11
ตุ๊กตา(บรา)บี้
ห้องทำงานประธานกรรมการบริหารห้างสรรพสินค้า ZER MALL
นิ้วเรียวสวยที่ประดับประดาไปด้วยเพชรหลายกะรัตเลื่อนจอไอแพดดูรายการสินค้าที่ลูกค้าคนพิเศษหยิบใส่ตะกร้า
ชั้นในสตรี?
จีสตริง?
บราลูกไม้?
ประกอบไปด้วยสีดำและสีแดงทั้งหมดอย่างละสิบตัว ลูกศร ศรศิรินทร์ แม่ของนายแพทย์หนุ่มที่เป็นเจ้าของตะกร้าสินค้าเหล่านี้ยกยิ้มที่มุมปากแล้วเหลือบมองพนักงานที่ยืนอยู่
“แน่ใจนะว่าของพวกนี้เป็นของหมอปรินซ์”
“ค่ะ คุณปรินซ์มาที่ห้องรับรองพิเศษกับผู้หญิงคนนึง แล้วรูดบัตรเครดิตตัวเองจ่ายทั้งหมด และทั้งหมดเป็นของแบรนด์เนม เสื้อผ้าผู้หญิง กระเป๋า รองเท้า ครีมทาผิว รวมถึงของใช้ส่วนตัวผู้หญิงด้วยค่ะ”
เธอลอบหัวเราะเหอะออกมา ลูกชายมีแฟนงั้นสินะ แถมรสนิยมผู้หญิงก็ถอดแบบจากพ่อมาอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย ถึงได้เลือกลูกไม้และจีสตริงให้แฟนใส่แบบนั้น
รอยยิ้มคนเป็นแม่เผยกว้างขึ้น รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างประหลาด
“ฉันจะลงไปดูหน้าว่าที่ลูกสะใภ้หน่อย”
»——————•♛•——————«
“อยากได้อะไรอีกไหม?”
ใบชาส่ายหน้า โดยที่มือยังควงแขนเขาอยู่ ตอนนี้เธอไม่อยากได้อะไร อยากออกไปจากที่นี่มากกว่า เพราะไม่ชอบคนแปลกหน้าที่ยืนรายล้อมอยู่และเอาแต่ยิ้มให้เธอ สินค้าที่สั่งซื้อถูกพนักงานยกไปไว้ที่รถแล้ว และบางส่วนจะถูกจัดส่งตามไปที่บ้านของหมอปรินซ์
“งั้นกลับ”
ร่างสูงลุกขึ้นยืนคนควงแขนอยู่จึงต้องลุกขึ้นตาม แต่ก่อนที่จะก้าวเท้าเดินออกไปประตูห้องรับรองพิเศษก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับใครบางคนที่สวมรองเท้าส้นสูงสีเรดไวน์ก้าวเข้ามาในห้อง
“เดี๋ยว”
ใบชาจับแขนคนที่ไว้ใจที่สุดไว้แน่น มองไปยังคนเดินเข้ามาอย่างหวาดกลัว เพราะสายตาของอีกฝ่ายกดมองตั้งแต่ปลายเท้าของเธอขึ้นมาถึงใบหน้า
หมอปรินซ์เห็นแบบนั้นเขาขยับไปยืนบังใบชา ก่อนที่เธอจะเดินไปหลบด้านหลัง
“ไม่คิดจะแนะนำแฟนให้แม่รู้จักหน่อยเหรอ?”
“คนไข้ผมครับ”
แม่ของเขาชะเง้อไปด้านหลัง มองใบชาที่โผล่มาแค่ตา แต่เมื่อเธอสบตากับคุณหญิงตรงหน้า ก็รีบหลบหน้าเข้าไปด้านหลังไม่ยอมออกมาอีก
“คนไข้ของลูก? คนไข้แบบไหนที่หมอพามาซื้อของแบบนี้”
“คนไข้ที่ไม่ปกติ ไว้ว่างๆผมจะเล่าให้ฟัง ขอตัวครับ”
ว่าจบเขาก็จับมือใบชามากุมไว้แล้วดึงมือออกไปโดยที่ใช้ความสูงของตัวเองเดินบังเทียบเคียงเธอออกไปจากห้อง คนเป็นแม่มองแล้วอมยิ้ม ถึงลูกสะใภ้จะดูแปลกๆไปหน่อย แต่ไม่คิดจะไปขัดขวางติติงอะไรลูกชาย ดีแล้วล่ะที่เขาไม่ด้านชามากไปกว่านี้ เธออยากให้เขามีความรักไม่ใช่ทุ่มเททั้งชีวิตกับคนตายและห้องแล็บพิลึกนั่น
“เมื่อกี้ใครเหรอคะ” พอขึ้นรถใบชาก็เอ่ยถามทันที
“แม่ฉัน”
“แม่...”
“...”
“ทำไมแม่คุณหมอสวยจัง”
เขาไม่ตอบ ขับรถลัมโบร์กินีออกจากที่จอดพิเศษและปลายทางก็คือบ้านของเขา หมอปรินซ์ใช้เวลาระหว่างขับรถคิดทบทวนอาการของใบชาในวันนี้ เธอกลัวทุกคนที่ไม่ใช่เขา ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ถ้าผลการทดลองมันเป็นไปตามข้อสามที่เธอจะมีชีวิตอีกยาวนานจนหมดอายุขัย ใบชาคงออกไปใช้ชีวิตและมีสังคมใหม่ยากแน่ๆ
ถ้าเธอเรียนรู้ได้ดีเขาจะค่อยๆให้เธอปรับตัวอยู่กับคนอื่นบ้าง เพราะไม่ว่ายังไงเขาไม่ให้เธออยู่กับเขาตลอดไปแน่นอน หรือไม่สักวันหนึ่งความทรงจำเธอกลับมาจับตัวฆาตกรได้ เขาอาจจะส่งเธอกลับบ้านไปใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป
แต่เธอจะจำได้อีกรึเปล่า....
“ทำไมเธอถึงกลัวคนอื่น?” เขาเอ่ยถามหลังจากที่เงียบไปนาน ใบชาจึงทำหน้าครุ่นคิด
“ไม่รู้ค่ะ มันกลัวเอง มันอยู่ในนี้...” นิ้วชี้เธอจิ้มไปที่อกซ้ายจนเขากดตามองตามแล้วหันไปขับรถต่อ
“ทำไม? ตอนเห็นคนอื่นใจสั่นรึไง” ที่ถามเผื่อจะวินิจฉัยอาการป่วยอื่นๆร่วม และเธออาจจะต้องตรวจคลื่นหัวใจใหม่
ทว่า...
“เห็นคนอื่นไม่ใจสั่นค่ะ แต่เห็นคุณหมอใบชาใจสั่น”
เขาถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ แต่ก็พลันนึกได้ว่าตัวเองไม่ควรเอาคำพูดของเธอมาคิด เลยรีบพูดขึ้นมา
“ฉันหมายถึงคนอื่น”
“ตอนเห็นคนอื่นมันเหมือนใจสั่งให้กลัวมากกว่าสมองค่ะ...”
เขาหันไปมองเธออีกรอบ ไม่คิดว่าเธอจะพูดประโยคที่ซับซ้อนออกมาได้ และสิ่งที่เห็นคือใบชาเหม่อลอย สายตาเธอจ้องไปที่ถนนด้านหน้านิ่งๆ
“มันแปลกจังค่ะ กลัวไปเอง ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้เลย ใบชาผิดปกติใช่ไหมคะ” ถึงเวลาที่เขาจะบอกเธอแล้วสินะ เพราะตัวเธอเองก็เห็นความผิดปกติของตัวเองแล้ว
“คงเพราะเธอถูกฆ่าตาย”
“ฆ่า?” ใบชาถามทวนทันที
“เธอถูกคนอื่นทำให้ตาย มันคงเป็นผลพวงจากเรื่องนั้น”
สองมือสวยจับกัน จากนั้นใบชาก้มมองมือตัวเองจนสังเกตเห็นเล็บที่ผิดปกติ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนางด้านขวาโดนตัดสั้นกุด ส่วนมือซ้ายเล็บเธอยาวสวย เธอจึงยกมือสองมือมาเทียบกันแบตรงหน้าสูงๆ
“ทำไมไม่เหมือนกันคะ” หมอปรินซ์ปรายตามองด้วยหางตา
“มีคนทำลายหลักฐาน ตอนนี้พอนึกอะไรออกไหม?”
ใบชาส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ... ไม่เลย แค่รู้สึกว่าตัวเองกลัวคนอื่น”
“อืม...”
เขาแค่ตอบรับในลำคอจากนั้นขับรถต่อจนถึงบ้าน พอมาถึงก็รีบพาใบชาเข้าไปข้างในก่อน ส่วนตัวเองยกถุงช็อปปิงลงจากรถตามไปทีหลัง คุณหมอหนุ่มวางทุกถุงบนโต๊ะหน้าโซฟาที่เธอนั่งรออยู่ ก่อนจะออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เมื่อเช้าดูวิดีโอแล้ว ใส่บราเป็นรึยัง-_-^”
บางทีก็เหมือนตัวเองมีลูกกำลังเป็นสาว
“น่าจะใส่ได้ค่ะ”
ใบชาจับปากถุงชุดชั้นในเปิดดู
“ให้ใบชาใส่เลยไหมคะ”
“อืม... เชิญ”
สักทีเถอะ เขาไม่อยากเห็นนมเด้งๆของเธอจนศีลบางลงอีกแล้ว หมอปรินซ์ปล่อยให้ใบชาจัดการตัวเองกับชุดที่ซื้อมาต่อไป เธอต้องเรียนรู้และฝึกบ้าง ส่วนเขาเข้าไปให้อาหารหนูในห้องแล็บแล้วบันทึกผลการทดลองวันนี้ หลักๆก็เรื่องความกลัวของเธอที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต นายแพทย์หนุ่มวางแผนเนิ่นๆว่าถ้าไม่หาย เขาจะต้องรักษาและอาจจะต้องปรึกษาจิตแพทย์เพิ่มเติม
ส่วนเรื่องเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน... หนูที่ทดลองอยู่มาได้สามเดือนแล้วและตอนนี้ก็แข็งแรงดี กับคนก็ขอให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
คนโลกส่วนตัวสูงจัดอย่างนายแพทย์ปรัชวิชญ์ชอบเวลานี้ที่สุด เมื่อยัยคนวุ่นวายไม่มารบกวน เขาก็หมกตัวในห้องแล็บคว้าหนังสือมาอ่านหาข้อมูลอย่างสบายใจ
จนกระทั่ง...
“คุณหมอคะๆ ใบชาใส่ได้แล้ว”
เสียงนำมาก่อน หมอปรินซ์เลยทำหูทวนลม แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วหงุดหงิดอีกหนเมื่อได้ยินเสียงเท้าวิ่งตึกๆมาใกล้ประตูห้องแล็บขึ้นเรื่อยๆ
แล้วใบชาก็ดึงประตูเปิด ‘ครืดดดด’ วิ่งเข้ามาในห้องหยุดข้างๆเก้าอี้ของเขา
“ใบชาใส่ได้แล้วค่ะ!” เขาหันขวับ
“นี่ธะ...”
‘ปึง’
หนังสือในมือถึงกับร่วง เมื่อเขาหันมาเอ็ดแต่เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเต็มๆตา ใบชาใส่ได้แล้ว ใช่ เธอใส่ได้ ตอนนี้ใส่บราลูกไม้สีดำ กับจีสตริงลูกไม้สีดำเข้าชุดกัน แววตานิ่งเรียบของคุณหมอหนุ่มแปรเปลี่ยนโดยไม่รู้ตัว เขาเบิกตาขึ้นเล็กน้อย รู้ตัวอีกทีสายตาก็กวาดมองทั่วเรือนร่างของเธอแล้ว
เวลาที่ทรวดทรงเธออยู่ในชุดแบบนี้ มันต่างจากที่เห็น ออกไป...
เมื่อคนตัวเล็กเห็นคุณหมอเงียบไปเธอก็หันหลังถามสิ่งที่สงสัยต่อ ใบชาเอี้ยวตัวแอ่นบั้นท้ายขึ้นและดึงสายจีสตริงขึ้นมาเล็กน้อย
คุณหมอปรินซ์ชะงักกว่าเดิม นั่งนิ่งราวกับหุ่นยนต์ตัวโต ลำคอแห้งผากราวกับขาดน้ำมาทั้งวัน และรู้สึกได้ถึงความร้อนของตัวเองที่ค่อยๆก่อขึ้น
“สายอันนี้มันแปลกๆ ใบชาใส่ถูกไหมคะ”
ก้นของเธอ... หม่ำสายจีสตริงเส้นเล็กๆนั้นไปแล้ว
“คุณหมอดูให้หน่อยค่ะ”
เธอขยับมาใกล้ๆ และอะไรบางอย่างที่เริ่มผิดปกติขึ้นทุกทีๆก็ทำให้หมอปรินซ์รีบดึงสติกลับมา
“หยุด และออกไปใส่เสื้อผ้าซะ” เธอหันกลับมาทั้งตัวทันที
“ทำไมคะ?” นายแพทย์หนุ่มบังคับตาตัวเองไม่ให้มองต่ำ ตอนนี้เขาตาแข็งราวกับโดปกาแฟมาสองลิตร
“แบบนี้ไม่เหมาะ ไปใส่เสื้อผ้าซะ”
“แล้วใส่แบบนี้ถูกไหมคะ”
“ถูก ใส่ต่อไป”
เขาตอบอะไรออกไป?
ใบชายิ้มหวานให้หนึ่งทีแล้วยอมเดินออกไปแต่โดยดี หมอปรินซ์ถอนหายใจออกมา คิดว่าตัวเองโล่งอกโล่งช่วงล่างไปแล้ว แต่หยิบหนังสือเล่มเดิมมาอ่านกลับไม่เข้าหัวสักตัว
ภาพใบชาใส่จีสตริงโดยไม่ได้จินตนาการเอง ฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัว และเขาก็ตัดสินได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เห็นดีกว่าที่คิด