ตอนที่ 10 เพื่อนที่รู้ทัน

1108 คำ
สารินรับกระเป๋าเธอไปเหมือนเดิม ก่อนเดินเคียงกันโดยมีระยะห่างที่ปลอดภัยและอันตรายในเวลาเดียว เขากวาดตามองโดยรอบ ป้อม รปภ. กล้องตัวที่ห้า มุมบอดที่ควรแจ้งช่างให้ปรับ สมองส่วนงานทำงานเป็นระบบ ขณะที่สมองส่วนหัวใจพยายามทำความเข้าใจกับเสียงเต้นที่ดังเกินเหตุ ในลิฟต์ส่วนตัว เสียงเครื่องปรับอากาศเบาจนได้ยินเสียงหายใจทั้งสอง พรปวีณ์เงยหน้ามองตัวเลขดิจิทัลไล่ขึ้นทีละชั้น “พี่แสนคะ” “ครับ” “ขอบคุณที่ทนฟังวีณ์พูดมาตลอดทางนะคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่ซื่อตรง “นอกจากพี่จี๊ดผู้จัดการแล้ว วีณ์ก็ไม่ค่อยสนิทกับใครในวงการหรอกค่ะ เพราะเคยสนิทด้วย...แต่สุดท้ายก็...” “พี่ยินดีฟังเสมอ” เขาตอบ แววตาอ่อนโยนมากกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็น “ถึงพี่จะคุยไม่เก่ง แต่พี่จำที่วีณ์พูดได้หมด...ทุกคำ” ได้ยินอย่างนั้นหัวใจของเธอก็พองโตขึ้นมาอย่างง่ายดาย “งั้นวีณ์จะพูดเยอะๆ พี่ต้องจำให้ได้หมดทุกคำอย่างที่บอกด้วยนะคะ” “ก็อย่าให้มากเกินไป เดี๋ยวพี่ปวดหัว” เขาแกล้งบ่น และนั่นก็ทำให้เธอหัวเราะออกมาเสียงดังได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ออกจากคอนโด “อ้อ พี่ลืมบอกวีณ์ไป” “อะไรเหรอคะ” “ตอนนี้เฮียเค้ามีคนมาอยู่ด้วยนะ” “หืม? พี่วิชญ์มีสาวเหรอคะ ปกติไม่เคยพาใครมาอยู่ด้วยนี่นา หรือว่าคนนี้...จะเป็นตัวจริง” “ครับ ตัวจริง แต่ไม่ใช่แฟนหรอก” “อ้าว สรุปว่ายังไงกันแน่คะ วีณ์งงไปหมดแล้วนะ” “จริงๆ เค้าเป็นเชลยของเฮียน่ะ” “หือ?” “เอาเป็นว่ารอเจอเด็กคนนั้นแล้ววีณ์ค่อยถามเฮียเองละกันว่าทำไมถึงพาเธอมาอยู่ด้วย” “เด็ก? กี่ขวบคะ” “ยี่สิบเอ็ดครับ” “หูย...แบบนี้ไม่เรียกเด็กแล้วนะ วัยกำลังน่าฟัดเลย ว่าแต่...สวยรึเปล่าคะ” “ก็...” ติ้ง! ประตูลิฟต์เปิดสู่โถงเพนต์เฮาส์ และเมื่อพวกเขาก้าวออกมาก็เจอกับบอดี้การ์ดที่ยืนรออยู่หน้าห้อง พวกเขาโค้งคำนับทั้งสารินและพรปวีณ์ ก่อนที่สารินจะกดรหัสผ่านแล้วเปิดประตูห้องเข้าไป “ถ้าอยากรู้อะไรก็ให้ถามเฮียเองละกันนะ” เขาบอกเสียงเบาก่อนจะเดินนำเธอไป ทิ้งคำถามมากมายให้ดาราสาวต้องขบคิด พงศ์วิชญ์นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก ดวงตาคมหันมาสบกับร่างระหงของน้องสาวที่เดินเข้ามา “มาแล้วเหรอเรา” “ค่ะพี่วิชญ์ คิดถึงจัง” เธอยิ้มกว้าง เดินเร็วไปกอดพี่ชายครู่หนึ่ง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของทั้งสองพี่น้องเจือกันขณะที่สารินมองภาพนั้นด้วยสายตาอ่อนโยน “แสน” พงศ์วิชญ์เอ่ยโดยไม่ละสายตาจากน้องสาว “จากนี้ไปฉันให้สิทธิ์นายดูแลวีณ์เต็มที่ ถ้าใครกล้าทำให้เธอหวาดกลัวก็จัดการได้เลย” “ครับเฮีย” เขาตอบหนักแน่น พรปวีณ์หันมามองบอดี้การ์ดส่วนตัวก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “งั้นวันนี้เริ่มจากพี่แสนสอนคิวบู๊ให้วีณ์ก่อนเลยได้มั้ยคะ สัญญาแล้วนะว่าจะสอนให้ครบ” สารินยกคิ้วน้อยๆ ก่อนตอบ “เอ่อ...ครับ แต่ห้ามงอแงเหมือนครั้งที่แล้วนะ” “ไม่งอแงค่ะ!” เธอว่าเสียงดังเกินจำเป็นนิดหนึ่ง ก่อนหัวเราะกับตัวเอง พงศ์วิชญ์มองภาพตรงหน้า น้องสาวที่กลับมามีเสียงหัวเราะ กับมือขวาที่ทำหน้านิ่ง แต่ดวงตาอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขาละสายตาไปยังโต๊ะอาหารที่ยังมีโน้ตลายมือเรียบร้อยของผู้มาใหม่อีกคน ความคิดวิ่งเรียงเป็นเส้นยาวที่ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาจะหยุดตรงไหน “งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดให้พร้อมขยับหน่อยไปเสร็จแล้วมาคุยกันเรื่องมาตรการคุ้มกันทั้งหมด” เขาสั่งน้องสาว “รับทราบค่ะ พี่แสนช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปบนห้องให้วีณ์ด้วยนะคะ มันหนักน่ะวีณ์ยกเองไม่ไหว” พรปวีณ์อ้อนพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนหวาน “ครับ” เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะยกกระเป๋าขึ้นไปให้เธอที่ห้องชั้นบนแล้วเดินกลับลงมาด้านล่าง หญิงสาวหมุนตัวเดินจากไปอย่างเบิกบาน ทิ้งให้สารินยืนอยู่กลางโถงกับพงศ์วิชญ์ ครั้นเสียงประตูห้องของเธอปิดลง เจ้านายหันมามองมือขวาเพียงชั่ววูบสายตาที่เหมือนอ่านใจคนบางคนออก “รู้ใช่มั้ยว่าพ่อฉันหวงลูกสาวคนนี้แค่ไหน” คำถามนั้นทำให้สารินนิ่งไปชั่วอึดใจ “ผมทราบดีครับ” “แต่พ่อไม่เคยมองใครที่ฐานะ ถ้านายจริงใจ นี่อาจเป็นโอกาสทำคะแนน” “เฮียครับ...ผมไม่ได้...” “ฉันรู้จักนายมาตั้งแต่เด็ก อย่ามาปฏิเสธให้ยาก” “แต่...ผมไม่กล้าหรอกครับ” “หึ งั้นก็ตามใจนะ แต่ถ้ายัยวีณ์สนใจคนอื่นไปซะก่อน ก็อย่ามางอแงทีหลังละกัน” “เฮียพูดเหมือนผมเป็นเด็ก” “ก็เพราะเห็นว่าไม่เด็กนี่แหละถึงต้องพูด ในโลกใบนี้...ถ้าจะมีใครสักคนที่ฉันอยากยกน้องสาวให้ ก็เห็นจะมีแต่นายเท่านั้นแหละ” “เฮีย...” “เราเป็นเพื่อนกันนะแสน ฉันรู้จักนายดีพอๆ กับที่รู้จักยัยวีณ์นั่นแหละ เลิกดูถูกตัวเองแล้วทำในสิ่งที่หัวใจของนายต้องการบ้างเถอะ ยัยวีณ์ก็สามสิบกว่าแล้ว ฉันไม่อยากเห็นน้องต้องขึ้นคาน” พงศ์วิชญ์บอกยิ้มๆ “แต่...เธอเห็นผมเป็นแค่พี่ชาย อีกอย่างเธอมีคนรักอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ คือผม...เห็นจากข่าว” “จะสนใจข่าวทำไม ในเมื่อเจ้าตัวเค้าอยู่ตรงนี้แล้ว ถ้ามีอะไรคาใจก็ถามน้องไปเลยสิ คนอย่างนายไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” “คือผม...” ยังไม่ทันที่เขาจะตอบออกไป เสียงเปิดประตูห้องนอนชั้นบนก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างระหงของพรปวีณ์ที่มาในชุดลำลองสบายตัว “วีณ์พร้อมแล้วค่ะ มาคุยกันได้เลย” “อืม” พงศ์วิชญ์พยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดในสิ่งที่วางแผนไว้ระหว่างที่รอให้มือขวาไปรับน้องสาวมาที่นี่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม