“อายจ๊ะ พี่ขอตัวไปเปลี่ยนชุดสักหน่อยนะ เย็นนี้ต้องไปกองถ่าย ไว้ค่อยคุยกันต่อคืนนี้นะ ถ้าอายยังไม่หลับเพราะพี่คงกลับดึกหน่อยน่ะ”
“ค่ะพี่วีณ์ วันนี้หนูมีรายงานต้องทำก็คงนอนดึกเหมือนกันค่ะ เพราะว่าต้องเขียนลงสมุดให้เสร็จดูท่าคงได้มือหงิกอีกแล้ว พรุ่งนี้เช้าก็ต้องรีบเอาไปพิมพ์ที่ร้านคอมฯ หน้ามหา’ลัยอีกค่ะ จะได้ทันส่งตอนบ่าย”
อริสราตอบด้วยแววตาเป็นประกาย รู้สึกเหมือนฝันที่ได้คุยกับคนที่ชื่นชมมาตลอด
“อ้าว หนูไม่มีโน้ตบุ๊กเหรอจ๊ะ”
“ไม่มีหรอกค่ะ ลำพังแค่หาค่าเทอมไปจ่ายให้ทันได้ก็สุดๆ แล้ว หนูไม่มีเงินซื้อโน้ตบุ๊กหรอกค่ะ” เธอบอกยิ้มๆ
“มัวแต่ถามมากอยู่ได้ รีบไปแต่งตัวเถอะเราน่ะ แสนก็ไปเตรียมตัวสิ จะไปหาข้าวกินก่อนก็ได้ แล้วค่อยมารับยัยวีณ์ทีหลัง กว่าจะแต่งตัวเสร็จก็คงทันพอดี พอไปถึงกองถ่ายแล้วคงจะหาอะไรกินลำบากเพราะเราไม่ใช่ทีมงานของเค้า”
“ใช่ค่ะ วันนี้ถ่ายไม่กี่ชั่วโมงเค้าไม่ได้เลี้ยงข้าวที่กองค่ะ พี่แสนไปหาอะไรกินที่ห้องก่อนนะคะ เดี๋ยวถ้าพร้อมแล้ววีณ์จะโทรไปหาค่ะ”
“งั้นก็ได้ครับ ขอตัวนะครับเฮีย”
“อืม ไปเถอะ”
“งั้นวีณ์ขึ้นห้องก่อนนะคะ แล้วเจอกันคืนนี้นะน้องอาย”
“ค่ะพี่วีณ์” เธอมองดาราสาวขึ้นไปชั้นบน ส่วนสารินก็เดินออกไปข้างนอก
แล้วความเงียบก็เข้ามาแทนที่ พงศ์วิชญ์นั่งอยู่ที่เดิมสายตาไม่ละจากอริสราแม้แต่น้อย
“เฮีย…เอ่อ หนูเอากระเป๋าไปเก็บก่อนนะคะ” อริสราพูดเบาๆ
“ตามสบาย”
เขาบอกเสียงเรียบ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกกดดันนักก็ไม่รู้
อริสราก้มศีรษะเป็นการขออนุญาตแล้วถอยกลับเข้าห้องของตนเอง แต่แม้ประตูจะปิดลง เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงสายตาคมคู่นั้นที่เหมือนยังติดตามอยู่ทุกฝีก้าว สายตาที่พรปวีณ์เองก็สังเกตเห็นเช่นเดียวกัน และนั่นยิ่งทำให้ดาราสาวคนดังเกิดคำถามเงียบๆ ในใจ เด็กคนนี้สำคัญกับพี่ชายของเธอขนาดไหน ทำไมเขาถึงจ้างอริสรามาทำงานด้วยแถมยังให้พักที่เดียวกันอีกต่างหาก
เมื่อพรปวีณ์กับสารินออกจากเพนต์เฮาส์ไปกองถ่าย ความเงียบก็เข้ามาแทนที่รวดเร็ว อริสราหยิบผ้ามาเช็ดฝุ่นบนชั้นหนังสือ เรียงสันปกให้เสมอกันทีละเล่ม ขณะที่หูยังได้ยินเพียงเสียงแอร์ฮัมแผ่วๆ และเสียงรองเท้าของพงศ์วิชญ์ที่ขยับไปมาบริเวณโถงรับแขกเป็นครั้งคราว
พงศ์วิชญ์ทิ้งตัวนั่งพิงพนักโซฟาหนัง สีหน้าขรึมปกติ ดวงตาคมนิ่งคล้ายคิดเรื่องอื่น แต่กลับจับจ้องไปที่อริสราอยู่ตลอด เธอรู้สึกถึงสายตานั้นตั้งแต่เริ่มก้มเช็ดโต๊ะกาแฟ จนไปถึงตู้โชว์ริมผนัง ราวกับทุกก้าว ทุกแรงมือ ถูกเขาจับชีพจรให้เต้นตาม
“เฮีย…ไม่ไปทำงานเหรอคะวันนี้” อริสราเอ่ยเบาๆ
“ไป แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้” เสียงทุ้มเรียบดังแผ่วแต่หนักพอให้เธอวางใจไม่ได้
เธอกลืนน้ำลาย เดินต่อไปยังมุมครัว เปิดตู้ลิ้นชักเช็กการจัดเรียงของใช้ ก่อนย้ายกลับมาปัดฝุ่นบนกรอบภาพที่มุมผนัง ขณะยืนเขย่งปลายเท้าจะเอื้อมเช็ดมุมบนสุด ผ้าเช็ดฝุ่นเกือบหลุดมือ เธอต้องขยับตัวให้ใกล้กำแพงขึ้นอีกนิด ปลายผมลู่ลงตามแรงโน้มถ่วง แกว่งเบาๆ ตามจังหวะหายใจ
พงศ์วิชญ์เงียบ แต่แววตาลึกดุจทะเลยามค่ำกำลังกรองรายละเอียดเข้าสมองอย่างใจเย็น เด็กคนนี้ทำงานเงียบ เรียบร้อย เรียนรู้ระยะห่างข้าวของต่างๆ ได้ดีไม่เดินซุ่มซ่ามชนนู่นนี่และเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัวเหมือนคนที่ทำงานพวกนี้มานาน อีกทั้งไม่โวยวายเมื่อถูกเขาจ้องมองนานกว่าปกติ ซึ่งเขาก็ตั้งใจทำให้เธอรู้ว่าถูกจับตา
หลังจากทำความสะอาดข้าวของตามชั้นวางต่างๆ แล้ว เธอก็เข้าไปในห้องเก็บของแล้วนำเครื่องดูดฝุ่นออกมาดูดฝุ่นตามพื้นห้อง เธอพยายามไม่มองพงศ์วิชญ์ตรงๆ แต่เงาของเขาบนพื้นก็ยังทำให้หัวใจเธอคอยสะดุดอยู่บ่อยครั้ง ก็รู้ว่าเขายังไม่ไว้ใจเธอ แต่มันจำเป็นต้องจ้องกันขนาดนี้เลยหรือไง ถ้าระแวงเธอขนาดนั้นแล้วจะจ้างเธอไว้ทำไมกัน...
เวลาผ่านไปจนถึงหกโมงเย็น เธอเพิ่งขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอนชั้นบนเสร็จและกำลังเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดลงมาชั้นล่าง ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าให้เธอทำความสะอาดเพนต์เฮาส์ในโซนฝั่งขวานี้เท่านั้น ส่วนฝั่งซ้ายซึ่งเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ ห้องสันทนาการและคลับเล็กๆ สำหรับสังสรรค์จะมีแม่บ้านคนอื่นมาจัดการวันเว้นวัน งานของเธอจึงเสร็จไวกว่าที่คิด
พงศ์วิชญ์มองหน้าจอโทรศัพท์ ชั่ววินาทีถัดมาเสียงของเขาก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“อาย” เสียงเขาทำเธอแทบสะดุดลงบันไดแต่ก็ยังควบคุมสองขาของตัวเองได้ดี
“ค่ะเฮีย”
“ทำความสะอาดเสร็จแล้วใช่มั้ย”
“เสร็จแล้วค่ะ เฮียจะให้หนูทำอะไรต่อคะ”
“ทำอาหารเย็นหน่อย กินเสร็จฉันจะได้อาบน้ำแล้วออกไปทำงาน”
“ค่ะ เฮียอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ”
“ไม่มี ถนัดทำอะไรก็ทำมาเถอะ”
อริสราพยักหน้าก่อนนำอุปกรณ์ทำความสะอาดไปเก็บในห้องเก็บของ จากนั้นก็รีบล้างมือ สวมผ้ากันเปื้อน จากนั้นก็ไปหุงข้าวเป็นอันดับแรกเพราะเมื่อเช้าเธอไม่ได้หุงไว้ จากนั้นก็ไปสำรวจช่องแช่เย็น เธอเลือกวัตถุดิบง่ายๆ ที่สดที่สุดอย่าง บรอกโคลี แครอท เห็ดหอม ถั่วลันเตา หมูสันในสำหรับทำผัดผักรวม จากนั้นก็ตามด้วยเมนูต้มจืดเต้าหู้หมูสับสาหร่าย ปิดท้ายด้วยของง่ายๆ แต่เป็นสูตรเด็ดของเธออย่างไข่เจียวกรอบๆ ฟูๆ ที่มั่นใจว่าจะต้องส่งกลิ่นเรียกน้ำย่อยในกระเพาะของเขาได้เป็นอย่างดี