมาจากห้องน้ำ “ขอบคุณมากนะคะ” รับเสื้อผ้ามาถือไว้ โดยไม่ลืมจะเอ่ยขอบคุณออกไป จากนั้นก็รีบไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย พริมาเดินออกมาจากห้องนอน พร้อมกับแม่บ้านที่เดินเลี่ยงออกจากห้องไป ทำให้ภายในห้องมีเพียงพริมากับเบญจมินเท่านั้น หญิงสาวจึงเดินไปหยุดอยู่ข้างโซฟาที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ “ไปกินข้าว ฉันให้คนเตรียมเอาไว้ให้ เดี๋ยวจะหาว่าฉันแล้งน้ำใจ” เบญจมินลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินไปโต๊ะอาหาร “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันคงไม่ทาน ฉันมีธุระต้องไปทำ” “รีบกลับไปหาแฟนหรือไง หรือว่านัดแขกไว้ ก็เลยต้องรีบกลับไปบริการต่อ” คนถูกกล่าวหาชักสีหน้าไม่พอใจใส่คนตรงหน้า สองมือกำเข้าหากันแน่น พยายามข่มสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ การที่เธอยอมทำเรื่องอย่างว่า เพื่อแลกกลับเงิน มันก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะทำเรื่องแบบนี้เป็นอาชีพ หรือหากเธอจะทำเป็นอาชีพขึ้นมาจริงๆ เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาดูถูกเธอแบบนี้ อีกอย่างเมื่อคืนเขาก็เป็นคนพรากความภูมิใจของเธอไปแล้ว ยังจะมาพูดแบบนี้กับเธออีกทำไม “อย่ามาชักสีหน้าใส่ฉันแบบนี้นะ เพราะฉันไม่ชอบ...โกรธเหรอ ที่ฉันพูดความจริง ทำเป็นรับขึ้นมาไม่ได้ซะงั้น” เบญจมินยิ้มเยาะ มองพริมาด้วยสายตาเหยียดเย้ย เมื่อเห็นหญิงสาวมองตัวเองตาขวาง หน้าแดง ตัวแดง กำมือแน่นทั้งสองข้าง “ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ระหว่างคุณกับฉันเรื่องมันจบแล้ว” พูดเสียงดังใส่หน้าเบญจมินอย่างเหลืออด เธอเกลียดที่สุด ก็คือการดูถูกนี่แหละ สายตาแบบนี้ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม เธอเกลียดมัน เพราะมันคือสิ่งที่เธอได้รับมาตั้งแต่เด็ก เบญจมินกระชากแขนเรียว ดึงร่างบางให้เข้ามาหาด้วยความโมโห สิ่งที่เขาเกลียดที่สุด ก็คือการที่ผู้หญิงขึ้นเสียงใส่ จ้องตาเขาอย่างท้าทาย และก็เถียงเขาฉอดๆ นี่แหละ แต่ที่เกลียดที่สุด ก็คงจะเป็นคำพูดที่บอกว่า เรื่องของเขากับเธอมันจบแล้ว ซึ่งมันไม่ผิดที่หญิงสาวจะพูดอย่างนั้น แต่เขาคือผู้กุมอำนาจ ทั้งด้านมืดและด้านขาว คนที่สามารถออกคำสั่งได้ คือเขาคนเดียวเท่านั้น “หึ! คิดว่าฉันอยากสานสัมพันธ์กับเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอ รู้เอาไว้เลยนะ ว่าคนอย่างฉันไม่ใช้สินค้าซ้ำสอง ทิ้งก็คือทิ้ง ไม่เก็บเอามากินต่อ และที่สำคัญ อย่าสำคัญตัวเองผิด คิดว่าฉันพิศวาสเธอ เพราะผู้หญิงอย่างเธอ มันก็ไม่ต่างจากผู้หญิงที่ฉันเคยซื้อมาก่อนหน้าหรอก จำเอาไว้” น้ำเสียงเย็นชาถูกเปล่งออกมาอย่างไร้เยื่อใย ผลักพริมาออกไปให้ไกลตัว เหมือนเธอคือสิ่งของน่ารังเกียจ คว้าแผงยาคุมที่วางอยู่บนโต๊ะยัดใส่มือหญิงสาว “กินซะ เพราะฉันไม่อยากมีปัญหาตามมาทีหลัง” พูดจบก็เดินหัวเสียออกไปจากห้องทันที พร้อมกับเสียงประตูที่ดังปังตามแรงอารมณ์ของชายหนุ่ม พริมาชาไปทั้งตัว แต่สิ่งที่ยังคงมีความรู้สึก ก็คือก้อนเนื้อด้านซ้าย ที่มันยังคงเต้นแรงและรู้สึกเจ็บ ที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นออกมาจากผู้ชายคนนั้น ดวงตาคู่สวยสั่นไหว มองแผงยาคุมฉุกเฉินด้วยความเจ็บ ปล่อยน้ำตาไหลออกมาเงียบๆ ไร้เสียงสะอื้นไห้ ก่อนเจ้าตัวจะยกมือขึ้นมาเช็ดมันทิ้งไปด้วยความเร็ว คิดว่าเธออยากให้มีปัญหาตามมาทีหลังหรือไง เธอก็ไม่ต้องการให้มีปัญหาเหมือนกันนั่นแหละ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม