“นั้นจะเอาอะไรไปให้พี่เขาอีกยัยฟาติมา” ของขวัญตะโกนถามด้วยความหนักใจและเริ่มอายแทนเพื่อน ที่ความหน้าด้านของเพื่อนเธอมันเยอะเกินไปถึงไม่ได้สะทกสะท้านเลยสักนิดถึงแม้พี่เขาจะด่าและปัดขนมทิ้งทุกรอบก็ตาม
“หยุดก่อนค่ะพี่ไซรัส!” ร่างเล็กใบหน้าดื้อรั้นยืนขว้างพร้อมกับถุงขนมถึงแม้รู้ว่าเขาไม่ชอบแต่เธอก็พยายามเปลี่ยนเอาสิ่งอื่นที่มันไม่หวานมาให้เขา
“หลบไป” เสียงเย็นชาเอ่ยสั่งอย่างไม่สบอารมณ์ และมองอีกฝ่ายเหมือนเป็นอากาศธาตุ
“รับก่อนสิคะ แล้วฟาติมาจะหลบ” เธอต่อร้องและไม่มีความกลัวกับสายตาที่เขามองมาที่เธอแม้แต่น้อยตรงกันข้ามเธอกับชอบสายตาแบบนั้นที่เขามองมาที่เธอ เธอชอบทุกอย่างที่เป็นเขา
“สงสัยหน้าเธอนี่ฉาบด้วยปูนซีเมนต์ ถึงได้ด้านขนาดนี้ ผู้ชายด่าเธอน่าจะอายและเอาหน้าจืด ๆ ของเธอออกไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว”
“เหอะ! ถ้าหน้าตาอย่างฟาติมาจืดชืด ผู้หญิงทั้งมหาลัยหน้าไม่ป่วยซีดเลยรึค่ะพี่ไซรัส”
“ยัยบ้า” ชายหนุ่มใบหน้าบอกบุญไม่รับกระแทกเท้าออกไปอย่างหงุดหงิดที่โดนหญิงสาวย้อนกลับ
แต่มีเหรอที่ฟาติมาคนนี้จะยอม เธอวิ่งและมาหยุดยืนด้านหน้าของคนตัวสูงและยัดเหยียดถุงขนมที่เธอตั้งใจทำมาให้เขายัดใส่มือ และยิ้มหวานให้กับเขาก่อนจะวิ่งกลับไปทางเดิม
“ฉันจะโยนทิ้งใส่ถังขยะให้หมดเลย”
“จะโยนก็โยนค่ะ โยนไปเลยพรุ่งนี้ฟาติมาก็จะเอามาให้ใหม่” เธอเถียงสู้กลับและวิ่งยิ้มหน้าบานออกไปทางเพื่อนสนิทที่ยืนส่ายหน้าให้กับเธออย่างเอือมระอา คงต้องยอมรับว่าเพื่อนเธอคือที่หนึ่งของความหน้าด้านหน้าทน ถ้าเป็นเธอแล้วผู้ชายพูดแบบนี้ใส่มีหวังต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเจ็บตัวกันบ้างล่ะ
“ยัยฟาเอ๊ย! เป็นฉันนะเอาปี๊บคลุมหัวไปแล้ว ไม่ทราบหน้าเธอฉาบด้วยปูนซีเมนต์ตามที่พี่เขาพูดรึเปล่าว่ะ ยัยเพี้ยน” ของขวัญยืนด่าและจับใบหน้าของเพื่อนสาวพลิกไปมาอย่างหยอกล้อ
“จะอายทำไมก็บอกแล้วว่าพี่เขากับฉันคู่กัน เดี๋ยวเป็นแฟนกันเธอดูนะพี่เขาจะคลั่งฉันไม่หวาดไม่ไหว”
“หมั่นหน้านะยัยฟาติมาไม่หวาดไม่ไหวอะไรกัน ฉันจะไปฟ้องเฮียฟาริสของเธอซะดีไหม”
“ทำอย่างกับเฮียฟาริสสนใจฉันอย่างงั้นแหละ” เธอย่นหน้าเมื่อนึกถึงใบหน้านิ่งของพี่ชายยิ่งคิดก็เสียวสันหลังวาบไปหมด
“ขนมใคร!” ชิเอลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นไซรัสเดินมาพร้อมกับถุงขนมที่ห่อมาอย่างสวยงาม
“เอาไปกินสิ” เสียงพูดอย่างไม่สนโลกโยนห่อขนมให้จนชิเอลรับแทบไม่ทัน
“โอ๊ย ลาภปากอีกแล้วว่ะ เมื่อเช้าก็มีรุ่นน้องคนสวยเอาช็อกโกแลตมาให้ ขอบคุณครับพี่ชายสุดหล่อ”
ชิเอลทำเสียงทะเล้น จึงได้สายตาพิฆาตจากไซรัสไปหนึ่งดอก เพราะตั้งแต่เกิดมาจนจำความได้เขาไม่เคยได้ยินชิเอลเรียกเขาว่าพี่ชายเลย ถ้าจะเรียกก็เรียกแค่พี่เฉยๆ และเรียกด้วยเสียงที่กระแทกกระทั้น ขนาดกับมิลามันยังไม่เรียกแต่วันนี้กับทะลึ่งมาเรียกเสียงหวาน
“ทะลึ่ง” ไซรัสขึ้นเสียงเล็กน้อยอย่างไม่จริงจังมากนัก
“วันนี้ไปดื่มกันปะ” ชิเอลถามเสียงร่าเริงและหยิบขนมบราวนี่มากัด “อื้ม~ โคตรอร่อยเลยว่ะ ไม่กินอย่ามาเสียใจทีหลังนะ ไม่หวานด้วย”
ไซรัสมองขนมบราวนี่ที่ชิเอลโชว์ให้ดูด้วยใบหน้าเรียบนิ่งและเมินมองออกไปอย่างไม่ได้สนใจสักนิด
“กินตามสบายถ้าเป็นยาพิษมึงก็ตายก่อนกู เจอกันคืนนี้ที่เดิมและเวลาเดิม บอกไอ้เวกัสด้วยล่ะ”
“เออ กลับไปก่อนเลยวันนี้นัดสาวไปยิงปืน”
“หึ อีกแล้วนะมึงเพลาๆ บ้างเอดส์จะถามหา”
“ใส่ถุง” ชิเอลตอบกลับหน้าตายและกินขนมบราวนี่ต่ออย่างเอร็ดอร่อย
“เจริญเนอะมึง พ่อแม่คงภูมิใจที่ลูกชายขยันขายน้ำ” ไซรัสพูดประชดประชันและขับรถออกไป
“โอ๊ย!! ยัยเพื่อนคนนี้นิแขนฉันจะหลุดแล้วนะ” ของขวัญบ่นกระปอดกระแปดที่โดนเพื่อนตัวดีลากมาในห้างทั้งที่เธอบอกวันนี้ไม่อยากซื้ออะไร แต่แม่นางตัวดีก็ไม่ฟัง ยังจับเธอลากบังคับมาจนได้
“ไปเลือกชุดมาคืนนี้เราจะออกท่องราตรีกัน” ฟาติมาพูดด้วยน้ำเสียงอย่างมีความสุข
“เวลาแกยิ้มแบบนี้ ฉันไม่ไว้ใจแกเลยว่ะ”
“พี่ไซรัสเขาไปผับฉันแอบได้ยินมา”
“แล้วแกไปแอบฟังเนี่ยนะ ทำอย่างกะพ่อแกคงปล่อยให้ไปอย่างงั้นแหละ”
“เดี๋ยวจะบอกแด๊ดดี๊ว่าฉันไปนอนกับแก”
“แกเอาฉันไปอ้างอีกแล้วนะ” ของขวัญถลึงตามองเพื่อนแต่ก็ยอมไปเลือกชุดที่จะต้องใส่คืนนี้ “แกจะเลี้ยงเหล้าฉันใช่ไหม”
“แกจะดื่มอะไรก็ดื่มไปเลยเพื่อนรัก ผับในเครือของบ้านฉันเอง”
“โอ๊ย!! แล้วจะไม่โดนพี่แกจับได้เหรอว่ะ” ของขวัญเสียวสันหลังวาบทันทีเมื่อนึกถึงพี่ชายของเพื่อนรักถึงแม้จะเจอมาหลายครั้งแต่ก็ยังคงกลัวพี่ชายเพื่อนอยู่
“พี่เขาไม่มาสนใจหรอก”
“ถ้าโดนจับได้ตัวใครตัวมันนะเว้ย”
“เออ ฉันไม่ทำให้แกเดือดร้อนหรอก นี่ใครฟาติมาค่ะคุณเพื่อนขา”
“เออ ฉันจะคอยดูคนปากแจ๋วคนนี้ทำหน้าหงอเมื่อโดนคนที่บ้านจับได้จะขำให้ฟันหักเลยว่ะ”
“เดี๋ยวตบปากแตก แกเป็นเพื่อนฉันนะเว้ย” เธอหัวเราะและรู้ว่าเพื่อนแกล้งแหย่เพราะเธอแหย่กันแบบนี้เป็นประจำ
ผับ Red Rose
“เธอเป็นพนักงานใหม่เหรอ?” ฟาติมาเอ่ยทักเมื่อมีพนักงานมารับออร์เดอร์จากเธอ แต่เธอนั้นกับไม่เคยเห็นหน้าของหญิงสาวคนนี้มาก่อน
“ใช่ค่ะ เพิ่งมาทำงานวันแรก” พนักงานสาวสวยตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นเสน่ห์
“เธอชื่ออะไร”
“นานาค่ะ” พนักงานสาวสวยตอบกลับและระบายยิ้มให้อย่างสุภาพ
“เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
หญิงสาวค่อย ๆ เผยยิ้มที่เห็นพนักงานสาวคนใหม่ส่ายหน้าเบา ๆ เพราะเป็นการดีที่พนักงานคนสวยคนนี้ไม่รู้จักว่าเธอนั้นเป็นใครจะได้ไม่ต้องไปฟ้องพี่ชายของเธอให้เดินมาด่าให้ปวดหัวแทบจะทุกครั้งที่เธอมา
“ดี...ไปบอกบาร์เทนเนอร์นะว่าฟาติมาขอเหมือนเดิม”
“ได้ค่ะ”
“แก! ทำไมพนักงานผับพี่ชายแกทำไมสวยเซ็กซี่แบบนี้ว่ะ” ของขวัญเอ่ยพูดที่เห็นพนักงานที่แนะนำตัวเองว่านานาเดินออกไปแล้ว
“ฉันก็ไม่รู้ว่ะ แต่สวยจริง เฮ้ยฉันเจอพี่เขาแล้ว” ฟาติมารีบดันใบหน้าของเพื่อนให้หันไปมองตรงทางเข้าที่เห็นชายสามคนหน้าตาดีเดินเข้ามาและเข้าไปนั่งในเขต VIP ที่ไม่ไกลจากเธอมากนัก
“ญาติพี่น้องเขางานดีหมดทุกคนเลยว่ะแม่งยัยฟาติมาเอ๊ย” ของขวัญรีบเช็ดน้ำลายที่ไหลลงมาเมื่อเห็นชายหนุ่มสามคนเดินเข้ามานั่งท่ามกลางแสงสปอร์ตไลน์ที่สาดส่องได้พอดิบพอดียิ่งส่งให้พวกเขามีออร่ามากขึ้น
“ไหนบอกว่าฉันบ้าผู้ชาย แกก็ไม่ใช่ย่อยนะน้ำลายถึงได้ไหลยืดขนาดนี้”
“แกเห็นเหรอ” ของของขวัญเอ่ยหน้าเจื่อน ๆ แต่ก็ยิ้มหน้าระรื่นออกมา
“เออ”
“เอาไงต่อที่มานี่มีแผนอะไร”
“ไม่มีแค่อยากมาเห็นหน้าก็เท่านั้น”
เธอบอกด้วยรอยยิ้มและแอบมองชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เวลานี้ดูดียิ่งขึ้นที่ไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาแบบที่อยู่มหาลัย เพียงแค่เขาใส่เสื้อยืดสีดำพร้อมกับสร้อยจี้ไม้กางเขนมันดูดีและหล่อเหลือเกิน แบบนี้ไงเธอถึงไปไหนไม่รอดถึงอยากได้เขามาเป็นแฟนนักแฟนหนา