มันไม่ดิ้นเลยแฮะ

1435 คำ
ตั้งแต่ที่นางสุ่ยซื่อคลอดหานเจิ้งออกมา เขาก็มักจะถูกละเลยปล่อยให้อยู่ในห้องเพียงลำพังผู้เดียวเสมอเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ฝังใจเขาไม่น้อย จนต้องทำตัวเรียกร้องความสนใจเพื่อให้ทุกคนกลับมาสนใจเขา นิสัยเช่นนี้ติดตัวหลี่เฉียงมาจนโต ท่าทางที่เชื่อฟังของหลี่เฉียงทำให้หว่านหนิงถอนหายใจออกมาอย่างเห็นใจ เขาในยามนี้มีอายุสิบเก้าปี คงจะพอสั่งสอนได้อยู่ หากอยู่ในภพนางก็ยังนับว่าเป็นเด็กอยู่ แต่ในภพนี้กลับแต่งงานมีครอบครัวเสียแล้ว “ระวังตัวด้วยเล่า ได้มากได้น้อยก็สมควรรีบกลับมา” นางเอ่ยเตือนเขา เมื่อเห็นเขารีบร้อนเดินออกไป หว่านหนิงลุกขึ้นนั่งที่ปลายเตียง นางคิดถึงลำธารที่อยู่ด้านหลังเรือน คงจะมีปลาให้นางจับมาทำอาหารได้สักตัว แต่นางจะจับปลาได้อย่างไรเล่า เรื่องนี้นางไม่เคยทำมาก่อน สุดท้ายนางก็ยังคงเดินออกไปด้านนอกหากมัวแต่นั่งอยู่ในห้องก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด ยังดีที่เมื่อคืนนางนวดที่ข้อเท้าวันนี้จึงไม่ได้ปวดมากเช่นเมื่อวาน แต่หว่านหนิงก็ยังไม่กล้าลงน้ำหนักไปที่เท้าข้างที่บาดเจ็บมากนัก นางค่อยๆ ใช้ไปพยุงตัวเดินไปที่ลำธาร ด้านหลังของนางยังมีตะกร้ามาด้วยอีกหนึ่งใบ เพื่อสวรรค์จะเมตตาให้นางจับปลาได้สักตัวจะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมาให้เสียเวลา หว่านหนิงวงตะกร้าลง นางเดินไปที่ริมลำธารเพื่อดูจะล้อมหลุมจับปลาได้หรือไม่ “เจ้าปลาอวบอ้วนประเดี๋ยวข้าจะจับขึ้นมาให้หมด” นางมองปลาที่ว่ายล่อตานางอย่างมันเขี้ยว นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดชาวบ้านถึงไม่มาจับปลาไปกินกัน ที่เห็นๆ อยู่อย่างน้อยก็ต้องมีถึงสิบตัวได้ หว่านหนิงนั่งย่องๆ ลงตรงริมธารนางลองใช้มือของนางจับไปที่ตัวปลาที่แสนเชื่องก่อน (ก็เผื่อมันจะจับง่าย) “อ๊ะ” น่าแปลกหากเป็นปกติปลามันต้องว่ายหนีไม่ใช่รึ หรือว่าปลาในลำธารเชื่องไม่กลัวคนจะจับมันไปกิน “มันไม่ดิ้นเลยแฮะ” นางมองปลาที่อยู่ในมือของมึนงง เพราะมันกระโดดเข้ามาอยู่ในมือของหว่านหนิงอย่างง่าย พอจับตัวแรกได้แล้วลองจับตัวที่สองก็พบว่ามันก็ไม่ติดเช่นเดิมและให้นางจับได้อย่างว่าง่าย เพียงครึ่งเค่อปลานับสิบตัวก็ลงมาอยู่ในตะกร้าของนาง หว่านหนิงแบกกลับไม่ไหว นางต้องลากตะกร้ากลับไปที่เรือน ยังดีที่เรือนอยู่ไม่ห่างจากลำธารไม่เช่นนั้นนางคงได้ลากจนแขนหลุดแน่ ระหว่างทางที่กำลังลากตะกร้ากลับเรือน ป้าตู้ที่อยู่เรือนด้านข้างนางกำลังมาซักผ้าพอดี จึงเอ่ยถามหว่านหนิง “อาหนิง เจ้ากำลังลากอันใด” ป้าตู้เดินเข้ามาดูอย่างสนใจ “ปลาเจ้าค่ะ” นางจำไม่ได้ว่าสตรีวัยกลางคนที่เรียกนางคือใคร แต่ก็เอ่ยตอบตามมารยาท “หา เจ้าจับปลาได้เช่นนั้นรึ” นางเร่งฝีเท้าเดินมาดูอย่างไม่เชื่อในคำของหว่านหนิง “เจ้าค่ะ ข้าจับมันได้” นางมองป้าตู้อย่างไม่เข้าใจ แต่ก่อนที่จะเอ่ยถามนางจึงได้รู้ว่าเหตุใดป้าตู้ต้องตกใจมากเพียงนี้ “สวรรค์ เจ้าจับได้อย่างไร ปลาในลำธารล้วนแต่ว่ายไวนัก ไม่มีผู้ใดที่จับมันได้” หว่านหนิงดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อ ปลามันกระโดดเข้ามือของนางเองแท้ๆ จะบอกว่าจับยากได้อย่างไร “เอ่อ ข้าคงโชคดี” นางหัวเราะแห้งออกมา หากพูดออกไปก็คงไม่มีผู้ใดเชื่อ “แล้วเจ้าจะกินหมดรึ ขายให้ข้าสักตัวได้หรือไม่” ป้าตู้มองปลาที่อยู่ในตะกร้าด้วยดวงตาเป็นประกาย มีแต่เหลาอาหารที่อยู่ในเมืองเท่านั้นถึงจะมีปลาสดเช่นนี้ขายให้ลูกค้าที่มากินอาหาร หากไปซื้อที่ตลาดก็จะเจอแต่ปลาที่ตายแล้ว “ขะ ขาย ขายเจ้าค่ะ ท่านจะซื้อเท่าใด กี่ตัวเจ้าคะ” นางเอ่ยพูดออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าป้าตู้จะเปลี่ยนใจ “เอาเช่นนี้ ข้ารู้ว่าเจ้าจับมาไม่ง่ายหนัก ข้าให้ตัวละสามสิบอิแปะก็แล้วกัน เจ้าอย่าได้ว่าข้าเลย เงินข้าก็มีไม่มากนัก หากเจ้านำไปขายในเมืองก็คงได้ไม่น้อยกว่าหกสิบอิแปะ” ป้าตู้เอ่ยออกมาอย่างจริงใจ ในคำพูดของนางไม่มีคำใดที่พูดปด หากหว่านหนิงนางนำไปขายในเมืองต้องได้ไม่น้อยกว่าจิน (1จิน=500กรัม) ละหกสิบถึงแปดสิบอิแปะ แต่นี่ต้องขายในหมู่บ้านไม่ต้องเดินไปไกลถึงสองชั่วยาม “ได้ ได้ เจ้าค่ะ ท่านป้าต้องการกี่ตัว” ตอนนี้นางต้องการเงิน ไม่ว่าเท่าไหร่นางก็เอาไว้ก่อน “สองตัวก็แล้วกัน ประเดี๋ยวตามข้าไปที่เรือน ข้ามิได้นำเงินติดตัวมาได้” “ได้เจ้าค่ะ” นางยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ ป้าตู้อดจะเอ็นดูหว่านหนิงไม่ได้ เพราะรู้ดีว่านางกับหลี่เฉียงถูกส่งมาอยู่ที่นี่ด้วยเรื่องอะไร เป็นเพราะเรือนอยู่ใกล้กันนางจึงได้ยินเสียงของทั้งสองทะเลาะกันแทบจะทุกวัน คงมีสองสามวันมานี้ที่ไม่ค่อยจะได้ยิน หลังจากที่หว่านหนิงนางตกเขา หว่านหนิงมีแรงลากปลากลับไปที่เรือนของนางทันที ก่อนจะนำปลาสองตัวใส่ลงตะกร้าใบเล็กแล้วเดินไปที่เรือนตระกูลตู้ “ท่านป้า ท่านป้า ข้านำปลามาส่งเจ้าค่ะ” นางตะโกนร้องบอกอยู่ที่หน้าเรือน ไม่นานก็มีบุรุษหนุ่มวัยเดียวกับหลี่เฉียงเดินออกมาเปิดประตูเรือน ตู้ลู่จื้อ มองนางอย่างแปลกใจ เขาพอจะได้ยินเรื่องของสองสามีภรรยาแซ่หลี่ที่มาอยู่ได้ไม่กี่วันมาบ้าง วันแรกๆ ที่หว่านหนิงนางมาถึงยังมองเขาด้วยสายตายั่วยวนอยู่เลย แต่วันนี้นางช่างแตกต่างเหมือนลืมไปแล้วว่าเคยยั่วยวนเขามาก่อน “เจ้ามาที่เรือนข้าทำไม” เขาเอ่ยเสียงเย็นถามนาง หว่านหนิงตกตะลึงไม่น้อย นางยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย ทำไมน้ำเสียงที่พูดกับนางถึงดูไม่พอใจมากเพียงนี้ หว่านหนิงเก็บรอยยิ้มของนางกลับมาทันที พร้อมทั้งเอ่ยถามเสียงเรียบตอบกลับไป “ข้านำปลามาให้ท่านป้าเจ้าค่ะ นางกลับมาแล้วหรือยัง” แต่ก่อนที่ตู้ลู่จื้อจะเอ่ยตอบคำถามนาง เสียงโวยวายของหลี่เฉียงที่กำลังเดินกลับเรือนก็ร้องขึ้นเสียก่อน “พวกเจ้าทำอันใดกัน” เขาเดินเข้ามาคั่นอยู่ตรงกลางระหว่างสองคน ตู้ลู่จื้อกับหว่านหนิงรีบถอยห่างจากตัวเขา เพราะเนื้อตัวทั้งเละดินโคลน ทั้งส่งกลิ่นเหม็นออกมาไม่น้อย “แล้วเจ้าไปทำอันใดมาถึงได้มีสภาพเช่นนี้” หว่านหนิงมองสำรวจเนื้อตัวของหลี่เฉียงอย่างสงสัย เขาดูไม่เหมือนขึ้นเขาไปหาของป่า ดูเหมือนว่าไปเล่นดินเล่นโคลนมาเสียมากกว่า “เรื่องของข้าค่อยว่ากัน เจ้ามาที่เรือนตระกูลตู้เพื่ออันใด” เขาเอ่ยถามนางอย่างไม่พอใจ เพราะคิดว่าหว่านหนิงกำลังคิดจะยั่วยวนบุรุษอื่น ตอนที่มาถึงเหตุใดเขาจะไม่รู้ว่านางมองตู้ลู่จื้อเช่นไร “ท่านป้าตู้ให้ข้านำปลามาส่ง” นางยกตะกร้าขึ้นให้เขาดู “เจ้าจับปลาได้อย่างไร!!!” เขาร้องถามออกมาเสียงดัง “ประเดี๋ยวค่อยคุย เจ้าหลีกไปก่อน ข้าจะขายปลา” นางใช้นิ้วดันตัวเขาให้หลบไปอยู่ด้านข้าง ท่าทางเช่นนี้ผู้ใดดูก็รู้ว่ารังเกียจผู้เป็นสามีมากเพียงใด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม