ผ่านไปนับชั่วยาม ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลี่เฉียงจำต้องเรียกหว่านหนิงให้หยุดมือจากการปักผ้า “หนิงหนิง เจ้าพักได้แล้ว” “อื้อ” นางเงยหน้าขึ้นมามอง ก็พบว่าแสงสว่างที่นางคิดว่ายังเป็นเวลากลางวัน เกิดจากพลังของฮวาเตี๋ย “พอแล้วฮวาเตี๋ย ขอบใจเจ้ามาก” นางเอื้อมมือไปลูบปีกของฮวาเตี๋ยเบาๆ “เจ้าค่ะนายหญิง” หว่านหนิงนางเดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหาร หลี่เฉียงจึงเก็บของเข้าเรือนให้นาง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเพียงวันเดียว งานปักที่หว่านหนิงนางทำก็พอจะมองออกแล้ว รายละเอียดโต๊ะกินข้าว ภายในห้องโถงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ตัวมารดาและเด็กน้อยเท่านั้น “เจ้าเหนื่อยมากหรือไม่” หลี่เฉียงเอ่ยถามนางอย่างเป็นห่วง ตัวเขาที่คัดอักษรสิบแผ่นยังรู้สึกปวดข้อมือไม่น้อย “ไม่เลย แปลกนัก” หว่านหนิงนางก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกัน เหมือนว่านางเพียงแค่ก้มหน้าลงไปปักผ้าได้ไม่นาน พอเงยหน้าขึ้นมาก็มืดเสียแล้ว “เป็นเพราะพลังของข้า