แต่ที่หว่านหนิงนางแทบจะกระอักเลือดออกมาหลังจากนั้น เมื่อหลี่เฉียงล้างตัวเรียบร้อย เขาหอบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วทั้งหมดของเขามาให้นางนำไปซักด้วย
“หลี่ เฉียง!!!” เขาไม่อยู่รอให้หว่านหนิงนางด่าทอ นางจึงเห็นแค่ชายเสื้อของเขาที่รีบหนีตัวปลิวออกไปด้านนอกแทน
นางเดินออกมาดูด้านนอกแต่ก็ไม่พบตัวของเขาเสียแล้ว หว่านหนิงจึงได้เดินสำรวจไปด้านหลังของเรือน ยังดีที่ส่วนด้านหลังมีลำธารไหลผ่าน นางไม่ต้องเดินหอบผ้าไปซักที่แม่น้ำเช่นคนอื่น
“แล้วจะใช้อะไรซัก” หว่านหนิงเกาหัวอย่างมึนงง
สายตาของนางเหลือบไปเห็นต้นตั๊กแตนผึ้งจีนที่อยู่ติดกับลำธาร หว่านหนิงจึงได้เก็บฝักจ้าวเจี่ยวแก่ที่หล่นอยู่ใต้ต้นของมัน มาลอกเปลือกกับเมล็ดออก เหลือเพียงส่วนเนื้อสีขาวมาซักผ้า
“หึหึ หากไม่มีความรู้ติดตัวมาบ้าง คงได้ลำบากตาย”
กองผ้าที่มีจำนวนไม่น้อย ทั้งความสกปรกและกลิ่นเหม็นที่สะสมมาหลายวัน กว่าหว่านหนิงนางจะซักทั้งกองเสร็จก็เกือบสองชั่วยามเลยทีเดียว
“เสร็จสักที” นางลุกขึ้นยืนบิดเนื้อบิดตัว
ข้อเท้าข้างที่บาดเจ็บเริ่มปูดบวมอย่างน่ากลัว นางทำงานทั้งวันไม่ได้หยุดพัก โดยที่หลี่เฉียงก็ไม่รู้ว่าหายหัวไปอยู่ที่ไหน หว่านหนิงต้องเดินไปกลับริมลำธารกับเรือนของนางถึงห้ารอบกว่าจะนำผ้าทั้งหมดไปตากที่ลานเสร็จเรียบร้อย
กว่าจะได้อาบน้ำก็ต้องรอต้มน้ำใหม่อีกรอบแล้ว ตอนที่นางจะเข้าไปนอนพัก หลี่เฉียงก็ไม่มีท่าทีจะโผล่หน้ากลับมา
“ไปที่ใดกัน” หว่านหนิงเหมือนจะคิดอะไรได้ นางรีบไปค้นที่หีบใส่ของที่นางนำถุงเงินที่ยึดมาได้จากหลี่เฉียงมาเก็บไว้ทันที
“หลี่ เฉียง!!!” นางกรีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อด้านในหีบไม่มีถุงเงินใบนั้นอีกแล้ว
หว่านหนิงหมดสิ้นเรี่ยวแรงทันที นางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยสภาพที่ไร้วิญญาณ
“สวรรค์ ท่านใจร้ายกับข้านัก” นางไม่รู้ว่าตั้งแต่มาถึงที่นี่ได้เพียงวันเดียว นางเสียน้ำตาไปกี่ครั้งกันแล้ว
นางปาดน้ำตาทิ้งอย่างไม่ไยดี ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำตัวเช่นเดิม แม้จะรู้ดีว่าในเรือนเหลือเงินเพียงแค่ยี่สิบอิแปะเท่านั้น นางก็คงไม่มีทางเลือกอื่น
หากหายดีเมื่อใด นางคงต้องหาหนทางย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แล้วตัดขาดกับบุรุษเช่นหลี่เฉียงเสีย
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หว่านหนิงนางก็นอนพักทันที ความเหนื่อยล้าจากการเก็บกวาดเรือน ทั้งยังสภาพจิตใจที่บอบช้ำ ทำให้นางหลับสนิทแทบจะในทันทีที่ล้มตัวนอน
หลี่เฉียงที่นางคิดว่าเขาอยู่หอพนัน ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขานำเงินที่เหลือเพียงยี่สิบอิแปะมาเสี่ยงโชค เพราะคิดว่าหากได้เงินมาสักก้อนเขาจะนำไปลงทุนค้าขายและคิดจะเลิกเล่นพนันเสียที
จากที่เล่นน้ำตาของหว่านหนิงและการที่นางลุกขึ้นมาทำงานอย่างหนัก ทำให้เขาเริ่มพอจะคิดได้ แต่ก็เพียงแค่เริ่มจะคิดได้เท่านั้น
หึ เงินยี่สิบอิแปะจะเล่นได้นานเพียงใด หมูในอวยเช่นหลี่เฉียงมีแต่จะถูกต้มกินเสียมากกว่า เข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งเค่อเงินในมือก็หมดลงเสียแล้ว
แต่อย่างน้อยทางหอพนันก็ไม่ปล่อยกู้ให้กับเขา เพราะรู้ดีว่าหลี่เฉียงที่เป็นคุณชายตกยากมิอาจจะหาเงินมาคืนทางหอพนันได้อย่างแน่นอน
เขากลับมาที่เรือนอีกครั้งหลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว หลี่เฉียงไม่มีความรู้สึกผิดที่นำเงินก้อนสุดท้ายในเรือนไปละลายในหอพนัน เนื้อตัวของเขามีแต่กลิ่นสุรา
เพียงแค่เปิดประตูห้องเข้ามาหว่านหนิงนางก็รู้สึกตัวตื่นแล้ว ในตอนแรกนางก็ยังหวาดกลัวคิดว่าเป็นโจร แต่เมื่อได้กลิ่นสุรานำหน้ามาก่อน นางจึงได้รู้ว่านี่คือสามีในนามของนางนั้นเอง
“ออกไปนอนที่อื่น” เสียงเย็นของหว่านหนิงเอ่ยขึ้น ทำให้หลี่เฉียงทีย่องเข้ามาสะดุ้งตกใจจนเกือบจะร้องออกมา
“เจ้ายังมินอนรึ” เขาเอ่ยถามนางเสียงเบา
“ออกไปจากห้องข้า” นางไม่แม้แต่จะหันมามองให้เสียอารมณ์ไปมากกว่านี้
“หึ ห้องเจ้าอันใดกัน เรือนนี้เป็นของท่านยายข้า ก็ต้องเป็นเรือนของข้า”
หว่านหนิงลืมตาขึ้น ดวงตาของนางสว่างวาบไปด้วยโทสะ ใช่ มันเรือนของเขา หลี่เฉียงพูดถูก
“ท่านจะนอนที่นี่ใช่หรือไม่” นางลุกขึ้นมานั่งแล้วเอ่ยถามออกมา
แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ทำให้หลี่เฉียงมองเห็นแววตาของนางที่เย็นชาจนน่าขนลุก เขาเผลอลูบขนแขนที่ตั้งชันของตนเอง ก่อนจะทำใจกล้าเอ่ยออกมา
“ใช่ ข้าจะนอนในห้องของข้า”
“ได้ เช่นนั้นท่านก็นอนไปเสีย” หว่านหนิงลุกขึ้น เก็บผ้าห่มหมอนออกไปทันที
“จะ เจ้า นำผ้าห่มไปแล้วข้าจะใช้สิ่งใด”
หว่านหนิงนางไม่ตอบคำถามเขา แต่ปิดประตูห้องที่อยู่ด้านข้างเสียงดังเป็นคำตอบแทน
เหมือนนางจะมีญาณรู้ล่วงหน้า เมื่อตอนเย็นนางเก็บห้องด้านข้างทำความสะอาดไว้ เพื่อให้เขาได้เข้าไปนอน ตอนนี้นางเพียงแค่นำหมอนผ้าห่มมาก็นอนได้เลยในทันที
หว่านหนิงเม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด พรุ่งนี้นางจะกินอันใด ในเมื่อวันนี้ข้าวสารกับหัวมันที่มี นางกินมันไปในมื้อเย็นหมดเรียบร้อยแล้ว
เสียงสบถของหลี่เฉียงที่อยู่ห้องด้านข้างยังดังไม่หยุดหย่อน แต่หว่านหนิงนางไม่คิดที่จะสนใจลุกขึ้นไปดู แม้ตัวเขาจะเริ่มขว้างปาข้าวของบ้างแล้วก็ตาม
“ไม่ใช่ของของข้า อยากทำลายก็เชิญ” มันเป็นเช่นที่เขาพูด ของทุกสิ่งที่อยู่ภายในเรือนล้วนแต่เป็นข้าวของของเขา
หว่านหนิงข่มตาให้หลับลงอีกครั้ง วันพรุ่งนี้นางยังคงมีเรื่องให้ครุ่นคิดอีกเยอะ จะมาใส่ใจกับเรื่องของบุรุษไร้ค่าเช่นหลี่เฉียง นางคงได้ตายลงอีกรอบในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
หลี่เฉียงที่นอนอยู่อีกห้อง เขานอนลงบนเตียงที่ไร้ซึ่งผ้าห่ม อากาศยามค่ำคืนที่หนาวเหน็บเขาทำได้เพียงแค่นอนกอดตัวเองและขดตัวอยู่ที่บนเตียง
ปากก็พึมพำก่นด่าหว่านหนิงกับความใจดำของนางที่ทิ้งให้เขาต้องนอนผู้เดียว ทั้งยังนำผ้าห่มที่เหลืออยู่ผืนสุดท้ายไปนอนอีกห้องหนึ่งด้วย
“หรือว่านางรู้เรื่องที่ข้าขโมยถุงเงินไปแล้ว” หลี่เฉียงดีดตัวขึ้นมานั่งอยู่ที่เตียง
“เหอะ แล้วเช่นไร เงินของข้าจะนำไปใช้เรื่องใดก็ย่อมได้” เขาจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่ท้องเจ้ากรรมมันดังร้องขึ้นมาเสียก่อน
วันนี้เขาเข้าไปเล่นที่หอพนันได้เพียงไม่นาน ทางหอพนันจึงไม่ยอมให้เขากินข้าวเช่นเดิม หลี่เฉียงต้องแบกท้องที่หิวโหยกลับมาที่เรือน แต่เพราะทะเลาะกับหว่านหนิงเสียก่อนเขาจึงลืมไปว่าตนยังไม่ได้กินข้าว
แต่มาตอนนี้ที่เขาหายโมโหแล้ว ท้องเจ้ากรรมมันยังไม่ลืมว่ายังไม่มีสิ่งใดตกลงท้อง