“ก็...หนูแค่ตกใจนี่คะ แล้วก็...คิดว่าอาจมีคนต้องการความช่วยเหลือ หนูก็เลย...”
“เป็นคนดีจังนะ”
“หนูก็ไม่ได้ดีอะไรหรอกค่ะ แต่เพราะอยู่คนเดียวมานาน หนูรู้ดีกว่าใครว่าเวลาที่คนเราอับจนและต้องการความช่วยเหลือมันเป็นยังไง แค่คำว่าเหนื่อยมั้ย มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า...แค่นี้มันก็พอให้เรามีกำลังใจลุกขึ้นสู้แล้ว เพียงแต่...ไม่ค่อยมีใครพูดแบบนั้นกับหนูเท่านั้นเอง”
แววตาแสนเศร้าของเธอเรียกความสนใจจากเขาได้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะมารดาของเขาก็เคยพูดแบบนี้ เพราะท่านเองก็...เคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน และนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจละเว้นโทษตายให้เธอ แต่เขาไม่ได้ใจดีพอที่จะปล่อยเธอไปหรือเชื่อทุกอย่างที่เธอพูดมา
“เธอทำงานอะไรนะ”
“หนูเป็นเด็กเสิร์ฟพาร์ตไทม์ค่ะ แต่ก็ทำมาเกือบเดือนแล้ว หนูต้องหาเงินมาจ่ายค่าเทอมเดือนหน้า คุณคะ...หนูขอร้องนะคะ หนูจะไม่บอกตำรวจหรือใครทั้งนั้น แค่มีชีวิตให้รอดไปวันๆ หนูก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว ถ้าคุณปล่อยหนูไป หนูสัญญาว่าคุณจะไม่ได้เจอหน้าหนูอีกตลอดชีวิตเลย นะคะคุณ ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ”
เธอบอกพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นจากดวงตากลมโตนั้น มันดูอ่อนล้าและอ่อนแรง ทั้งยังมีความสิ้นหวังที่แสดงออกอย่างชัดเจน และหลายอย่างในดวงตาคู่นี้บอกเขาว่าเธอไม่ได้โกหก
มาเฟียหนุ่มยกเหล้าในแก้วขึ้นมาดื่มพรวดเดียวจนหมด ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้ามาหาเธอใกล้ๆ มือหนายื่นมาใกล้กับลำคอระหงนั้นจนเธอรู้สึกกลัวคิดว่าเขาคงจะบีบคอเธอแน่ๆ แต่แล้วมือนั้นกลับเปลี่ยนไปจับที่ข้อมือเล็กๆ แล้วแก้เชือกที่ผูกข้อมือนั้นออกแทน
“อยากได้เงินไปจ่ายค่าเทอมใช่มั้ย”
“คะ?” เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจเพราะไม่แน่ใจว่าเขาถามทำไม ยิ่งเมื่อเขาเลื่อนมือมาแก้เชือกที่ข้อเท้าจนทำให้เธอเป็นอิสระ หญิงสาวก็เริ่มไม่แน่ใจว่าเขาคิดจะทำอะไรกับเธอกันแน่
“เธอได้ค่าจ้างที่ร้านนั่นวันละเท่าไหร่ล่ะ”
“ก็...ชั่วโมงละห้าสิบบาทค่ะ”
“แล้วทำวันละกี่ชั่วโมง”
“ประมาณ...หกหรือเจ็ดชั่วโมงค่ะ”
“ก็ตกวันละสามร้อยห้าสิบสินะ หนึ่งเดือนต่อให้ทำทุกวันก็ตกแค่เดือนละหมื่น” เขาคำนวณตัวเลขอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เธอจึงได้รีบลุกตามเพราะคิดว่าเขาอาจจะยอมปล่อยเธอแล้ว
“หนูได้ไม่ถึงหมื่นหรอกค่ะ เพราะไม่ได้ทำทุกวัน บางวันมีกิจกรรมที่มหา’ลัยก็เลยไม่ได้ไปทำ”
“งั้นก็มาทำงานกับฉัน”
“หา? คุณ...ว่าอะไรนะคะ”
“มาทำงานเป็นสาวใช้ประจำตัวของฉัน ฉันจะให้เธอ...เดือนละ...สามหมื่น”
“สะ...สาม...สามหมื่น!” หญิงสาวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบถามออกไปอย่างตื่นเต้น
“คุณ...จะให้หนูทำอะไรบ้างคะ ที่ว่าเป็นสาวใช้ของคุณ”
“ไม่ใช่แค่สาวใช้ แต่เป็นสาวใช้ประจำตัว หน้าที่ของเธอก็ง่ายๆ แค่ทำตามทุกอย่างที่ฉันสั่ง”
“ทุกอย่าง...เอ่อ...คง...ไม่ได้ให้หนูไปฆ่าใครด้วยหรอกนะคะ”
เธอลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เงินที่เขาจะให้มันก็มากอยู่หรอก แต่ถ้างานมันไม่สุจริต เธอก็ไม่อยากยุ่งด้วย
“อย่างเธอน่ะเหรอจะกล้าฆ่าคน”
“ไม่กล้าหรอกค่ะ” เธอส่ายหน้าปฏิเสธ
“สบายใจเถอะ ฉันไม่สั่งให้เธอทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรอก หน้าที่หลักๆ ของเธอก็คือทำความสะอาด ทำอาหาร ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของฉันก็แค่นั้น ส่วนหน้าที่อื่นไว้ฉันคิดได้แล้วจะบอกอีกที”
หญิงสาวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นคนอันตราย แต่เงินเดือนสามหมื่นบาทมันก็ช่างล่อใจเสียเหลือเกิน อีกอย่างถ้าทำกับเขาเธอจะได้ดูแลเขาแค่คนเดียว แต่ถ้ายังทำงานพาร์ตไทม์เธอต้องดูแลลูกค้าทั้งร้าน...
“สรุปจะเอายังไง จะทำหรือไม่ทำ”
“เอ่อ...แล้ว...แล้วหนูต้องทำงานวันละกี่ชั่วโมงคะ แล้ว...หนูจะได้ไปเรียนมั้ย”
“อยากไปก็ไปสิ เรื่องเวลาทำงานเธอก็บริหารเอาเอง จะทำความสะอาดตอนไหนก็ได้เอาที่เธอสะดวกแต่ต้องทำทุกวัน ส่วนเรื่องอาหารอาจไม่ต้องทำทุกมื้อ เพราะบางวันฉันก็ไม่ได้กินข้าวที่ห้อง แต่เรื่องเสื้อผ้าเธอต้องเตรียมให้ฉันทุกครั้งที่ฉันจะออกไปข้างนอก รวมถึงการซักรีดด้วย อ้อ...มีอีกอย่างนะ เธอต้องพักที่นี่ ฉันจะหาห้องให้อยู่เอง”
“อยู่...อยู่ที่นี่...กับคุณน่ะเหรอคะ”
“ใช่ ทำไม? เธอมีปัญหางั้นเหรอ”
“เอ่อ...คือ...ยังไง...ยังไงหนูก็เป็นผู้หญิงนะคะ ส่วนคุณก็เป็นผู้ชาย...มัน...มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่เหรอคะ”
“หรือเธอคิดจะปล้ำฉันล่ะ”
“จะบ้าเหรอคะ! หนูหมายถึงคุณนั่นแหละที่จะ...ปล้ำหนู”
“เหอะ! หนูน้อย...หัดดูสารรูปของตัวเองก่อนดีมั้ย เธอเอาสมองส่วนไหนคิดว่าฉันจะปล้ำเธอ ถ้าฉันอยากมีเซ็กส์ขึ้นมาก็มีผู้หญิงสวยๆ พร้อมขึ้นเตียงกับฉันทั้งนั้น ฉันคงไม่หน้ามืดคว้าเด็กกะโปโลอย่างเธอหรอก สบายใจได้” เขามองเธออย่างดูแคลน แต่เธอกลับใจชื้นขึ้นมา
“ก็จริงค่ะ ท่าทางคุณคงจะรวยมาก คงไม่สนใจหนูหรอก แต่ว่า...”
“อะไรอีก ถ้ามันยุ่งยากนักก็ไม่ต้องทำ แต่ถ้าเธอไม่ทำ...ก็ทิ้งชีวิตเอาไว้ เพราะฉันจะไม่ปล่อยให้เธอไปจากที่นี่ง่ายๆ แน่นอน”
“โธ่ พูดแบบนี้ก็แปลว่าหนูไม่มีทางเลือกอะไรเลยน่ะสิคะ”
“หรือเธออยากทำงานโดยไม่เอาค่าจ้างสักบาทล่ะ นี่ฉันเมตตาเธอมากแล้วนะถึงยังให้ค่าจ้างน่ะ ยังจะมาเรื่องมากอะไรอีก”
“เอาสิคะ เดือนละตั้งสามหมื่นใครจะไม่เอาล่ะ”