บทที่ 1 ได้แค่มอง

1669 คำ
เช้ามืดในโชว์รูมวรภักดิ์ ร่างสวยสง่ารีบลงจากรถซีดานสีควันบุหรี่ด้วยความเร่งร้อน พร้อมกับพวงมาลัยแล้วเครื่องบูชาในการออกรถที่นิยมทำกัน โดยลูกค้าคนนี้ขอให้น้ำหรือวารุณี เซลล์สาวคนสวยจากโชว์รูมวรภักดิ์เตรียมมะกรูดมาด้วยเพื่อวางที่ล้อรถเป็นเคล็ดเกี่ยวกับอุบัติเหตุ แม้เธอจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่จะมองข้ามความเชื่อของคนไทยในการออกรถไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเครื่องไหว้แม่ย่านางหรืออื่น ๆ บางคนก็ฤกษ์ออกรถตีห้า เซลล์ผู้แสนทุ่มเทเช่นน้ำก็ยิ้มรับพร้อมบอกว่าได้ค่ะ แล้วเธอก็มาทำงานแทนแม่บ้านคือเปิดประตูโชว์รูมรับลูกค้าแต่เช้าตรู่ โดยมีพี่ยามเป็นเพื่อน เพราะเธอนั้นกลัวผี “น้องน้ำ...ให้พี่ช่วยครับ” รปภ.วัยมากกว่าเซลล์น้ำรีบกุรีกุจรมาต้อนรับ เพราะของที่หิ้วมาออกรถแต่ละวันนั้นมากมายนัก “ขอบคุณค่ะ รบกวนช่วยเอาไปวางที่โต๊ะหน่อยนะคะ” วารุณีต้องรีบไปเปิดโชว์รูมเบิกกุญแจแล้วเอารถมาเตรียม วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้วที่เธอมาเช้า แล้วก็กลับดึก พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเธอ เธอจะนอนให้เต็มที่เลยทีเดียว “ครับผม” ยามรีบนำไปวางยังที่จัดไว้ให้ทันที เพราะเซลล์น้ำคนสวยต้องรีบไปจัดการงาน ขณะที่เปิดโชว์รูมอยู่นั้นก็มีมือหนึ่งมาดึงแขนเธอไว้ทำให้เธอตกใจเผลอศอกเข้าไปด้านหลังตามสัญชาตญาณ อุ้ย! เสียงอุทานคุ้นหูของใครบางคนทำให้วารุณีรีบหันมา เนื่องจากแสงยังสลัวทำเธอมองเงาตะคุ่มที่รูปร่างสูงใหญ่ด้านหลังอย่างตกใจ เพราะเขากำลังกุมเป้าอยู่ เนื่องจากความสูงของเขาและเธอที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ ทำให้ระดับในการศอกกลับนั้นมันเข้าเป้าพอดิบพอดี “คุณภิ...ขอโทษค่ะ พอดีว่าน้ำตกใจ” หญิงสาวเผลอแทนชื่อตัวเองอย่างสนิทสนมทำให้ภิภักดิ์ยกยิ้มเล็ก ๆ แต่ก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยักษ์เมื่อเธอจ้องมองเขา ‘ยายบ้า ทำให้ฉันคิดถึงจนนอนไม่หลับยังมาทำร้ายกล่องดวงใจอีกเหรอ’ เขาบ่นในใจ แต่ใบหน้าคล้ายกับกำลังคาดโทษเธอเอาไว้ก่อน เพื่อรอชำระความ “มาทำงานแต่เช้า...มีอะไรน่ารีบหรือไง แล้วก็หัดดูตาม้าตาเรือด้วย” ภิภักดิ์ดัดเสียงเข้มด้วยความโกรธตวาดเธอออกไป ทั้งที่ใจรู้สึกฟูเต็มอกที่เจอพนักงานคนนี้แต่เช้า “ขอโทษค่ะ ต่อไปจะระวัง” “ฉันจะลงโทษเธอ” “เสร็จงานแล้วฉันจะไปรับโทษค่ะ” พูดแค่นั้นแล้วคนที่โดนทำร้ายกล่องดวงใจก็แย่งกุญแจในมือไปเปิดประตูเสียเองแล้วก็เข้าไปนั่งสงบใจในห้องทำงาน วารุณียอมรับแต่โดยดี ไม่ว่าเขาจะลงโทษอย่างไร เพราะเขาคือเจ้านาย น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายกล่าวออกไป แต่กลับทำให้คนฟังหงุดหงิดกับความห่างเหินนั้น ทั้งที่ตอนแรกยังแทนตัวว่าน้ำ เมื่อเขาโกรธก็เปลี่ยนสรรพแทนตัว ‘อวดดี!’ เขาไม่เคยเข้าออฟฟิศเช้ามาก่อน เพราะวารุณีคนเดียวที่ทำเขาเหมือนคนบ้า ที่ผ่านมาสามเดือนจนเกือบไตรมาสหนึ่งแล้วก็ยังลืมเธอไม่ได้ วันนี้นอกจากยอดออกรถแล้ว ยังมียอดจองเข้ามาไม่ขาดสาย วารุณีทำงานจนกินข้าวมื้อแรกเอาเกือบบ่ายสามแล้วอาการโรคกะเพาะก็กำเริบอีกครั้ง ฮึก...อ้วก!!! หญิงสาววิ่งไปนอกโรงอาหารที่โทรมาสั่งว่าให้เก็บข้าวไว้สักหนึ่งจานให้เธอ เพราะอยากประหยัดและไม่อยากทานอาหารข้างนอก ขณะที่หิวจนใจสั่นแต่คำแรกที่กลืนเข้าไปทำให้ตีกับน้ำย่อยที่เป็นกรดตีกลับขึ้นมาทำให้เธอวิ่งไปอ้วกเสียหมดไส้หมดพุง เธอรู้สึกเข็ดฟันเพราะน้ำย่อยเปรี้ยว ๆ นี้มันตีขึ้น จนเธอใบหน้าซีดเซียว พี่ยามใจดีเดินตรวจรอบโชว์รูมรอบบ่ายเดินมาเห็นเข้าก็ช่วยพยุง “น้องน้ำเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่าครับ” พี่ยามพยุงให้นั่งลงตรงม้านั่งใกล้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาให้ร่มเงา กับลมที่พัดเย็น ๆ ช่วยให้น้ำคลายความร้อนในร่างกายไปได้ เธอล้วงกระเป๋าหยิบเอายาดมขึ้นมาสูดแล้วก็นั่งหลับตา พักสักครู่เพื่อให้อาการดีขึ้น ส่วนที่ยามก็คอยหาอะไรมาพัดให้เธอดีขึ้น “พอแล้วค่ะ น้ำไม่เป็นอะไรแล้ว แค่กรดไหลย้อน” น้ำบอกพี่ยามใจดีของโชว์รูมไป แล้วเธอก็ยิ้มใบหน้าซีดเซียวไปให้เขา หลังจากพี่ยามออกไป น้ำก็โก่งคออ้วกอีกสองสามครั้งแล้วก็นั่งพักตรงนั้น แต่คนที่มองมาจากห้องที่เป็นกระจกด้านบนนั้นรู้สึกไม่สบายใจกับท่าทางของเธอ “นั่นไม่สบายเป็นอะไรอีก ไม่ใช่ว่า...ท้องหรอกนะ” ภิภักดิ์นับเวลานี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว หรือว่าเรื่องคืนนั้นของเขาและเธอจะเห็นผลแล้ว “ป้องกันหรือเปล่าว่ะ” ใบหน้าหล่อเครียดลงทันทีพร้อมกับยกมือเสยหัวจนยุ่งเหยิงด้วยความเครียด จำได้ว่าวันนั้นเขาเมามาก แล้วก็มีอะไรกับเธอโดยบังเอิญเพราะทั้งเธอและเขาก็เมาในงานเลี้ยงปิดยอดที่โรงแรมพร้อมกับเปิดห้องให้พนักงานพักผ่อน และเธอก็ดันเป็นห้องเดี๋ยวแล้วเขาก็เข้าห้องผิด จนสุดท้ายก็เลยตามเลย ยิ่งดึกเขาก็ยิ่งมีอารมณ์มาก บวกกับความเมาทำให้กินเธอจนเกือบเช้า ส่วนหญิงสาวก็ตอบสนองเขาอย่างดีจนเขาสร่างเมานานแล้ว แต่ที่ยังไม่สร่างคือความกำหนัดในร่างกายต่างหาก เมื่อตื่นขึ้นในตอนเที่ยงอีกวัน ที่มีทำกิจกรรม เธอกลับไม่พูดอะไรจนเขากลัวว่าเธอจะเสียใจไปหรือเปล่าที่พรากเอาครั้งแรกของเธอไป แต่เมื่อเขาจะพูดว่าจะรับผิดชอบ เธอกลับเอ่ยว่าเราก็แค่เมากัน ให้เรื่องเมื่อคืนเป็นแค่ฝันไปแล้วกัน เขารู้สึกเหมือนโดนฟันแล้วทิ้งชอบกล แต่ก็ดีเพราะเขาไม่เคยมีความรู้สึกรักใคร่ในตัวเธอ และหากเธอเรียกร้องก็คิดว่าเธอน่าจะวางแผนต้องการจับเขา สุดท้ายเธอกลับทำให้เขาสบายใจด้วยการเย็นชาใส่ แล้วทำเหมือนเขาและเธอคือคนรู้จักแค่ในงานเท่านั้น เหมือนไม่เคยลึกซึ้งกันมาก่อน นั่นทำให้เขาหงุดหงิดทุกครั้งที่เจอกัน ยิ่งวันนี้เห็นเธอมีอาการเหมือนคนท้อง ยิ่งทำให้ใจสั่น อยากเรียกเข้าไปถามแต่ก็ไม่กล้า ไม่รู้ว่าคนอย่างภิภักดิ์กลายเป็นคนขี้ขลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน วารุณีนั่งพักจนอาการดี แล้วกลับเข้าไปเก็บจานในโรงอาหารห้าบาท ที่มีอาหารให้พนักงานกินอย่างอิ่มอร่อย แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่ากินมันไม่ลง ร่างที่เดินอย่างไร้เรี่ยวแรงไปยังตู้กดน้ำในโชว์รูมกดเอาน้ำแดงมาดื่มเพิ่มพลังให้ร่างกาย และมันได้ผลเธอรู้สึกสดชื่น กลับมาที่โต๊ะทำงานแล้วควักหยิบเอายาลดกรดที่พกติดตัวเป็นประจำมาดื่ม แล้วนั่งสรุปยอดขายให้เสร็จก่อนที่จะเลิกงาน เพราะไม่อยากมาทำงานในวันเสาร์ เธอก็ต้องทำให้เสร็จในวันศุกร์ วารุณียิ้มให้กับเพื่อนร่วมงานพร้อมส่งเอกสารให้กับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แล้วก็กลับบ้านก่อน แต่ทว่าเหมือนเรี่ยวแรงกำลังจะหมด ขาเธอเริ่มอ่อนเมื่อเดินไปถึงลานจอดรถ จนต้องใช้มือจับที่ตัวรถเพื่อพยุงตัวเอง แล้วก็เปิดรถสตาร์ทเครื่องยนต์เปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำหลับตาพักสักครู่ ภิภักดิ์ที่เลิกงานออกมาไม่เห็นคนที่แอบมองเมื่อตอนบ่ายจึงเดินไปที่รถ แต่มีเสียงเรียกเข้าของหยาดฟ้าเข้ามาก่อนเขาจึงกดรับสาย “ครับหวาน...ผมกำลังออกไป” ภิภักดิ์รับสายด้วยเสียงนุ่มทำให้ปลายสายหลงในเสียงเขาทุกครั้งที่รับ “ดีใจจัง วันนี้ภิเลิกเร็ว พาหวานไปดินเนอร์หน่อยได้ไหมคะ” หวานหรือหยาดฟ้า เป็นไฮโซสาวที่ไม่มีงานทำเป็นชิ้นเป็นอัน วัน ๆ ก็เอาแต่ชอปปิ้งแล้วก็ตามผู้ชาย และวันนี้ก็เช่นกัน เธอตามมาเซอร์ไพรส์เขาถึงโชว์รูมเพื่อจะอ้อนให้เขาพาไปส่งแล้วก็ทำอะไร ๆ ในแบบคู่รักหนุ่มสาวเขาทำกัน “ครับวันนี้วันศุกร์” เขาตอบพร้อมกับกดรีโมทย์รถไปขึ้นนั่งแล้วมองตรงไป พบว่ามีอีกคนที่นั่งอยู่ในรถยังไม่ออกไปจากโชว์รูมทำให้เขากำลังจะเปิดรถลงไปดูเสียหน่อยแต่กลับมีมือหนึ่งมาเปิดประตูด้านข้างแล้วขึ้นมานั่งพร้อมกับโน้มต้นคอเขาไปจูบอย่างดูดดื่ม จนชายหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัว วารุณีที่หลับตาพักชั่วครู่จนรู้สึกมีแรงแล้ว ก็ลืมตาแต่ภาพเบื้องหน้าฝั่งตรงข้ามทำให้รู้สึกเหมือนคนเอามีดมา กรีดหัวใจอ่อน ๆ ของเธอ เพราะสิ่งที่เห็นคือเขาที่กำลังจูบกับคู่รักต่อหน้าต่อตาเธอ ดวงตาวารุณีคลอเอ่อด้วยม่านน้ำใสไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับภาพตรงหน้าดี มันเจ็บปวด มันชา หัวใจรู้สึกเต้นเร็วคล้ายคนกำลังโกรธ แต่ดวงตากลับรู้สึกเศร้าคล้ายน้ำตาจะไหล ‘นี่ฉันเป็นอะไร’ น้ำตอบตัวเองไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นเขากับคนรักแสดงความรักต่อกัน เธอเหมือนคล้ายคนอกหัก แต่จะอกหักได้อย่างไรในเมื่อเธอกับเขาไม่ได้รักกันเสียหน่อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม