ขาเรียวที่สวมกางเกงยาวเลยเข่าเล็กน้อย ถูกหญ้าบาดจนเป็นริ้วรอยตามขาขาว บางจุดเลือดซึมออกมา ยิ่งโดนเหงื่อก็ยิ่งรู้สึกเจ็บแสบ
ความรู้สึกทั้งหิวทั้งเหนื่อยแทบจะทำให้เป็นลมล้มพับอยู่ตรงนี้ ขาเรียวก้าวมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่คุ้นตาจึงเดินอ้อมมาลูบคลำต้นไม้แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเจอรอยกากบาทที่ตนทำเอาไว้
“วนกลับมาจุดเดิมอีกแล้วเหรอเนี่ย”
แสงแดดจากดวงอาทิตย์ค่อย ๆ หรี่แสงลงบ่งบอกได้ว่าใกล้ถึงเวลาของดวงจันทร์มาแทนที่ คงไม่ใช่การดีแน่ หากผมยังหาทางออกจากป่านี้ไม่ได้
ผมเดินลัดเลาะออกมาพลางปาดเหงื่อ ขาสองข้างมันล้าจนแทบจะล้มพับ สายตากวาดไปรอบ ๆ พลันเห็นแสงไฟริบหรี่อยู่ไม่ไกล
กลับไปให้โดนด่า ยังดีกว่ามาตายในป่าละวะ
เมื่อหมดหนทางผมจึงทำได้เพียงแค่เดินมุ่งหน้าไปที่กลุ่มบ้านคนที่ปลูกเรียงรายกัน
พอมาถึงผมก็ต้องหน้าเจื่อนเมื่อเห็นกลุ่มผู้ชายนั่งถอดเสื้อดื่มยาดองกันหัวเราะเฮฮา ถัดไปอีกคือชบาที่กำลังกุมมือตัวเองแน่น จ้องมองที่ผมด้วยความเป็นห่วง
ชบารีบก้มลงไปเทน้ำใส่แก้วหวังจะวิ่งเอามาส่งให้ผมที่เดินโซซัดโซเซมาด้วยท่าทางอิดโรย แต่ก็ถูกร้องห้ามไว้เสียก่อน
“ไม่ต้อง เอามานี่”
ปลายนิ้วชี้กระดิกเรียกแก้วในมือของชบาให้มาวางที่มือ
คนลำบากใจที่สุดในครั้งนี้คือคนที่ต้องเดินถือแก้วไปส่งให้คนหน้านิ่งอย่างจำยอม
“หิวเหรอ เข้ามากินสิ”
ดวงตาชั่วร้ายจ้องมองมาที่ผมอย่างท้าทาย ผมไม่ได้กลัวที่จะโดนเขาด่าหรือทำร้ายข้อหาคิดหนี แต่ร่างกายที่เดินฝ่าแดดทั้งวันต้องการเพียงน้ำสักแก้วไว้ดับกระหาย
ผมที่เริ่มขาอ่อนแรงเดินตรงไปชิดคนนั่งอยู่บนแคร่พลางเอื้อมมือไปจับลงบนแก้ว แต่ก็ต้องกำหมัดแน่นเพราะน้ำที่ผมกระหายถูกเทลงพื้นต่อหน้าต่อตา
“ทำอะไรวะ!”
ผมรีบก้มลงกอบน้ำที่ซึมตามผิวดินด้วยความสิ้นหวังก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองคนใจร้ายอย่างเดือดดาล
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!”
ความโกรธปนหิวครอบงำจนผมสติหลุด พุ่งเข้าไปกระชากตะกรุดที่คอเขาแรง ๆ จนมันขาดติดมือ ทำเอาบรรดาลูกน้องรีบลุกฮือด้วยความตกใจ
เสือแผนลุกขึ้นพรวดด้วยท่าทางโกรธจัด เขาขบฟันกรามแน่นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นคล้ายพยายามระงับอารมณ์
แต่ผมก็ยังไม่เลิกเป็นหมาบ้า ไม่ฟังเสียงร้องห้ามจากชบาที่ร้องปรามเสียงสั่น
“มึงทำอย่างนี้กับกูได้ไงวะ!! มึงเอากูมาทรมานอย่างกับไม่ใช่คน มึงมันเหี้ย ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน!!”
“มึงว่าไงนะ!”
เสียงกดต่ำเอ่ยออกมาจากแววตาโกรธจัดที่ดูแข็งกร้าว ความเงียบเริ่มปกคลุม ความเจ็บเริ่มแล่นขึ้นเรื่อย ๆ ยามคนขบฟันกรามแน่นบีบข้อมือผมแรง ๆ อย่างไม่ปรานี
“กูถามว่ามึงพูดอะไร!!!”
เสียงตะคอกดังกึกก้องจนสติสตางค์ผมเริ่มกลับมา ความกลัวเพิ่งจะได้ทำหน้าที่ จู่ ๆ เขาก็เดือดพล่านขึ้นมาจนผมใจสั่น วันนี้คงจะได้ตายสมใจหมาย
“พ...พี่แผน ใจเย็น ๆ พี่”
เสียงลูกน้องโพล่งออกมาด้วยความตกใจ สายตาฉ่ำปรือด้วยความเมา บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยดวงตาใสแจ๋ว คงจะได้สร่างเมาก็คราวนี้
ผมถูกกระชากตัวแรง ๆ แล้วลากขึ้นมาบนบ้านจนเจ็บปวดตามข้อแขน
พรึบ แกร๊ก!
ขาของผมถูกลากมายึดติดกับเสากลางบ้านอีกครั้ง คนกระทำก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเพียงขบฟันกรามแน่นจนขึ้นกรอบโครงหน้าชัดเจน ผมที่ทั้งเหนื่อยทั้งหิวทั้งกลัว ทำได้เพียงร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น
“ฮึก”
“มึงอย่ามาสำออย!”
มือหนายื่นเข้ามาบีบแก้มผมแรง ๆ จนปากยู่ ดวงตาแข็งกร้าวบ่งบอกให้ผมรับรู้ว่าผมไม่ควรเถียงหรือต่อต้านอะไรเขาในยามนี้
“สะเหล่อหาเรื่องตาย อยากจะหนีเสือกหนีไม่พ้น!”
เขาออกแรงกดที่มือหนักขึ้นจนน้ำตาผมร่วงหยดแหมะใส่มือที่บีบแก้มอยู่
“มึงจำไว้ให้ดี มึงไม่มีสิทธิ์พูดคำว่ากูไม่มีพ่อแม่สั่งสอน”
แววตาแข็งกร้าวดูสั่นไหวเจือความเจ็บปวด เขาทุบมือชกใส่ต้นเสาแรง ๆ จนผมหลับตาปี๋ ตัวสั่นระริกด้วยความกลัว
“เพราะว่าพ่อมึง...มันเป็นคนฆ่าพ่อแม่กู!!”