เริ่มงานวันแรก 1

802 คำ
พริมาตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ หรือจะเรียกว่ายังไม่ได้นอนเลยก็ว่าได้ เพราะตลอดทั้งคืนหญิงสาวเฝ้าแต่ครุ่นคิด ถึงเรื่องสัญญาซาตาน ที่เบญจมินให้เธอเซ็นจนนอนไม่หลับ รีบจัดการอาบน้ำแต่งตัวออกมาทำงานบ้าน ปัด กวาด เช็ด ถู จวบจนมาถึงอาหารเช้า ทว่าหญิงสาวก็ถึงกับยกมือกุมขมับ เมื่อเปิดตู้เย็นแล้วพบว่าในนั้นไม่มีอะไรเลย นอกจากน้ำเปล่าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ “ไม่มีอะไรติดตู้สักอย่าง แล้วจะทำอะไรให้ทานล่ะ” บ่นพึมพำกับตัวเอง หันซ้ายแลขวากวาดสายตาหาวัตถุดิบในครัว ก็ไม่เห็นมีอะไรที่พอจะนำมาปรุงอาหารได้เลยสักนิด “หาอะไรอยู่เหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างสุภาพ จากชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ในชุดสูทยืนอยู่เบื้องหลัง พริมาหมุนตัวกลับมายิ้มให้อย่างเป็นมิตร เช่นเดียวกับชายหนุ่มก็ส่งยิ้มบางมาให้ อีกทั้งแววตาก็ดูอ่อนโยน และเป็นมิตรมากกว่าเจ้านายของเขาอยู่มาก “พิมพ์จะทำอาหารเช้าให้เจ้านายคุณค่ะ แต่ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลย” ไมเคิลพยักหน้ารับ เข้าใจยื่นถุงที่ตัวเองถือมาส่งให้หญิงสาว พริมารับมาถือไว้ก้มลงมองห่อขนมปังที่อยู่ในมือ “นายไม่ชอบทานอาหารเช้า ส่วนมากจะทานแค่กาแฟดำ กับขนมปังปิ้งเท่านั้นครับ” คำบอกเล่าในประโยคต่อมาทำให้พริมาเข้าใจทันที “ค่ะ ขอบคุณนะคะ ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอคะ เราเจอกันตั้งหลายครั้ง แต่พิมพ์ยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” ในเมื่อเธอต้องอยู่ที่นี่อีกนาน เพราะฉะนั้นพริมาจึงเลือกที่จะความรู้จักกับใครสักคน และคนคนนั้นก็คือผู้ชายคนนี้ หากให้เธอเดาผู้ชายคนนี้ คงเป็นคนสนิทที่สุดของเจ้าของห้องนี้อย่างแน่นอน “ไมเคิลครับ ผมเป็นเลขาคุณเบญจมิน ถ้าคุณพริมามีเรื่องอะไรอยากรู้เกี่ยวกับเจ้านาย ถ้าผมตอบได้ผมยินดีครับ” พริมาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม จากคำพูดของไมเคิลเมื่อสักครู่ พริมารู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นชื่อเต็มๆ ว่าเบญจมิน ว่าแต่ทำไมไมเคิลรู้จักชื่อของเธอ ทั้งที่เธอกับเขาเพิ่งได้สนทนากันเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ หากไม่นับวันที่เขาไปรับตัวเธอมาวันนั้น “คุณรู้จักชื่อพิมพ์ด้วยเหรอคะ” “ไม่มีอะไรที่เจ้านายผมอยากรู้แล้วไม่รู้ครับ” “ค่ะ พิมพ์นะคะ ต่อไปเรียกแค่ชื่อเล่นพิมพ์ก็พอค่ะ ไม่ต้องเต็มยศก็ได้” “ครับ” “ว่างเหรอไมเคิล” เสียงห้วนที่ดังแทรกเข้ามา ทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมองยังที่มาของเสียง และเป็นไมเคิลที่ก้มหน้างุด หลบสายตาคมกริบที่มองมา เมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป ชะตาหัวเกือบหลุดแล้วไหมล่ะไอ้ไมเคิล “ไม่ว่างครับนาย” เบญจมินไม่ได้สนใจคำตอบของลูกน้องตัวดีเท่าไหร่นัก มองเลยไปยังหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ “เข้ามาแต่งตัวให้ฉันด้วย” เสียงห้วนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องนอน ท่ามกลางความโล่งอกของไมเคิล “คุณไมเคิล รีบไปสิคะ เดี๋ยวเจ้านายคุณไมเคิลก็โมโหอีกหรอก” ไมเคิลแทบจะหลุดขำออกมาเสียให้ได้ เมื่อได้ยินคำพูดของพริมา ไหนจะสีหน้าจริงจังของหญิงสาวอีก นี่พริมาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ ว่าประโยคเมื่อสักครู่ เจ้านายเขาบอกใคร แต่ที่แน่ๆ ไม่ได้บอกเขาแน่นอน เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กจนเบญจมินอายุสามสิบกว่า เขาไม่เคยถูกเรียกให้ไปช่วยแต่งตัวเลยสักครั้ง “นายเรียกคุณพิมพ์ต่างหากล่ะครับ” “เรียกพิมพ์เนี่ยนะคะ” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างไม่แน่ใจ “ครับ รีบๆ เข้าไปสิครับ เดี๋ยวนายก็อารมณ์เสีย และคนที่จะซวยก็คือคุณพิมพ์นั่นแหละ” “ค่ะๆ” แม้จะไม่เข้าใจ แต่พริมาก็เลือกจะเดินเข้าไปในห้องนอนของเบญจมินตามคำพูดของไมเคิล โดยมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของไมเคิลมองตามหลังไป เจ้านายนะเจ้านาย! แต่งตัวเองได้มาตั้งนาน พอมาวันนี้อยากให้คนมาช่วยแต่งตัวซะงั้น สงสัยบุพเพจะออกอาละวาดซะแล้วล่ะมั้งงานนี้ และถ้าใช่จริงๆ เขาก็อดที่จะสงสารพริมาไม่ได้ ที่ต้องมารองรับอารมณ์เจ้านาย ที่มีอารมณ์ร้ายดั่งพายุ แต่บทจะดีก็ดีจนเสียวสันหลัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม