ตอนที่ 11 น้องสาวคนใหม่

1085 คำ
อริสราก้าวออกมาจากลิฟต์เงียบๆ หลังจากเรียนคาบบ่ายเสร็จในเวลาเกือบบ่ายสาม เธอยังจำตอนที่เพื่อนๆ เห็นรถยุโรปคันหรูที่จอดส่งเธอหน้าตึกเรียนเมื่อเช้านี้ได้ดี สายตาพวกนั้นเต็มไปด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่มีใครสนิทพอจะกล้าถาม ใช่...เธอไม่มีเพื่อนที่สนิทเลยแม้จะเรียนที่นี่มาเกือบสามปีแล้ว นั่นเพราะเธอไม่ว่างพอจะไปนั่งกินขนมหรืออ่านหนังสือในห้องสมุดร่วมกับใคร ทุกวันที่เลิกเรียนเธอก็ต้องรีบไปทำงานพิเศษเพราะต้องหาเงินด้วยตัวเองตลอด นอกจากว่ามีทำรายงานกลุ่มเธอถึงจะได้คุยจริงจังกับพวกเขาบ้างแต่ก็ไม่มีใครที่อยากสนิทกับเด็กยากจนอย่างเธอ หญิงสาวปลดสายสะพายกระเป๋าผ้าใบเก่าออกจากไหล่ หัวใจยังเต้นแรงจากการเร่งฝีเท้ากลับมาให้ทันเวลาทำงาน แม้เขาจะบอกให้เธอบริหารเวลาเอาเองแต่เพราะห้องของเขาใหญ่โตมาก ถ้าเธอมาช้าก็แปลว่ากว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยอาจจะค่ำมืดไปเสียก่อน ตอนนี้เธอคิดเพียงว่าจะรีบเก็บกระเป๋า เปลี่ยนชุด แล้วทำงานบ้านก่อนที่พงศ์วิชญ์จะกลับจากข้างนอกเพราะคิดว่าเขาคงไม่อยู่ห้องทั้งวัน แต่เสียงหัวเราะใสๆ ที่ดังมาจากโถงรับแขกทำให้เธอชะงัก อริสราเงี่ยหูฟัง เสียงนั้นไพเราะและคุ้นหูอย่างประหลาด เธอวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะข้างประตู สูดลมหายใจลึก ก่อนจะเดินไปตามเสียงนั้นอย่างระมัดระวัง เมื่อพ้นมุมผนังห้อง เธอก็แทบหยุดหายใจ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือหญิงสาวรูปร่างโปร่งในชุดลำลองง่ายๆ แต่สวยสะดุดตา ผิวขาวอมชมพู ใบหน้าหวานละมุนที่เธอจำได้ทันที เพราะนั่นคือพรปวีณ์นักแสดงชื่อดังที่อริสราติดตามผลงานมานานตั้งแต่ก่อนที่บิดามารดาจะเสีย เธอเป็นดาราขวัญใจของทั้งครอบครัว และเธอก็กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา รอยยิ้มของดาราสาวเจิดจรัสกว่าแสงแดดข้างนอกเสียอีก แต่คนที่ทำให้เธอหัวเราะได้แบบนั้นกลับเป็นสารินไม่ใช่เจ้าของห้องนี้ แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้กันนะ? หรือว่าเธอจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงของเฮีย? ความคิดอกุศลแล่นเข้ามาในสมองอย่างไม่อาจห้ามได้ แม้จะไม่อยากเชื่อว่าดาราในดวงใจจะยอมเป็นผู้หญิงของมาเฟียทั้งที่เธอมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย อริสราแทบจะถอยหลัง แต่ก่อนจะได้ก้าวกลับ เสียงทุ้มคุ้นหูของเจ้าของเพนต์เฮาส์ก็ดังขึ้น “มาแล้วเหรอเรา” พงศ์วิชญ์เดินออกมาจากห้องทำงาน สวมเชิ้ตสีเข้มพับแขนขึ้นอย่างลวกๆ และจากทิศทางที่เดินมาเขาก็เห็นเธออย่างชัดเจน “มานี่สิ” หัวใจของอริสรากระตุกวูบ เธอก้าวเข้ามาอย่างประหม่า แต่ก็ยกมือไหว้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาโดยไม่ต้องมีใครบอก “สวัสดีค่ะ คุณวีณ์” พรปวีณ์ลุกขึ้นทันที ดวงตากลมโตทอประกายสดใสเมื่อเห็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว “สวัสดีจ้ะ ชื่ออะไรเหรอคะ” “เอ่อ…อริสราค่ะ ชื่อเล่นว่าอาย” เธอรีบตอบ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ นี่เพราะไม่คิดว่าจะได้คุยกับดาราที่แอบปลื้มโดยไม่ต้องต่อคิวในงานเซ็นลายเซ็นเหมือนคนอื่นๆ พงศ์วิชญ์ยืนพิงโซฟา สายตานิ่งแต่แฝงความอบอุ่นบางๆ “อาย นี่คุณวีณ์ น้องสาวฉัน เธอจะมาพักกับเราที่นี่สักสองอาทิตย์” “นะ…น้องสาว?” อริสราเผลอทวนเสียงสูง ตากลมเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “ทำไมตกใจขนาดนั้นคะน้องอาย” พรปวีณ์มองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ดวงตาใสซื่อนั้นยิ่งมองก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นทุกที “ขอโทษค่ะ หนู…เอ่อ หนูเป็นแฟนคลับคุณวีณ์มานาน ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวจริงก็เลยตื่นเต้นเกินไปหน่อย” “จริงเหรอคะ ดีใจจังได้เจอแฟนคลับด้วย” พรปวีณ์ยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นประกาย “งั้นก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะ แต่ไม่ต้องเรียกคุณหรอกนะ เรียกพี่วีณ์ดีกว่า เรียกคุณแล้วดูแก่ยังไงไม่รู้ค่ะ ให้พี่วิชญ์เค้าแก่ไปคนเดียวดีกว่านะ” “ค่ะ พี่วีณ์” อริสราพยักหน้ารัวๆ ความตื่นเต้นพุ่งขึ้นจนแทบเก็บไม่อยู่ พงศ์วิชญ์กวาดตามองสองสาวที่กำลังยิ้มให้กัน เขารู้ดีว่าน้องสาวของเขาเป็นคนเข้ากับคนง่าย แต่สายตาที่พรปวีณ์มองอริสรา เต็มไปด้วยความสนใจลึกๆ ซึ่งไม่พ้นสายตาคมของเขา พรปวีณ์หันมาทางพี่ชาย “พี่วิชญ์ น้องอายคือสาวใช้ประจำตัวที่พี่พูดถึงเมื่อกี้ใช่มั้ยคะ” “อือ” พงศ์วิชญ์ตอบสั้นๆ “ไม่อยากจะเชื่อเลย” ดาราสาวเอียงคอมองอริสราอีกครั้งอย่างพินิจ “พี่ไม่เคยจ้างใครแบบนี้มาก่อน น้องอายก็น่ารักแถมยังสวยซะขนาดนี้…พี่ไปเจอน้องที่ไหนคะ” พงศ์วิชญ์เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนตอบ “ที่ไหนสักแห่งนี่แหละ” คำตอบเรียบง่ายแต่เป็นการตัดบทชัดเจน อริสราก้มหน้างุด ใจเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกเหมือนตกอยู่ท่ามกลางบทสนทนาที่ไม่ควรมีตัวเองอยู่ตรงกลาง แต่พรปวีณ์กลับหัวเราะเบาๆ “ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ” เธอหันมามองหน้าอริสราอีกครั้ง “พี่ถูกชะตาอายตั้งแต่แรกเห็นเลยนะ อยู่ที่นี่ทำตัวตามสบายนะจ๊ะ มีอะไรไม่สบายใจก็มาคุยกับพี่ได้ พี่ชายพี่เค้าอาจจะดูเหมือนดุหน่อย แต่ที่จริงเค้าใจดีมากนะ” “ขอบคุณค่ะพี่วีณ์” เสียงของอริสราแทบเป็นกระซิบ ความจริงใจในน้ำเสียงของดาราสาวทำให้หัวใจเธออุ่นขึ้นทันตา พงศ์วิชญ์สังเกตทุกอากัปกิริยาของเด็กสาวตรงหน้าอย่างเงียบๆ ดวงตาคมกริบคอยจับจ้องแม้ในขณะที่เขานั่งลงแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ไม่มีใครรู้ว่าในความนิ่งนั้นเขากำลังคิดอะไร แต่แววตาที่ทอดมองอริสรา ลึกและนิ่ง ทำให้พรปวีณ์รู้สึกว่าพี่ชายมีอะไรบางอย่างที่ปิดบังเธออยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม