เอิงเอย.....
วันต่อมาฉันตื่นแต่เช้าเพื่อทำความสะอาดห้องเพราะไม่ต้องไปทำงานส่วนธีร์เมื่อคืนเขาไม่กลับคอนโด ฉันอยากจะโทรหาเขาแต่ก็กลัวว่าเขาจะยังไม่ตื่นก็เลยไม่ได้โทรไป จนกระทั่งเย็นที่เขากลับมาฉันดีใจมากที่เจอหน้าเขาก็เลยเข้าไปถามว่าเขาหิวหรือเปล่าฉันจะทำอะไรให้ทานเขาบอกไม่หิวก่อนจะเดินเข้าห้องไปพอฉันจะเดินตามเข้าไปหาเขาก็กดล็อคห้องทันทีฉันพยายามคิดในทางที่ดีว่าเขาอาจจะกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าก็เลยล็อคห้องเอาไว้จนกระทั่งค่ำเขาก็เดินออกมาในชุดใหม่เขาเดินไปหยิบกระเป๋าเงินกับกุญแจรถ
"ธีร์จะไปไหนเหรอ"
"ไปผับ"
"ไปอีกแล้วเหรอธีร์เพิ่งกลับมาเองนะ"
"แล้วไง"
"ก็ไม่แล้วไงหรอกเอยก็แค่เป็นห่วงน่ะทานเหล้าทุกวันมันไม่ดีนะเพลาๆลงบ้างก็ดีนะ"
"เป็นแม่หรือไงถึงมาสั่ง"
"......." จากนั้นเขาก็เดินออกไปจากห้องแล้วคืนนั้นเขาก็ไม่กลับมานอนคอนโด หลายคืนแล้วที่ฉันนอนคนเดียวมันรู้สึกเหงารู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรฉันทำให้เขาไม่พอใจอะไรหรือเปล่าแต่ฉันก็ไม่กล้าถามเพราะรู้ว่าเขาไม่ชอบคนเซ้าซี้ เวลาไปมหาลัยจากช่วงก่อนเราจะไปเรียนพร้อมกันแต่มาพักหลังเขาบอกให้ฉันไปเองเขามีธุระซึ่งฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรฉันก็เดินออกไปขึ้นรถเมล์ซึ่งไกลจากคอนโดพอสมควร
วันนี้เหมือนแดดจะแรงกว่าปกติฉันรู้สึกหน้ามืดจนต้องเข้าไปหลบแดดตรงร้านค้าหลังป้ายรถเมล์
"นังหนูเป็นอะไรหรือเปล่าลูก"
"หนูรู้สึกหน้ามืดค่ะ"
"งั้นก็เข้ามานั่งข้างในก่อนลูกเดี๋ยวป้าเอายาดมมาให้นะ"
"ขอบคุณค่ะ" ฉันเดินมานั่งในร้านเพราะรู้สึกไม่ไหวจริงๆ หลังจากพักจนหายหน้ามือฉันก็ออกมายืนรอรถเมล์เพราะตอนนี้มันสายมากแล้ว แล้วฉันก็มาสายจริงๆฉันรีบวิ่งขึ้นตึกแต่จู่ๆฉันก็เห็นธีร์เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยตอนแรกฉันคิดว่าเขาคงจะรีบร้อนก็เลยไมไ่ด้จัดเสื้อผ้าแต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเดินเข้าไปหาเขาฉันก็เห็นมีผู้หญิงคนนึงเดินตามเขาออกมา ผู้หญิงคนนั้นเดินคล้องแขนเขาส่วนเขาก็เอามือโอบเอวผู้หญิงคนนั้นแล้วพาเดินขึ้นตึกไป ภาพที่เห็นมันเหมือนภาพเดิมที่ฉันเคยเจอมาก่อน แต่ครั้งนี้ฉันแทบจะหมดแรงเดิน มันไม่จริงใช่ไหมฉันอาจจะเข้าใจเขาผิด ในเมื่อเขาบอกว่าเขามีแค่ฉันคนเดียวเขาจะไม่สนใจใครอีกเขาบอกว่าฉันคือคนที่ใช่สำหรับเขา แล้วฉันก็เชื่อที่เขาพูดหมดทุกอย่าง ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาเพราะมันคงไม่ดีแน่ที่จะเข้าห้องเรียนในสภาพนี้ พอล้างหน้าเสร็จฉันกำลังจะโยนทิชชู่ที่ใช้แล้วลงถึงขยะสายตาของฉันก็ดันไปเจอซองถุงยางพร้อมกับถุงยางที่ใช้แล้วอยู่ในถังขยะ ฉันมองมันด้วยใจที่ปวดร้าวแม้จะบอกกับตัวเองก่อนหน้านี้ว่ามันไม่มีอะไรเขาคงไม่กลับมาทำแบบเดิมอีก ตอนนี้ฉันไม่มีกระจิตกระใจจะขึ้นไปเรียนฉันไม่อยากเจอหน้าธีร์ฉันก็เลยเดินลงมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามสระน้ำที่เอาไว้นั่งพักเวลาพักเที่ยง ฉันนั่งร้องไห้เงียบๆ
"หนูเป็นอะไรมานั่งร้องไห้คนเดียว อะนี่ผ้าเช็ดหน้าเช็ดหน้าซะ" ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเป็นคุณยายท่านนึงท่าทางใจดีท่านส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างอ่อนโยนพร้อมผ้าเช็ดหน้าสีขาว
"ขอบคุณค่ะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณคุณยายก่อนจะรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำตา
"มีอะไรไม่สบายใจเล่าให้ยายฟังได้นะลูก^^" ฉันไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าที่คุณยายท่านนี้หน้าตาท่านคล้ายกับธีร์หรือธีร์หน้าตาคล้ายท่านก็ไม่รู้ สงสัยฉันจะคิดถึงธีร์มากเกินไป
"คือหนูมีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ"
"เรื่องแฟนล่ะสิ"
"........"
"แปลกใจเหรอที่ยายเดาถูก หึ สาวๆหนุ่มๆวัยนี้น่ะมีไม่กี่เรื่องหรอกว่าแต่ยายเดาถูกใช่ไหมล่ะ"
"ค่ะ" ฉันพูดได้แค่คำเดียวน้ำตาก็จะพาลไหลออกมาอีก
"แฟนของหนูทำไม่ดีกับหนูเหรอ"
".........." ฉันไม่ได้ตอบคุณยายเพราะมันคงไม่เหมาะถ้าจะเอาเรื่องส่วนตัวมาคุยกับคนแปลกกหน้าแต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกไว้ใจท่าน
"ถ้าไว้ใจยายหนูระบายมันออกมาให้ยายฟังได้นะลูกยายพร้อมที่จะรับฟัง"
"สบายใจขึ้นมาหรือยังลูก" คุณยายยกมือของท่านมาลูบไหล่ฉันช้าๆอย่างปลอบโยนเมื่อฉันเล่าเรื่องราวที่ไม่สบายใจให้ท่านฟัง
"เอยขอโทษนะคะที่เอาเรื่องไม่สบายมาเล่าให้คุณยายฟัง"
"ไม่เป็นไรลูกคิดซะว่ายายเป็นญาติผู้ใหญ่ของหนูก็แล้วกัน"
"แล้วนี่คุณยายมาหาใครหรือเปล่าคะ"
"ยายมาหาหลานชายน่ะ"
"เดี๋ยวเอยพาไปค่ะ"
"ขอบใจจ๊ะ"
ฉันพยุงคุณยายเดินมาที่หน้าตึกบริหารเพราะท่านบอกว่าหลานชายของท่านเรียนอยู่ที่นี่
"ส่งยายแค่นี้ก็พอลูกหนูขึ้นไปเรียนเถอะนะ"
"ถ้าอย่างงั้นเอยขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้คุณยายแล้วเดินขึ้นตึกเรียน และในขณะที่ฉันกำลังเดินขึ้นไปธีร์ก็เดินสวนลงมาพอดีอย่างเร่งรีบ
"ธีร์" ฉันเอ่ยทักเขาแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจ ฉันมองตามหลังเขาไปด้วยใจที่เจ็บปวด เขาเปลี่ยนไปแบบกะทันหันแบบนี้ฉันทำใจไม่ทันเลยจริงๆ
หลายอาทิตย์ต่อมา...
ตอนนี้ฉันกลับมาอยู่หอแล้ว ตอนที่ฉันบอกธีร์ว่าฉันขอกลับไปอยู่หอตามเดิมพร้อมให้เหตุผลว่ามันลำบากกับการไปทำงานที่ร้านพี่ขวัญเขาก็ไม่ว่าอะไรเขาแค่พยักหน้าเท่านั้นไม่มีการห้ามหรือขอร้องให้ฉันอยู่ตอนนั้นฉันรีบเดินเข้าห้องเพื่อเก็บของฉันเก็บไปร้องไห้ไปพอเดินออกมาเขาก็ไม่อยู่แล้ว ฉันก็เลยเอาคีย์การ์ดวางคืนให้เขาบนโต๊ะเพราะคิดว่าฉันคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีก
ช่วงนี้นักศึกษาปีสี่ไม่ต้องไปมหาลัยเพราะทำเรื่องจบเรียบร้อยแล้วตอนนี้รอแค่รับใบปริญญาเท่านั้นฉันก็เลยมีเวลาทำงานที่ร้านพี่ขวัญได้อย่างเต็มที่ พอฉันได้ทำงานหนักๆก็ทำให้ฉันลืมเรื่องของธีร์ไปได้บ้าง เราสองคนห่างกันเอาโดยที่ไม่มีการบอกเลิก ถามว่าฉันคิดถึงเขาไหม ฉันคิดถึงเขามากคิดถึงอ้อมกอดคิดถึงคำพูดออดอ้อนของเขาเวลาที่เรานอนด้วยกันพอคิดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหล
"เอยมาทานซูชิด้วยกันเร็วพี่เพิ่งสั่งมาร้านนี้อร่อยมากเลยนะ ดูสิห๊อมหอม" พี่ขวัญเปิดกล่องซูชิแล้วเอามาให้ฉันดมแต่พอฉันได้กลิ่นฉันก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาทันทีฉันรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วอาเจียนออกมาจนหมดแรงพี่ขวัญวิ่งตามมาลูบหลังให้กับฉัน
"เอยไม่สบายเป็นอะไร อาการเหมือนคนแพ้ท้องเลยนะอ๊วกแบบนี้ตอนได้กลิ่นอาหารน่ะ"
"......." ฉันถึงกับอึ้งไปและคิดตามที่พี่ขวัญบอก ประจำเดือนฉันไม่มาสองเดือนแล้ว ที่ผ่านมาธีร์เขาก็ป้องกันนะแต่บางครั้งเขาก็ไม่ป้องกันพอฉันเตือนเขาก็บอกไม่เป็นไร
วันต่อมาฉันขอลางานพี่ขวัญเพื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
"ยินดีด้วยนะคะคุณเอยตั้งครรภ์ได้หกสัปดาห์แล้วค่ะ"
หลังจากนั้นฉันก็รีบฝากท้องทันทีด้วยความดีใจฉันไม่รู้ว่าธีร์จะดีใจไหม แต่เรื่องนี้ฉันควรจะต้องบอกให้เขารู้เป็นคนแรกฉันหวังว่าเขาคงจะดีใจ ฉันเคยถามเขาตอนที่เรายังรักกันว่าถ้าเรามีลูกเขาอยากมีลูกสาวหรือลูกชายเขาบอกว่าอยากมีลูกสาวจะได้เอาไว้อ้อนพ่อ พอคิดถึงตอนนั้นฉันมีความสุขมากฉันรีบควานหามือถือในกระเป๋าผ้าฉันเลื่อนหาเบอร์ของธีร์แล้วรีบกดโทรออกหาเขาทันทีด้วยความตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
"ธีร์ เอยมีข่าวดีจะมาบอก" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและดีใจพร้อมกับมองสมุดเล่มเล็กๆ ในมือที่ถืออยู่
"อืมเธอโทรมาก็ดีแล้วฉันก็มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอเหมือนกัน เย็นนี้ไปหาฉันที่คอนโด" น้ำเสียงที่ไม่ได้ยินมานานหลายวันทำให้ฉันคิดถึงเขาใจจะขาด
"อื้มๆ ไว้เจอ........" ตู๊ดดดดดดด
"เจอกันนะ"
เขากดวางสายทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบ ฉันก้มมองมือถือในมือแล้วถอนหายใจก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้งฉันอาจจะคิดมากไปเองในเมื่อเขายังไม่เคยบอกเลิกฉันนี่นา