ฉันเพิ่งรู้ว่าต้องได้ติดสอยห้อยตามเสี่ยมาที่กรุงเทพฯ ก็ตอนที่พี่บอลบอก ทำเอาฉันเตรียมของแทบไม่ทัน มีเวลาแค่ 5 นาที หยิบอะไรก็รีบหยิบยัดใส่กระเป๋าลวก ๆ ก่อนจะวิ่งกระหืดกระหอบมาขึ้นรถที่หน้าบ้าน “เสี่ยจะไปกรุงเทพฯ ทำไมเหรอคะ” ฉันถามหลังจากที่รถเคลื่อนตัวออกมาจากรั้วบ้านได้สักพักแล้ว “มีประชุม” เขาบอกสั้น ๆ พร้อมกับหยิบไอแพดขึ้นมาตรวจงานแบบที่ทำประจำ ในขณะที่ฉันเอาแต่นั่งชมนกชมไม้ไปตามทาง เพราะไม่รู้จะทำอะไร “เสี่ยครับ คนของท่านพญาติดต่อมาจากเกาหลีครับ” เสี่ยปรายตาขึ้นมามองพี่บอลที่อยู่เบาะหน้า แล้วเอื้อมมือรับโทรศัพท์ขึ้นแนบใส่ข้างหู “ว่าไง” คนข้างกันเงียบฟังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลอบมองมาที่ฉันเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกมา รอให้ฝั่งนั้นรายงานจนเสร็จก่อน “สรุปมันขึ้นที่ท่าเรือหนึ่งจริง ๆ ใช่ไหม” เขาถามออกไปเสียงเรียบ แต่จริงจังจนฉันเกร็งตัวไปด้วย “ติดต่อท่านพญาเลย จะเอายังไงก็ให้เ