“คุณจะปล่อยฉันได้หรือยังคะ” พริมาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เมื่อคนตรงหน้ายืนนิ่ง ไม่พูดอะไรตอบกลับมาสักคำ เบญจมินที่ได้สติ รีบปล่อยมือออกจากข้อมือของพริมาเหมือนมันคือของร้อน
“ก็ไม่ได้อยากจะจับเท่าไหร่นักหรอก” ว่าแล้วก็หันหลังเดินกลับออกไปดื้อๆ โดยมีเสียงถอนหายใจของพริมาดังขึ้นอย่างโล่งอก
และจังหวะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวก็ดังขึ้น พริมารีบกดรับด้วยความเร็ว เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอ
“สวัสดีค่ะ พริมาพูดสายค่ะ...อะ...อะไรนะคะ...ได้ค่ะได้...ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่คะ...หะ ห้าแสนเหรอคะ...ได้ค่ะ...ฝากแม่ด้วยนะคะ เดี๋ยวฉันจะรีบไป” หญิงสาวกำโทรศัพท์มือถือในมือแน่น พร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลออกมาด้วยความกลัว
ตอนนี้แม่เธอกำลังแย่ หมอกำลังเร่งช่วยชีวิตเป็นการด่วน โดยการผ่าตัดสมองอีกครั้ง เงินห้าแสน เธอจะไปหามาจากไหน ที่เหลืออยู่ก็ไม่พอ
หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้า รีบเดินไปหาใครบางคน ที่เพิ่งจะเดินหนีเธอไปเมื่อสักครู่ ตอนนี้เธอมองหาใครไม่เจอแล้วนอกจากผู้ชายคนนั้น
ขาที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดหยุดชะงัก หันกลับมามองมือตัวเอง ที่ถูกมือของใครบางคนจับไว้ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“คืนนี้ฉันขอนอนกับคุณได้ไหมคะ เพื่อแลกกับเงินห้าแสน” เอ่ยออกมาอย่างสมเพชเวทนาตัวเอง
ไม่คิดเลยว่าต้องมาอยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิต ต้องมายืนขอร้องมีอะไรกับผู้ชายเพื่อแลกกับเงิน
คิ้วเข้มที่ขมวดกันยังไม่ได้คลายออก ก็ยิ่งขมวดเข้าหากันเป็นปมมากขึ้นกว่าเดิม เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ คนที่ทำตัวรังเกียจเขาเมื่อสักครู่ ถึงได้มาขอร้องอยากนอนกับเขาเพื่อแลกกับเงิน
“นะคะคุณมังกร ฉันขอนอนกับคุณอีกคืน เพื่อแลกกับเงินห้าแสนนะคะ หรือให้ฉันทำอะไรก็ได้ ไหว้ก็ได้กราบเท้าก็ยอม นะคะ” ตั้งท่าจะนั่งลงกราบเท้าชายหนุ่มตามที่พูดออกไป เบญจมินจึงดึงร่างบางให้ลุกขึ้นมา
“เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย ฉันไม่ได้เป็นสถานสงเคราะห์ ช่วยเหลือคนเดือดร้อนเรื่องเงินหรอกนะ ที่พออยากได้เงินก็จะมาขอนอนกับฉัน บ้าสิ้นดี” มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างดูแคลน เกิดมายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเป็นเหมือนผู้หญิงคนนี้เลยสักคน
หน้าเงิน!!
พริมาหน้าซีดเผือด ความหวังของเธอพังทลายลงอย่างไม่เป็นท่า แต่ก่อนจะได้พูดอะไรตอบกลับมา เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง
พริมามองเบอร์โทรศัพท์เบอร์เดิม ที่โทรเข้ามาอีกรอบด้วยหัวใจเต้นระรัว มือที่ถือโทรศัพท์สั่นเทาเล็กน้อย ความกลัวแล่นเข้ามาเกาะกุมหัวใจ น้ำตาที่เพิ่งเหือดแห้งไปไหลออกมา ก่อนเจ้าตัวจะรีบเช็ดทิ้งไปและกดรับสาย
“ฮัลโหลค่ะ...อะ อะไรนะคะ ค่ะๆ จะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” พูดจบก็รีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที โดยไม่ได้สนใจเบญจมินเลยสักนิด หัวใจของหญิงสาวดั่งถูกกระชากร่วงหล่นออกไปจากตัว
แม่เธอหัวใจหยุดเต้น ตอนนี้ทีมแพทย์กำลังช่วยชีวิตอยู่
อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะแม่ หนูกำลังจะไปหาแม่แล้วนะ แม่รอหนูก่อนนะ ....
พริมาได้แต่พร่ำบอกคนเป็นแม่ในใจ วิ่งออกไปยังหลังร้านด้วยความเร็ว เบญจมินเห็นท่าทางรีบร้อน อีกทั้งยังเห็นว่าหญิงสาวร้องไห้ ก็รีบเดินตามออกมาด้วยความเร็วเช่นกัน คว้าข้อมือของหญิงสาวเอาไว้ทัน
“ไปไหน”
“ปล่อยค่ะ ฉันรีบ” พริมาพยายามแกะมือของเบญจมินออกด้วยแรงทั้งหมดที่มี ตอนนี้เธอไม่มีเวลามาพูดหรืออธิบายอะไรทั้งนั้น แม่กำลังรอเธออยู่
“เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอต้องร้องไห้ด้วย มีเรื่องอะไร” ถามอย่างใจเย็น แม้ท่าทางของพริมาจะร้อนใจมากก็ตาม แต่เบญจมินก็อยากรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“แม่...แม่ฉันหัวใจหยุดเต้น คุณมังกร คุณช่วยแม่ฉันทีนะคะ ช่วยแม่ฉันได้ไหม ขออีกสักครั้งช่วยฉันทีนะ” พริมาเอ่ยตอบกลับมาเสียงสั่นเครือจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง น้ำตาไหลอาบแก้มลงมาโดยไม่คิดอาย สิ่งที่เธอต้องการคือความช่วยเหลือจากเบญจมินเท่านั้น
“ใจเย็นๆ ตั้งสติแล้วบอกฉัน ว่าแม่เธออยู่ที่ไหน” พริมารีบกลั้นเสียงสะอื้น พร้อมทั้งยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ
“อยู่ที่โรงพยาบาล....”
“ตามฉันมา” เบญจมินไม่รอฟังให้จบด้วยซ้ำ ว่าโรงพยาบาลที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน คว้ามือพริมาเดินมาที่รถของตัวเองที่จอดอยู่หลังร้าน
“ไมเคิลเอารถออก ฉันต้องการไปโรงพยาบาลภายในสิบนาที” พูดสั่งลูกน้อง พร้อมกับเปิดประตูรถ จับพริมาให้เข้าไปนั่งในรถและตามมาด้วยเอง
ไมเคิลแม้จะไม่เข้าใจในคำสั่งสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังสงสัยที่เห็นเจ้านายมาพร้อมกับพริมา ทว่าก็เลือกที่จะทำตามคำสั่งโดยไม่ปริปากถาม รีบเปิดประตูรถเข้าไปประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัย ขับออกไปตามเส้นทางที่เจ้านายบอกด้วยความเร็ว