ผู้ชายในอุดมคติ 3

1507 คำ
ผู้ชายในอุดมคติ  “อุ๊ย พี่ชินก็ปากหวานเหมือนกันนะคะเนี่ย” เธอยิ้มเขินและแซวกลับ เตชินยิ้มรับ ไม่ได้พูดอะไรต่อ ดาวิกาจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “เรามาเลือกกระเป๋าให้คุณแม่ของพี่กันดีกว่าค่ะ” “ดีเหมือนกันครับ” เขาพยักหน้าเห็นด้วย เพราะปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อมานานมากแล้ว วันนี้เขามีเวลาว่างไม่มากนัก หากเป็นเพราะสบโอกาสที่หญิงสาวออกมาข้างนอกพอดี ซีอีโอหนุ่มจึงต้องปลีกตัวจากงานมาดำเนินการตามแผนการขั้นแรก ซึ่งก็คือการเข้าหาและสร้างความสนิทสนมกับเหยื่อ ดาวิกากวาดสายตามองกระเป๋าที่ตั้งเรียงรายกันอยู่หลายใบ พลางทำสีหน้าครุ่นคิด ด้วยกระเป๋าแบรนด์นี้สีสันค่อนข้างฉูดฉาด เธอจึงไม่แน่ใจว่าจะเหมาะกับคนมีอายุหรือเปล่า “ไม่มีใบไหนเหมาะกับแม่พี่เลยเหรอครับ” คนตัวสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแอบเร่งนิด ๆ เธอเดินเลือกมานานพอสมควรแล้ว หากยังไม่มีวี่แววว่าหยิบกระเป๋าขึ้นมาเลยสักใบ ...ให้ตายเถอะ เขาลืมคิดไปได้อย่างไรกันว่าการเลือกของกับผู้หญิงมันเป็นของคู่กัน และมันต้องใช้เวลา “เลือกไม่ถูกอะค่ะ เอ่อ...ปกติพี่ชินซื้ออะไรให้ท่านเป็นของขวัญอะคะ จำเป็นไหมว่าต้องเป็นกระเป๋าแบรนด์นี้” เธอถาม เพราะเผื่อมีตัวเลือกอื่นที่เลือกง่ายกว่านี้ “ก็ไม่จำเป็นหรอกครับว่าต้องเป็นกระเป๋า แต่พี่ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรให้ท่าน ก็เลยคิดว่ากระเป๋าน่าจะเหมาะ ทำไมเหรอครับ” “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แต่ดิวกำลังคิดว่าซื้ออย่างอื่นที่ไม่ใช่กระเป๋าดีกว่าไหมคะ ถ้าให้ดิวเดา ดิวคิดว่าท่านต้องมีกระเป๋าเยอะแล้วแน่ ๆ ใช่ไหมคะ” หญิงสาวบอกอย่างคนเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ เพราะคุณย่าของเธอเองก็มีกระเป๋าสะสมหลายใบเช่นกัน และเท่าที่เห็นมารดาของชายหนุ่มผ่านรูปภาพที่เขาเปิดให้ดูก่อนหน้านี้ เธอคิดว่ามารดาของเขาก็น่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบแฟชั่นในระดับหนึ่ง และน่าจะมีกระเป๋าสะสมเอาไว้เยอะแล้ว “อ่า...ใช่ครับ” เตชินพยักหน้าลงอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนัก ด้วยไม่รู้ว่ามารดามีกระเป๋าเยอะอย่างที่หญิงสาวคาดเดาจริงหรือเปล่า หากแต่เขาก็ต้องเออออตามน้ำไปก่อน “แล้วถ้าไม่ซื้อกระเป๋า จะซื้อเป็นอะไรดีครับ น้องดิวพอจะแนะนำให้พี่ได้ไหม” ดาวิกากอดอก ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบคางพลางทำสีหน้าครุ่นคิดว่าควรจะซื้ออะไรเป็นของขวัญดี “เอาเป็นผ้าพันคอดีไหมคะ ดิวรู้จักอยู่แบรนด์นึง คิดว่าเหมาะกับคุณแม่ของพี่ชิน” “ผ้าพันคอเหรอครับ ?” “ใช่ค่ะ” เธอพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น “เราไปดูกันไหมคะ ช็อปอยู่ชั้นนี้พอดีเลย” เตชินก้มมองนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าไม่มีเวลาเหลือพอที่จะไปทำเรื่องไร้สาระกับเธอได้อีกแล้ว เขาจึงแสร้งทำสีหน้าเสียดายแล้วเอ่ยขึ้น “เอ่อ...น้องดิวครับ” “คะ ?” “คือพอดีวันนี้พี่ไม่ค่อยสะดวกแล้ว พี่มีนัดคุยงานต่อ ใกล้จะถึงเวลาแล้วด้วยสิ” “อ้าว งั้นเหรอคะ...” แล้วเธอก็เงียบไป ด้วยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แต่เธอรู้ในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ “ใช่ครับ เป็นนัดสำคัญซะด้วยสิ” ชายหนุ่มทำสีหน้าหนักใจ “อ๋อ ถ้าอย่างนั้นพี่ชินรีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไปสายเอานะคะ ช่วงนี้รถติดด้วย” เธอบอกด้วยความจริงใจ เพราะดูจากเวลาแล้วการจราจรบนถนนตอนนี้คงจะแออัดน่าดูเลย “ครับ เดี๋ยวพี่ต้องไปก่อน” เตชินมองหน้าหญิงสาวอย่างรู้สึกผิด “แต่เรื่องเลือกของขวัญพี่ยังอยากให้น้องดิวช่วยเลือกอยู่นะครับ” “อ๋อ ได้สิคะ” เธอพยักหน้ารับไปก่อน ถึงแม้จะยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกช่วยเขาเลือกได้อย่างไร ก็ในเมื่อเขาจะไปแล้ว “เอาอย่างนี้ไหมครับ ไหน ๆ วันนี้พี่ก็ไม่สะดวกแล้ว ถ้าพี่อยากจะนัดน้องดิวมาช่วยเลือกวันอื่น น้องดิวจะสะดวกไหมครับ” “สะดวกมาก ๆ เลยค่ะ ดิวว่างทุกวันอยู่แล้ว” หญิงสาวรีบบอกอย่างใสซื่อ ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของอีกคน “งั้นพี่ขอคอนแทกต์น้องดิวไว้ติดต่อหน่อยนะครับ” แล้วเขาก็ส่งสมาร์ตโฟนของตัวเองไปให้ ดาวิการับมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองให้อย่างรวดเร็วไม่ได้คิดอะไรมาก เสร็จแล้วก็ยื่นคืนส่งเขาทันที “นี่ค่ะ ถ้าพี่ชินกดบันทึกไปไลน์คงเด้งขึ้นด้วย” “ขอบคุณมากครับ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมรับสมาร์ตโฟนคืนมา แล้วกดบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของเธอ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับเธออีกครั้ง “พี่ต้องไปแล้ว ขอบคุณมากนะครับสำหรับวันนี้ ถ้าพี่ได้วันแล้วพี่จะติดต่อไปหานะ” “ได้เลยค่ะ ยินดีมาก ๆ” เตชินยิ้มกว้าง เก็บสมาร์ตโฟนเข้ากระเป๋ากางเกงตามเดิม โบกมือลาหญิงสาวแล้วหมุนตัวเดินออกมาจากตรงนั้น พร้อมกับรอยยิ้มนั้นที่ค่อย ๆ หุบลง... “เป็นยังไงบ้างครับ” ผู้ช่วยหนุ่มที่ขับรถมารอรับหน้าห้างสรรพสินค้าเอ่ยถามทันทีที่เจ้านายเปิดประตูเข้ามานั่ง เตชินมองคนที่นั่งตำแหน่งคนขับตาขวาง “นายไม่มีแผนอื่นแล้วจริง ๆ เหรอเควิน” เวลาแค่ไม่กี่นาทีที่เขาต้องปั้นหน้ายิ้มคุยเรื่องไร้สาระกับผู้หญิงคนนั้น มันทำให้เขาอึดอัดแทบขาดใจตาย ตั้งแต่เกิดมาจนอายุสามสิบย่างสี่สิบปี เขายังไม่เคยเข้าหาผู้หญิงคนไหนด้วยวิธีปัญญาอ่อนอย่างนี้เลย “ไม่มีแล้วครับ ทางนี้คือทางเดียวที่จะทำให้คุณเตชินได้ที่ดินผืนนั้นมา” เควินแอบขำสีหน้าของผู้เป็นนายเล็กน้อย “แต่ผมว่าเธอก็น่ารักดีนะครับ” “เออ ก็น่ารักดี แต่โง่ไปหน่อย” “ผมว่าเธอไม่ได้โง่หรอกครับ” เควินรู้ดีว่านิยามคำว่าโง่ของเจ้านายหนุ่มหมายความว่าอย่างไร หากแต่เขานั้นคิดต่างกับผู้เป็นนาย การที่ดาวิกาอยู่ว่าง ๆ ไม่ได้ทำงานนั้นเป็นเพราะพี่ชายของเธอไม่ให้ทำ ซึ่งแน่นอนว่าคนว่างย่อมมีความรู้สึกเบื่อ จึงเป็นเรื่องปกติที่เธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตัวเองหายเบื่อ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องโง่หรือไม่โง่เลย แต่เพราะสเปกของเตชินคือผู้หญิงที่สวยและฉลาด รู้ทันคน รู้ทันโลก รู้ทันธุรกิจ สามารถส่งเสริมเขาได้ในทุก ๆ เรื่อง และถ้าผู้หญิงคนไหนสามารถทำให้ธุรกิจเขาเติบโตได้ เขาก็จะให้ความสนใจกับผู้หญิงคนนั้นมากเป็นพิเศษ ซึ่งดาวิกานั้นห่างไกลจากผู้หญิงประเภทนี้ราวฟ้ากับเหว เขาจึงจัดให้เธออยู่ในผู้หญิงประเภทที่โง่ “แล้วจะเอายังไงต่อครับ” ผู้ช่วยคนสนิทถามอีกครั้ง พลางขยับรถไปตามถนนที่สามารถขยับได้เพียงทีละนิด เนื่องจากการจราจรบนท้องถนนที่แสนจะติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน “หมายถึงเรื่องอะไร” “เรื่องคุณดาวิกาครับ คุณเตชินยังจะจีบเธอต่อไหม” “ถ้าไม่จีบต่อ นายมีทางเลือกอื่นให้ฉันหรือไง” ก็เพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว เขาจึงต้องจำใจเข้าหาเธอตามคำแนะนำของลูกน้อง เตชินคิดว่าการเข้าหาผู้หญิงสักคนไม่ใช่เรื่องยาก เขาสามารถทำได้ง่าย ๆ เพราะเพียงแค่เขากระดิกนิ้วเรียก ผู้หญิงไม่มีสมองพวกนั้นก็พร้อมใจสยบแทบเท้าเขากันทุกคนแล้ว ทว่าเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากทำนัก อีกทั้งในกรณีนี้มันต่างกัน เขาเข้าหาดาวิกาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองที่จะได้รับในอนาคต ไม่ได้เข้าหาเพียงเพราะหวังจะทำเรื่องอย่างว่า การกระดิกนิ้วหรือส่งสายตาเรียกจึงใช้ไม่ได้ในกรณีนี้ “ไม่มีแล้วครับ วิธีนี้ดีที่สุด” เควินยิ้มให้ผู้เป็นนายผ่านกระจก พร้อมเคลื่อนรถไปข้างหน้าอีกนิด “อืม งั้นก็ไม่ต้องถามเรื่องนี้ให้ฉันหงุดหงิดอีก” จากนั้นผู้ช่วยหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ปล่อยให้ผู้เป็นนายคลายความหงุดหงิดโดยการนั่งอ่านงานในแท็บเล็ตไปเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงสถานที่นัดหมายที่นัดคู่ค้าทางธุรกิจเอาไว้สำหรับคุยงานในวันนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม