เริ่มงานวันแรก2

1319 คำ
ส่วนคนที่ต้องการผู้ช่วยมาแต่งตัว ตอนนี้ยืนกอดอกมองออกไปยังด้านนอก มองดูพระพระอาทิตย์กำลังลอยขึ้นจากขอบของตึกสูงเบื้องหน้า สายตาคมทอดมองอย่างไร้จุดหมาย ไม่ได้สนใจคนที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้องเลยสักนิด “คุณให้ฉันมาช่วยแต่งตัวเหรอคะ เสื้อผ้าอยู่ไหน” คนถูกถามไม่มีแม้แต่หางตาจะชำเลืองกลับมามอง ยังคงนั่งยืนอยู่เช่นเดิม เดือดร้อนพริมาต้องเดินเข้าไปใกล้ เอ่ยถามออกไปอีกครั้ง “คุณมังกรคะ เสื้อผ้าอยู่ไหนคะ” “มานี่ซิ” เอ่ยเรียกทั้งที่ยังคงยืนมองเบื้องหน้าตามเดิม พริมาไม่คิดจะขัดใจ เพราะตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา หญิงสาวใคร่ครวญคิดกับตัวเองดีแล้ว ว่าเธอควรทำตามที่เบญจมินต้องการ เพื่อการมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข อีกอย่างผู้ชายคนนี้ คือเจ้าชีวิตของเธอและแม่ ชีวิตของแม่เธอฝากไว้ในมือของเขา เมื่อพริมาเข้ามายืนข้างกัน เบญจมินหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับหญิงสาว ขยับเข้าไปใกล้จนพริมาต้องถอยออกไปชิดอีกฝั่งอย่างระวังตัว แต่มีหรือที่จะรอดพ้นจากวงแขนแกร่งที่รั้งเอวคอดเข้าไปแนบชิด “คุณ!” รีบยกมือขึ้นยันแผ่นอกไว้ หากไม่เช่นนั้นหญิงสาวคงได้สิงเข้าไปกับอกแกร่งแน่ ทว่าอุ่นใจได้ไม่นานก็ต้องผงะไปด้านหลัง เมื่อใบหน้าคมก้มลงมาใกล้ในระยะประชิด จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของกันและกัน ลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ หัวใจเริ่มเต้นระรัวเมื่อถูกสายคมจ้องมองมาอย่างเช่นในตอนนี้ “มะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” สิ้นเสียงถาม ริมฝีปากหยักได้รูปก็ประกบลงบนเรียวปากอิ่มที่เอื้อนเอ่ยคำพูดหนวกหูออกมา คนที่ยังไม่ทันตั้งตัว ถึงกับตาเบิกกว้าง แม้จะเคยมีอะไรลึกซึ้งต่อกันมาแล้ว ทว่าการที่ถูกชายหนุ่มดึงมาจูบตามอำเภอใจแบบนี้ พริมาก็ไม่ชินเหมือนกัน มือบางที่ดันหน้าอกไว้ในตอนแรก เปลี่ยนมากำเสื้อคลุมอาบน้ำของชายหนุ่มแทน เมื่อเรียวลิ้นสากฉกเข้าไปในโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดรัดรึงลิ้นเล็กดูดดื่ม ไม่ปล่อยโอกาสให้พริมาหายใจหายคอ มิหนำซ้ำพริมายังคล้อยตามรสจูบเร่าร้อนแสนพลิ้วไหวของเบญจมิน อย่างคนอ่อนประสบการณ์ เมื่อเห็นอีกคนเคลิบเคลิ้มเลิกขัดขืน คนเอาแต่ใจก็ยิ่งเพิ่มความเร่าร้อนมากขึ้น ความต้องการในกายพลุ่งพล่าน เลือดลมสูบฉีดไปทั่วร่าง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมกับผู้หญิงคนนี้ แค่จูบนิดๆ หน่อยๆ เครื่องของเขาก็ติดขึ้นอย่างง่ายดาย ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง ผ่านเสื้อที่หญิงสาวสวมใส่ ลูบไล้ต่ำลงมายังชายเสื้อ สอดมือเข้าไปด้านในเพื่อสัมผัสความนุ่มนิ่มพอดีมือ “อืม” เบญจมินครางอย่างขัดใจ บีบทรวงอกของหญิงสาวแรงขึ้น รวมไปถึงบดขยี้เรียวปากอิ่มรุนแรง เป็นการลงโทษ เมื่อเจ้าของทรวงอกดิ้นขลุกขลักทุบตีทำร้ายร่างกายตนเอง “อ้ะ...คุณมังกรฉันเจ็บนะ” เมื่อริมฝีปากอิ่มที่เริ่มบวมจากแรงบดขยี้เป็นอิสระ พริมาก็แหวกลับอย่างลืมตัว “ฉันไม่ชอบคนขัดใจ” เสียงห้วนที่แฝงไปด้วยความดุดัน เอ่ยบอกหญิงสาวอย่างไม่พอใจ “ก็คุณเอาแต่ใจเกินไปนี่คะ” อ้อมแอ้มตอบกลับมาหน้ามุ่ย เบญจมินตาลุกวาว แสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ “แต่เธอไม่มีสิทธิ์ขัดใจฉัน จำไม่ได้หรือไง ว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไร” คนถูกความจริงตีแสกหน้าจุกในอกไม่น้อย เรียวปากอิ่มเม้มแน่น มองเบญจมินด้วยสายตาเฉยชาไม่ต่างกัน เธอสามารถเกลียดผู้ชายคนนี้ได้ไหม เพราะเขาช่างขยันพูดย้ำให้เธอเจ็บเสียเหลือเกิน ขยันตอกย้ำเสียจริงว่าเธออยู่ในสถานะอะไร ได้! อยากให้เธอทำหน้าที่ผู้หญิงของเขามากนักใช่ไหม พริมารั้งท้ายทอยเบญจมินไว้ เขย่งเท้าขึ้นประกบริมฝีปากของตัวเอง เข้าหาเรียวปากหยักของชายหนุ่มด้วยความเร็ว ขบเม้มริมฝีปากทั้งบนและล่าง ทำทุกอย่างเหมือนที่ชายหนุ่มทำกับเธอ แม้จะเงอะงะไม่ช่ำชอง แต่ก็ขอลองทำดูบ้าง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด หน้าที่ผู้หญิงของเขา ที่มีไว้บำเรอความใคร่ สนองตัณหาราคะ เบญจมินเผลอขมวดคิ้วเข้าหากัน กับการกระทำของหญิงสาว แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะนิ่งเฉยไม่ตอบโต้กลับไป แม้ในใจอยากจะกอดรัดและบดขยี้เรียวปากอิ่มเพียงใดก็ตาม เพราะอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำเช่นไร หากเขานิ่งเฉยใส่ อดทนไว้ไอ้มังกร ใจเย็นไว้ก่อนดูท่าทีเธอก่อน เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่ตอบโต้พริมาเริ่มใจฝ่อ อยากจะถอนริมฝีปากออกให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจก็ค้านว่าให้ลองสู้อีกสักตั้ง อย่าเพิ่งยอมแพ้ตอนนี้ เมื่อปลุกพลังฮึกเหิมในตัวได้สำเร็จ คนใจสู้จึงสอดลิ้นเล็กเข้าสู่โพรงปากอุ่นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไล่ตวัดหาลิ้นสากที่อยู่ด้านในก่อนจะเกี่ยวรัดเอาไว้ มือบางก็ลูบไล้แผงอกแกร่งแผ่วเบาด้วยมือที่สั่นเทาน้อยๆ ในที่สุดเบญจมินก็ทนต่อแรงยั่วยวนของหญิงสาวไม่ไหว จูบตอบกลับไปอย่างดูดดื่มเร่าร้อน ลิ้นสองลิ้นเกี่ยวรัดกันแน่น โดยเฉพาะเบญจมินที่ดูดดึงลิ้นเล็ก แทบจะดูดกลืนวิญญาณของหญิงสาวเข้าไปด้วยซ้ำ พริมาลอบยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ เมื่อคนที่ทำเหมือนเฉยชาไม่สนใจ กลับตอบสนองเธออย่างดูดดื่ม และก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดมากไปกว่านี้ จนพริมาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หญิงสาวจึงรีบผละริมฝีปากออกเสียดื้อๆ ทำให้คนที่กำลังเคลิบเคลิ้ม มองหน้าหญิงสาวอย่างงุนงง อารมณ์ไม่พอใจเกิดขึ้นฉับพลัน ที่ถูกอีกคนปล่อยทิ้งกลางทางไว้เป็นครั้งที่สอง “ฉันว่าเรารีบแต่งตัวดีกว่านะคะ เสร็จแล้วจะได้ทานข้าว” พริมารีบใช้โอกาส ที่เบญจมินกำลังงุนงงอยู่นั้น ผละตัวเดินออกมายังตู้เสื้อผ้า เบญจมินมองตามไปอย่างเจ็บใจ นี่เขากำลังถูกผู้หญิงคนนี้ปั่นหัวอยู่ใช่ไหม “พิมพ์” เอ่ยเรียกเสียงเข้มลอดไรฟัน ข่มอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้เต็มที่ แสบนักนะ! เดี๋ยวคืนนี้จะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู พริมาหันมายิ้มหวานให้ จงใจยั่วอารมณ์ของอีกคนให้พุ่งพล่าน และยังเอ่ยเรียกชายหนุ่มราวกับตัวเองไม่ได้ทำอะไรลงไป “รีบมาแต่งตัวได้แล้วค่ะ เดี๋ยวไปทำงานสายนะคะ มาค่ะ” สายตาคมกริบทอประกายขึ้นมา กรามขบกันแน่นจนเป็นสันนูน อยากเดินเข้าไปกระชาก เจ้าของประโยคหวานจนเลี่ยนโยนลงบนเตียง แล้วตามขึ้นไปขย้ำมอบบทลงโทษให้ อย่างสาสมหากไม่ติดว่าเขาต้องไปประชุมนะ เจอดี! เบญจมินได้เเต่เข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันอยู่ในใจ “อย่า มา กวน ประสาทฉัน” กดเสียงต่ำเอ่ยตอบกลับ แทนที่พริมาจะเกรงกลัว กลับส่งยิ้มหวานให้อย่างไม่สะทกสะท้านต่อสายตาคมนั้นเลยสักนิด “มาแต่งตัวเถอะค่ะ เดี๋ยวสาย" เสียงลมหายใจถูกผ่อนออกมาหนักๆ พร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพริมาอย่างที่หญิงสาวบอก กล่าวคาดโทษเสียงดุ “คืนนี้เธอเตรียมตัวสลบคาอกฉันได้เลยพิมพ์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม