ไม่สบอารมณ์

1803 คำ
ภายในห้องผู้ป่วยวิกฤต หญิงสาวในชุดปลอดเชื้อ มองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่นอนอยู่บนเตียง ผ่านม่านน้ำตาที่รินไหลอาบลงบนสองแก้ม หากสามารถแลกเปลี่ยนความเจ็บปวดนี้ได้ พริมาขอรับความเจ็บปวดนี้เสียเอง “แม่รีบตื่นมาคุยกับหนูนะ หนูมีเรื่องอยากจะคุยกับแม่เยอะเลย แม่รีบตื่นขึ้นมานะ” บีบมือมารดาที่กุมไว้ ดั่งต้องการสื่อสารให้ท่านรับรู้ว่าเธอไม่ได้ไปไหน เธอยังอยู่ตรงนี้ อยู่ดูแลท่านตรงนี้ และพร้อมจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ท่านปลอดภัยกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับเธออีกครั้ง หลังจากแวะไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาล พริมาก็เดินเตร็ดเตร่ไปตามริมฟุตบาท ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับแสงแดด ในช่วงเที่ยงวันที่ร้อนระอุเลยสักนิด พริมาตอนนี้เหมือนคนไร้จิตวิญญาณ เพราะในสมองของเธอตอนนี้ มีเรื่องมากมายให้ขบคิดและแก้ปัญหา จนรู้สึกปวดศีรษะจวนเจียนจะอาเจียน ปิ๊ดๆๆๆ เสียงแตรรถจักรยานยนต์ ดึงความคิดพริมาให้กลับมาอยู่กับตัวเอง พร้อมกลับหันกลับไปมองด้านหลัง ก็เห็นรถจักรยานยนต์คันคุ้นตา แล่นเข้ามาหยุดลงตรงหน้า “มาเดินตากแดดเล่นทำไม พี่ไม่ร้อนหรือไง” ปิงเอ่ยถามพี่สาวคนสนิท พร้อมกับมองใบหน้าซีดเผือด ที่มีเหงื่อเม็ดเล็กซึมบนหน้าผาก “ไปหาแม่มา ก็เลยเดินคิดอะไรมาเรื่อยเปื่อย แล้วแกไปไหนมา” “ไปส่งลูกค้ามา มาขึ้นรถเดี๋ยวไปส่งบ้าน” พริมารับหมวกกันน็อคจากปิงมาสวม ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของชายหนุ่มไป ภายในรถรถยนต์คันหรูสีดำ บริเวณเบาะหลังมีชายหนุ่มอยู่ในชุดสูทเรียบหรูสีกรมท่านั่งอยู่ในนั้น สายตาคมกริบมองภาพของชายหญิง ที่อยู่ริมถนนด้วยความเจ็บใจ กรามขบกันแน่นจนเป็นสันนูนกับภาพตรงหน้า ไม่น่าเสียเวลาให้ลูกน้องขับรถมาดูเลยสักนิด และที่สำคัญเขาไม่น่ารู้สึกผิดกับผู้หญิงคนนี้เลย ที่พูดแรงๆ แบบนั้นกับเธอออกมา ทั้งที่มันก็คือเรื่องจริง ที่แท้ก็รีบมาหาผู้ชายคนอื่นจริงๆ ด้วย ต่ำ!! “ไป” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยสั่ง รถยนต์คันหรูก็เคลื่อนตัวออกจากตรงนั้นเข้าสู่ถนน รถจักรยานยนต์จอดลงหน้าบ้านไม้กลางเก่ากลางใหม่ ตามด้วยร่างบางลงจากรถยื่นหมวกกันน็อคส่งคืนให้น้องชาย “ขอบใจมากนะที่มาส่ง” “ไม่เป็นไรพี่ แล้วเมื่อคืนพี่ไปไหนมา ผมแวะมาหาไม่เห็นอยู่บ้าน” พริมาเหมือนคนน้ำท่วมปาก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก “พิมพ์กลับมาแล้วเหรอ” เสียงเรียกที่ดังแทรกข้ามา เหมือนดั่งเสียงสวรรค์ที่เข้ามาช่วยชีวิตของพริมาไว้ หญิงสาวรีบหันกลับไปหาเจ้าของเสียง “จ้ะ” “แล้วเมื่อคืนไปไหนมา ร้านก็ไม่เข้า แวะมาหาที่บ้านก็ไม่เจอ” จากที่คิดว่าเป็นเสียงสวรรค์ ตอนนี้พริมากลับคิดว่าไม่ใช่เสียแล้ว “ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันแล้วนะพี่พิมพ์ โดยเฉพาะ...รอยที่อยู่บนคอพี่เนี่ย” ปิงพูดเสียงเข้ม มองร่องรอยสีกุหลาบ ที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อของพริมา เฉกเช่นเดียวกับมิ้นก็หันมองเช่นกัน ก่อนสายตาของทั้งสองคน จะมองใบหน้าซีดเผือดของพริมา พริมานั่งก้มหน้างุด ไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาปิงและมิ้น ที่จ้องมาอย่างไม่วางตา หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของพริมา “พิมพ์เอ๊ย ทำไมชีวิตแกต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ” มิ้นพูดออกมาด้วยความสงสารแกมเห็นใจ ถึงแม้พริมาไม่ใช่ญาติพี่น้อง แต่เธอก็รักและเอ็นดูพริมาเหมือนกับน้องสาวคนหนึ่ง เพราะเห็นพริมาตั้งแต่อยู่ในท้องป้าเพียง อีกอย่างพริมาก็เป็นเด็กนิสัยดี ไม่เคยทำตัวเสื่อมเสีย เป็นเด็กกตัญญูดูแลแม่ ช่วยแม่ทำงานตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้ออกไปเล่นสนุกสนาน เหมือนเด็กคนอื่นเขา แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรหนักหนา ชีวิตของสองแม่ลูกนี้ถึงมีอุปสรรคอยู่ร่ำไป “นั่นดิพี่ กำลังจะสบายอยู่แล้วเชียว ป้าเพียงก็ต้องมาถูกรถชน ส่วนพี่ก็ต้อง โอ๊ย! เครียดโว้ย” ปิงร้องขึ้นด้วยความเครียดสงสารพริมาจับใจ “แล้วแกจะเอายังไงต่อไป” มิ้นเห็นสีหน้าแสดงออกถึงความเครียดของพริมา ก็อดจะเป็นห่วงไม่ได้ “พิมพ์คงไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะพี่ ทุกอย่างมันจบไปแล้ว...แต่สิ่งที่พิมพ์กังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือแม่ พิมพ์เป็นห่วงแม่” มิ้นดึงพริมาเข้ามากอด ลูบแผ่นหลังบางเป็นการปลอบ “ป้าเพียงแกเป็นคนดี อีกไม่นานเดี๋ยวก็หาย แกอย่าเครียดมากนักเลย เดี๋ยวจะล้มป่วยไปอีกคน...ถ้าวันนี้เข้าร้านไม่ไหวก็ไม่ต้องไปหรอก นอนพักผ่อนซะ เดี๋ยวฉันบอกคุณอาทิตย์ให้” “ไม่ได้หรอกพี่ ช่วงนี้ต้องใช้เงิน พิมพ์ไม่อยากหยุด” มิ้นกับปิงต่างถอนหายใจออกมา เมื่อได้ยินคำพูดของพริมา แต่ทั้งคู่ก็เลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไรต่อ ด้วยรู้จักนิสัยของพริมาดีว่าเป็นคนอย่างไร ถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่ และไม่มีใครเปลี่ยนใจ เปลี่ยนความคิดได้ทั้งนั้น บรั่นดีรสชาติเยี่ยมแก้วแล้วแก้วเล่า ถูกยกขึ้นดื่มนานนับชั่วโมง แต่ฤทธิ์เดชของแอลกอฮอล์ไม่สามารถทำอะไรชายหนุ่มคนนี้ได้เลย มีเพียงใบหน้าที่ซับสีแดงขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น “คุณมังกรต้องการเด็กไหมครับ เดี๋ยวผมไปเรียกมาให้” หลังจากที่นั่งเฝ้าแขกคนสำคัญอยู่นาน อาทิตย์ก็เอ่ยถาม เมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของลูกค้าคนสำคัญ อีกทั้งยังคิดไปไกล ว่าพริมาไปสร้างความไม่พอใจอะไรเบญจมินหรือไม่ ถึงได้มีสีหน้าเครียดขรึมไม่สบอารมณ์เช่นนี้ “ไม่ต้อง” เบญจมินกระดกบรั่นดีอยู่ในมือขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว บอกตามตรงว่าไม่สามารถสลัดภาพของพริมากับผู้ชายที่เห็นเมื่อช่วงกลางวันได้เลย ภาพเหล่านั้นยังลอยวนเข้ามาสร้างความหงุดหงิดให้ไม่จางหาย จนต้องพาตัวเองออกมาดื่มอย่างเช่นตอนนี้ “เอ่อ...ไม่ทราบว่า พิมพ์ทำอะไรให้คุณมังกรไม่พอใจหรือเปล่าครับ พิมพ์ไปสร้างเรื่องอะไรให้หรือเปล่า ถ้าใช้ผมจะได้เรียกตัวมาให้คุณมังกรจัดการ” เบญจมินเหลือบสายตามองอาทิตย์เล็กน้อย ก่อนจะกระแทกลมหายใจออกมาหนักๆ พริมาไม่ได้สร้างเรื่องอะไรให้เขาหรอก แต่เป็นเขาเองนี่แหละ ที่ดึงความคิดตัวเองออกมาไม่ได้ ทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยจริงๆ มีอะไรกับผู้หญิงมาก็ตั้งมากมาย แต่ทำไมกลับไม่มีผู้หญิงคนไหน ทำให้เขาเป็นแบบนี้เลยสักคน “ไหนคุณบอกว่า ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารไง ทำไมผมถึงเห็นเธอหัวเราะเริงร่ากับผู้ชายทุกคน” อาทิตย์มองตามสายตาของลูกค้า ที่มองไปยังด้านล่าง ก็เห็นพริมากำลังคุยอยู่กับลูกค้าผู้ชาย ด้วยท่าทางสดชื่น หัวเราะต่อกระซิกอย่างมีความสุข เมื่อเห็นดังนั้นอาทิตย์ก็ยิ้มออกมา “พิมพ์เป็นบาร์เทนเดอร์ของที่นี่ครับ น่ารักอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มกับลูกค้า ก็เลยมีลูกค้าติดเธอมาก แวะเวียนมาคุยด้วยแบบนี้ทุกวัน พิมพ์ก็อาจจะคุยตามหน้าที่ครับ” เบญจมินแสยะยิ้ม ยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มอีกครั้ง โดยที่สายตายังมองไปเบื้องล่วงไม่วางตา มีลูกค้าติดมากอย่างนั้นเหรอ ก็คงจะใช่ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่มีผู้ชายไปรับหรอก “ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” ว่าแล้วก็รีบลุกเดินออกจากโต๊ะไปด้วยความรีบ ร่างสูงก้าวรีบก้าวด้วยความเร็ว เพื่อพาตัวเองมาให้ทันเป้าหมาย เมื่อเห็นพริมาเดินออกมาจากเคาน์เตอร์บาร์ แต่คงช้าเกินไป เมื่อหญิงสาวเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำ ครั้นจะเดินตามเข้าไปคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ จึงทำได้แต่ยืนรออยู่ด้านนอก จนเวลาผ่านไปคนที่รอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ “เห็นผู้ชายเป็นไม่ได้เลยนะ หน้านี่ยิ้มไม่หุบเชียว” พริมาหยุดเท้าลง เมื่อได้ยินคำพูดประชดประชันดังขึ้น หมุนกลับไปมองเจ้าของประโยคด้วยความไม่พอใจ ไหนบอกว่าต่างคนต่างอยู่ จบก็คือจบ แล้วเหตุใดถึงได้มาพูดแขวะเธอแบบนี้ ทว่าพริมาก็ไม่คิดจะตอบโต้อะไรกลับไป เพราะเธอไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดให้มีปัญหา จึงเลือกที่จะเดินหนีมา โดยไม่รู้เลยว่า การเดินหนีออกมาแบบนั้น เหมือนเป็นการเพิ่มแรงโทสะให้ชายหนุ่มเป็นอย่างมาก คนอย่างเบญจมิน ถ้าคุยกันยังไม่รู้เรื่อง คุยกันยังไม่จบ และถ้าเขายังไม่ได้สั่งให้ไป ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เดินหนีเขาไปไหนทั้งนั้น ร่างสูงก้าวตามไม่กี่ก้าว ก็คว้าข้อมือของพริมาเอาไว้ได้ทัน ดึงให้หญิงสาวหันหน้ามาหากัน “อ้ะ! นี่คุณปล่อยนะ เจ็บ!” พยายามแกะมือที่จับข้อมือเธอออก แต่แทนที่ชายหนุ่มจะปล่อยกลับออกแรงบีบขึ้น “เกิดหวงเนื้อหวงตัวอะไรขึ้นมาล่ะ เมื่อคืนไม่เห็นหวงเลย ออกจะเต็มใจด้วยซ้ำ” แสยะยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ย ยิ่งเห็นท่าทางขัดขืน เหมือนไม่อยากให้เขาจับเนื้อต้องตัว ก็ยิ่งอารมณ์เสีย ทั้งที่เมื่อคืนเพิ่งจะมีอะไรกันไปแท้ๆ นี่ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง กลับแสดงท่าทางรังเกียจเขาถึงขนาดนี้เลยเหรอ “นี่คุณ! เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืนสิ วันนี้ก็คือวันนี้ คุณเองไม่ใช่เหรอ ที่เป็นคนบอกกับฉัน ว่าหลังจากที่ออกมาจากห้องนั้นแล้ว ให้ฉันจบเรื่องทั้งหมด แล้วคุณเป็นอะไรขึ้นมาเนี่ย” คำพูดของพริมาเหมือนจะเรียกสติของเบญจมินให้กลับมา นั่นดิวะ! นี่กูเป็นอะไรของกู ถึงได้เป็นบ้าอารมณ์เสีย ที่เห็นผู้หญิงคนนี้คุยกับผู้ชายคนอื่น จนต้องมายืนดักรอที่หน้าห้องน้ำแบบนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม