เอิงเอย...
ฉันยืนอยู่หน้าห้องของธีร์ ห้องเดิมที่เขาเคยอยู่ห้องเดิมที่ฉันเคยอยู่และเคยทำสิ่งผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยมันทำให้ฉันไม่กล้าที่ก้าวขาเข้าไปข้างในนั้นฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอยู่นานหลายนาทีฉันยอมรับว่าตัวเองขี้ขลาดฉันกลัว ความหวาดวิตกเกาะกุมอยู่ในใจของฉันแต่แล้วคนที่ทำให้ฉันก้าวข้ามความกลัวนี้ไปได้ก็คือลูกสาวตัวน้อย
"แม่เข้ามาสิคะเร็วๆค่าเข้ามา" น้องไออุ่นวิ่งออกจากห้องมาหาฉันแล้วจูงมือฉันเข้าไปข้างในโดยมีธีร์ยืนมองฉันไม่ละสายตา ฉันจำใจเดินเข้าไปอย่างเลี่ยงข้างในอย่างเลี่ยงไม่ได้ พอเข้ามาฉันต้องผ่านเคาท์เตอร์ครัวก่อนเป็นอันดับแรกฉันพยายามที่จะไม่มองเข้าไปเพราะมันทำให้ฉันนึกย้อนไปถึงตอนที่ตัวเองวิ่งเข้าไปหยิบมีดมาทำร้ายตัวเอง ฉันก้มหน้ามองข้อมือข้างซ้ายของตัวเองความรู้สึกผิดมันกัดกินหัวใจของฉันอีกแล้วความรู้สึกแบบนี้มันกลับมาอีกแล้วฉันจะทำยังไงดี
"แม่ขาน้องหิวข้าว" เสียงของลูกทำให้สติฉันกลับมาอีกครั้งฉันมองหน้าลูก ลูกสาวที่ฉันรักสุดหัวใจลูกสาวที่ฉันเกือบจะเป็นฆาตกรฆ่าแกด้วยน้ำมือของฉันเอง แกยังอยู่กับฉันแกยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้จากฉันไปไหน แกยังอยู่ลูกของฉันยังอยู่ แล้วน้ำตาของฉันก็ไหลออกมาด้วยความรู้สึกผิดและรู้สึกโล่งใจที่แกยังอยู่ฉันดึงแกเข้ามากอด ในใจของฉันพร่ำพูดแต่คำว่าขอโทษแม่ขอโทษแม่เกือบทำให้หนูไม่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ แต่พอมองในอีกมุมหนึ่งถ้าไม่ได้ธีร์ที่รีบพาฉันไปส่งโรงพยาบาลตอนนี้ลูกอาจจะจากฉันไปแล้วก็ได้ถึงแม้เขาจะเป็นคนบอกให้ฉันไปทำแท้งแต่คนที่เกือบทำร้ายลูกคือฉันถ้าฉันจะโกรธธีร์เรื่องที่เขาบอกให้ฉันไปทำแท้งฉันก็ควรจะโทษตัวเองด้วยเหมือนกัน
"แม่ร้องไห้ทำไมคะ" น้องไออุ่นถามพร้อมกับเอามือน้อยๆเช็ดน้ำตาให้กับฉัน
"แม่ร้องไห้เพราะดีใจค่ะ"
"เอ๋..ดีใจแล้วทำไมต้องร้องไห้คะทำไมไม่หัวเราะล่ะค้าาา" ลูกทำหน้างงปนสงสัยที่ฉันบอกร้องไห้เพราะดีใจ
"โอเคค่ะแม่ไม่ร้องไห้แล้วนะ" ฉันยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนจะมองไปที่ธีร์ที่เขาเองก็เหมือนจะร้องไห้เหมือนกันเพราะตาเขาแดงๆ
"แม่ขาน้องหิวข้าวแล้วค่า"
"แล้วน้องอยากกินอะไรคะ"
"ผัดไทยกุ้งตัวโตๆค่ากับต้มจืดแตงกวาหมูเยอะๆค้า" อยากจะบอกว่าลูกชอบทานผัดไทยกับต้มจืดเหมือนธีร์เลยซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆแต่มันคือเรื่องจริง
"น้องอุ่นชอบผัดไทยกับต้มจืดแตงกวาเหรอครับ" ธีร์ถามลูกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเขาคงจะแปลกใจที่ลูกชอบเหมือนตัวเองซึ่งฉันเองก็เคยแปลกใจเหมือนกันตอนที่รู้ว่าลูกชอบอาหารแบบที่ธีร์ชอบ
"ใช่แล้วค่าแต่ต้องมีกุ้งตัวใหญ่ๆนะคะน้องชอบกินกุ้งใหญ่ๆ^^"
"แต่ว่าตอนนี้ที่ห้องของลุงไม่มีของเลย อืมทำไงดี" ฉันมองท่าทางครุ่นคิดของธีร์
"เอาอย่างนี้ละกันเดี๋ยวลุงจะลงไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างล่างมาทำผัดไทยให้น้องอุ่นกับแม่เอยทานแต่น้องอุ่นกับแม่เอยต้องรอลุงอยู่ในห้องนะครับ"
"ไม่เอาค่ะน้องจะไปกับคุณลุงด้วย" ลูกรีบเดินไปเกาะแขนธีร์ทันทีเพราะแกรู้ว่าทุกครั้งที่ไปซื้อของแกจะได้ขนมหรือไม่ก็ของเล่นติดมือมาด้วยทุกครั้ง
"นะคะให้น้องอุ่นไปด้วยน้องอุ่นสัญญาจะไม่ดื้อไม่ซนไม่เอาขนมไม่เอาของเล่น" ธีร์มองมาที่ฉันเหมือนเขาก็อยากจะพาลูกไปด้วยแต่เกรงใจฉันคือดูแล้วตอนนี้เหมือนลูกจะติดเขามากห่างไม่ได้เลยไปไหนก็ตัวติดกันตลอดตั้งแต่อยู่ที่งานหมั้นแล้ว
"พาแกไปด้วยก็ได้แต่ห้ามตามใจแกมาก น้องอุ่นห้ามงอแงซื้อของเล่นหรือซื้อลูกอมนะคะเข้าใจไหม"
"เข้าใจค่า^^" พอฉันอนุญาตทั้งพ่อทั้งลูกก็รีบพากันออกไปทันทีเหมือนกลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจไม่ยอมให้ไป
พอไม่มีใครอยู่ห้องก็เงียบลงทันทีฉันเดินไปนั่งที่โซฟามองไปรอบๆห้องที่ทุกอย่างยังคงวางไว้อยู่ที่เดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคงมีแค่ฉันเท่านั้นที่ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ระหว่างที่รอฉันก็ไม่มีอะไรทำก็เลยจัดเก็บข้าวของที่เขาทำรกที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปีเขาก็ยังเป็นเขาเสื้อผ้าถอดไว้ตรงไหนก็จะทิ้งไว้ตรงนั้นไม่เคยจะเก็บใส่ตะกร้าฉันไม่รู้ว่าหลังจากที่เราเลิกกันจนกระทั่งเขาไปเรียนต่อแล้วกลับมาเขาจ้างแม่บ้านที่ไหนมาทำความสะอาดหรืออาจจะเป็นสาวๆของเขาก็ได้ที่จะอาสามาทำให้ หรือฉันจะทิ้งไว้แบบเดิมเพราะเขาอาจจะไม่พอใจที่ฉันมาวุ่นวายกับข้าวของๆเขาแต่สุดท้ายฉันก็อดไม่ได้เพราะมันรกสายตาฉันไล่เก็บเสื้อผ้าที่เขาวางทิ้งไว้ตามมุมต่างๆไหนจะแก้วไหนจะขวดน้ำขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่วางระเกะระกะฉันจัดการล้างแก้วล้างจานเก็บกวาดทุกอย่างด้านนอกจนสะอาดเรียบร้อยแต่มันยังมีอีกห้องหนึ่งที่ฉันยังไม่ได้เข้าไปทำความสะอาดนั่นก็คือห้องนอนของเขาฉันถือวิสาสะเปิดเข้าไปในห้องนอนของเขาห้องนอนที่เราเคยนอนด้วยกันมีความสุขด้วยกัน ฉันรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งไปเพราะมันเป็นเพียงแค่อดีตก่อนจะเริ่มลงมือเก็บข้าวของที่วางไม่เป็นที่เป็นทางโดยที่ในใจก็ภาวนาว่าฉันคงจะไม่เจอซองถุงยางอนามัยเหมือนกับที่เคยเจอเมื่อก่อน แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นฉันก็เก็บเสื้อผ้าของเขาใส่ตะกร้าเพื่อนำไปซักแต่น้ำยาซักผ้าหมดด้วยความลืมตัวฉันโทรไปหาเขาเพื่อให้เขาซื้อกลับเข้ามาด้วยซึ่งเบอร์นี้เป็นเบอร์ที่ฉันไม่ได้กดโทรออกหรือกดรับสายมานานมากแล้วครั้งสุดท้ายที่โทรหาเขาก็คือวันนั้นเมื่อสี่ปีก่อน ฉันตัดสินใจโทรหาเขาโดยที่ไม่รู้ว่าเขายังใช้เบอร์เดิมอยู่ไหม
"ฮัลโหลเอย" น้ำเสียงตื่นเต้นของเขาดังแทรกเข้ามา
" ธีร์ เอ่อคือน้ำยาซักผ้าที่ห้องหมดซื้อมาด้วยนะ"
"........" เขาเงียบไปไม่ตอบหรือเขาจะไม่พอใจที่ฉันวุ่นวายกับของๆเขา
"เอ่อคือขอโทษนะถ้าเราวุ่นวายกับของในห้องธีร์ถ้าไม่ซื้อมาก็ไม่เป็นไร"
"อึก เอ่อ ซื้อๆเดี๋ยวซื้อขึ้นไป แล้ว..เอยจะเอาอะไรอีกมั้ย" ทำไมเสียงเขาดูสั่นๆน้ำเสียงขึ้นจมูกเหมือนคนร้องไห้แต่คงไม่ใช่หรอกสัญญาณมือถืออาจจะไม่ดีก็ได้
"ไม่มีอะไรแล้วมั้ง งั้นแค่นี้นะรีบๆกลับมาล่ะ"
สิบห้านาทีต่อมาทั้งพ่อทั้งลูกก็พากันหอบหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาในห้อง
"แม่เอยขาน้องอุ่นกลับมาแล้วค่าาา นี่ค่าาานมรสช็อกโกแลตของแม่เอย"
"ขอบคุณนะคะน้องรู้ได้ยังไงคะว่าแม่ชอบรสนี้"
"น้องไม่รู้ค่าแต่คุณลุงบอกว่าแม่เอยชอบนมรสช็อกโกแลต"
"เอ่อ ขอบคุณนะ" ฉันขอบคุณเขาที่มีน้ำใจซื้อนมมาฝากซึ่งฉันหิวพอดีเพราะตั้งแต่เช้าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากนมร้อนแก้วเดียวที่นิดหน่อยอุ่นมาให้ฉันกินตอนที่ฉันกำลังแต่งหน้า
"อื้ม เอ่อนี่น้ำยาซักผ้า" เขาเดินไปหยิบขวดน้ำยาซักผ้ามาให้ฉันฉันรับมาแล้วเดินไปที่ห้องซักล้าง
"ทำไมถึงซักผ้าให้ล่ะ" เขาถามฉันในขณะที่ฉันกำลังเทน้ำยาซักผ้าลงเครื่อง ซึ่งตอนนี้ธีร์ยืนอยู่ตรงด้านหลังของฉันในระยะประชิด
"ก็..เห็นว่ามันกองอยู่ไม่ได้ซักก็เลยซักให้"
"ขอบคุณนะที่ซักผ้าให้แถมยังช่วยทำความสะอาดห้องให้ด้วย"
"อืมไม่เป็นไรแค่นี้เอง"
"อยากให้มาทำให้ทุกวันเลย"
"..........."
"ได้หรือเปล่าจ้างก็ได้อ่ะเอาไปยกให้หมดเลยทั้งกระเป๋า" เขายื่นกระเป๋าเงินของเขามาตรงหน้าฉันพอฉันไม่รับเขาก็เอามาใส่ไว้ในกระเป๋ากระโปรงของฉันแทน
"เอาเงินของธีร์คืนไปเราไม่ใช่คนใช้ธีร์นะ"
"ไม่ได้คิดแบบนั้นซักหนอ่ยใครจะเรียกเมียว่าคนใช้กันล่ะ"
"..........."
"ธีร์รู้ว่าที่ผ่านมาธีร์ผิด ธีร์รู้ว่าสิ่งที่ธีร์ทำมันเลวร้ายเกินกว่าจะให้อภัย แต่ธีร์ก็อยากขอโอกาสจากเอย ให้โอกาสผู้ชายเลวๆคนนี้สักครั้งจะได้ไหม"
ได้ไหมนะ...รี๊ดว่าไงคะเอาไงดีถ้ารี๊ดเป็นเอยรี๊ดจะให้อภัยหรือเปล่า