3 พนักงานบัญชีฉบับตัวลูก

1355 คำ
ช่วงของเจินการละครผ่านพ้นไป สุดท้ายเจ้าของไร่ก็ตัดสินใจรับเข้าทำงาน ประการทั้งปวงก็เพราะพี่ชายขู่เข็ญอย่างหนัก จนไร้ทางเลือกต้องยอมจำใจให้อีกฝ่ายพักด้วย ช่างเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่ดี บ้านสองชั้นสไตล์เนเชอรัลถูกสร้างกลางป่าเขา โอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้ บรรยากาศชวนให้ผ่อนคลาย เหมาะแก่การพักใจเป็นอย่างดี ร่างสูงเดินนำไปยังห้องรับแขก ที่มีเครื่องเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ปกติเฮียสิงห์จะนอนพักห้องนี้เวลาแวะเวียนมาหาน้องชาย นอกจากนั้นบ้านทั้งหลังก็มีแค่เขาที่อยู่คนเดียว “ห้องนี้ไม่มีคนใช้ ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าขึ้นไปชั้นสอง” “ซ่อนสาวไว้เหรอคะถึงขึ้นไปไม่ได้” “มารยาท” เจ้าของใบหน้าสวยหวานหัวเราะประชดประชัน ก่อนจะหุบยิ้มฉับแล้วบุ้ยปากใส่เชิงกวนประสาทใส่ ถึงจะพูดจาสุนัขไม่รับประทาน แต่เฮียเสือไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนักหรอก แค่หยาบกระด้างขึ้นกว่าเก่าหลังอกหัก รักมากก็เจ็บมากเป็นธรรมดา.. ร่างสูงที่สวมเสื้อแขนกุดสีดำยืนพิงขอบประตู มองคนเด็กกว่าที่กระโดดเป็นลิงโลดดีใจแล้วยกมือขึ้นเกาหัวแกรก ชีวิตที่สงบสุขของไอ้เสือพังไม่เป็นท่าแล้ว “ขาดเหลืออะไรก็บอก ไปละ” ร่างบางหันขวับกลับไปมองเฮียเสือ ก่อนจะเอ่ยปากเรียกรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ดั่งใจนึก “เฮียเสือ” “อะไร” “เรื่องพี่ยาหยีเจินขอโทษนะ” คราวนี้ไม่มีการหยอกล้อแต่อย่างใด เจินกำลังขอโทษเขาจากใจจริงเพราะยังรู้สึกผิดอยู่ ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานถึงสามปีแล้วก็ตาม นัยน์ตาสีเข้มนิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ พลางเพยิดหน้ารับอย่างไม่ใส่ใจมากนักที่จะคุยต่อ “ช่างเถอะ มันผ่านไปแล้ว” “ขอบคุณที่ให้เจินอยู่ด้วยนะ สัญญาจะเป็นเด็กดีค่ะ” เสือแค่นหัวเราะในลำคอ เพราะรู้ว่ายังไงเด็กแก่นอย่างเจินก็ไม่มีทางทำตัวดีได้นาน ไม่วายหาเรื่องมาให้ปวดหัวไม่พักอย่างแน่นอน “อืม แค่อย่าส่งเสียงเหมือนนกแร้งก็พอ” “เฮียเสืออ่า” พอร่างสูงเดินไกลออกไปจนลับสายตา เธอก็เดินไปปิดประตูห้องแล้วหันมาลอบถอนหายใจอย่างอ่อนแรง กลับบ้านไร่เพราะชีวิตในเมืองไปไม่รอด หากมีคนที่รู้จักเธอเห็นเข้าคงได้ซุบซิบนินทากันให้แซ่ด ครั้นจะให้ทนอยู่เมืองกรุงต่อไป หัวใจก็พลอยจะห่อเหี่ยวเสียเปล่า เธอไม่ได้เป็นคนผูกเงื่อนให้เป็นปมสักหน่อย ใครเป็นคนริเริ่มคนนั้นก็ต้องคลายเองสิ ช่างเถอะ คิดมากไปหน้าแก่เกินวัยโดยใช่เหตุ แค่ได้กลับมาเจอเฮียเสือก็เกินฝันแล้ว.. “คิก เฮียเสือยังกล้ามโตเหมือนเดิมเลยอ่า” สาวเจ้าปิดปากหัวเราะคิกคักชอบใจ ถึงจะห่างหายหน้ากันไปนาน แต่ความรู้สึกที่มีให้กับคนแก่กว่ายังเหมือนเดิม ยังคงเป็นเฮียเสือที่ทำให้ใจสั่นเสมอมา บอกแล้วไง.. ถ้าเฮียเสือยังโสดเธอก็จะทำให้เขาเป็นของเธอ ยามรุ่งเช้าของอีกวันมาเยือน เจินที่นอนกระสับกระส่ายทั้งคืนเพราะตื่นเต้น ก็ลุกขึ้นมานั่งแต่งหน้าลอนผมตั้งแต่เช้าตรู่ เริ่มงานวันแรกต้องเอาให้จึ้ง พอแต่งองค์ทรงเครื่องครบชุด เธอก็หยิบกระเป๋าราคาแพงขึ้นมาสะพาย หมุนตัวอยู่หน้ากระจกสองสามทีก็ได้ฤกษ์ออกจากบ้านพอดี “เฮียเสือขา หนูเจินมาแล้วค่ะ” “จะตะโกนแข่งกับนกกาเหรอ” เจ้าของบ้านที่ยืนรดน้ำต้นไม้ทำเสียงดุ ท่ามกลางเสียงนกกาที่ร้องขับขานในยามเช้า เป็นเหมือนนาฬิกาปลุกชั้นดี มุมปากหญิงสาวกระตุกยิก อุตส่าห์พูดจาออดอ้อนเสียงหวาน แต่กลับโดนเอาไปเปรียบเทียบกับนกกาเฉยเลย พ่อเลี้ยงเสือนี่กระด้างไม่เปลี่ยน สุรารักษ์เป็นชื่อจริงของเฮียเสือ นำมาตั้งชื่อไร่เพื่อให้จำง่ายแล้วก็สะดวกต่อการใช้งาน แน่นอนว่าคนทั้งตำบลรู้จักไร่ที่นี่กันทั้งนั้น เฮียเสือที่หันมาเจอคนตัวเล็ก ถึงกับขมวดคิ้วมุ่นแต่เช้าของวัน สายตาไล่มองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า “แล้วแต่งตัวจะไปไหน” “ไปทำงานไงคะ” “ชุดเนี้ย” “OOTD ของวันนี้แบบใหม่แบบสับ ไม่จึ้งใจเฮียหน่อยเหรอคะเฮียเสือ หือ” ไม่พูดเปล่าร่างบางยังหมุนตัวเป็นวงกลม ในชุดเสื้อเกาะอกสีดำด้านใน ทับด้วยเสื้อเบลเซอร์ตัวโคร่งด้านนอก ช่วงล่างสวมกางเกงผ้านุ่มทรงสูงกับรองเท้าส้นสูงหนึ่งนิ้ว เจินจีรญาพร้อมทำงานแล้วแบบเต็มกำลัง “โอ.. อะไรของเธอ” เขาทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก เด็กสมัยนี้พูดคำสร้อยที่ไม่ค่อยเข้าใจอยู่เรื่อย หรือเขาแก่เกินกว่าจะเข้าใจก็ไม่รู้ “OOTD มาจาก OUTFIT OF THE DAY ไงคะเฮียเสือ” ใบหน้าคมคายระบายลมหายใจ มือถือสายยางรดน้ำต้นไม้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เธอพูด แค่รับฟังไว้เพียงเท่านั้น “ฉันคุยกับคนที่ออฟฟิศไว้แล้ว ไปแนะนำตัวเอาแล้วกัน” “รับทราบค่ะ ขอบคุณนะเฮียเสือ” “จักรยานปั่นไปทำงานเอา” ครั้นจะก้าวเดินออกจากบ้านด้วยสีหน้ามาดมั่น พลันต้องหยุดชะงักงันทันที ที่เห็นจักรยานคันสีน้ำตาลมีตะกร้าจักสานจอดอยู่ด้านหน้า ชีวิตนี้เจินจีรญาทำได้ทุกอย่างเลย ยกเว้นปั่นจักรยาน.. “เจินปั่นจักรยานไม่เป็น” “โตเป็นควา..” “เป็นอะไรคะ น้องวัวหรือน้องควายเอ่ย” ไม่รอให้เฮียเสือพูดเหน็บ เจินก็พูดแทรกแล้วยักคิ้วใส่ ไม่ทันถึงอาทิตย์ก็แผลงฤทธิ์ความแสบให้เห็นแล้ว ดูทรงคงมีเรื่องให้ปวดหัวไม่เว้นวัน “สมัยนี้ควายน่ารักจะตาย ด่าว่าควายก็ไม่เจ็บหรอกจ้า” “งั้นก็เดินไป ช้าหน่อยแต่ถึงเหมือนกัน” “ถ้างั้นเจินไปก่อนนะคะเฮียเสือ ไหว้ลาค่ะ” คนตัวเล็กสะบัดหน้าหนีไม่คิดจะง้อ ปั่นจักรยานไม่เป็นเดินเท้าเอาก็ไม่แย่ ฤกษ์การทำงานวันแรกอย่าให้อะไรมาทำให้อารมณ์เสียได้ แต่แล้ว.. คนที่เดินมาทำงานหอบแฮ่กลิ้นห้อย แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าคนในออฟฟิศของสุรารักษ์ เจินก็ยิ้มหวานแสดงท่าทีที่เป็นมิตรพร้อมแนะนำตัวอย่างกระฉับกระเฉง เปลี่ยนใจหัดปั่นจักรยานดีกว่ามั้ง “สวัสดีค่ะ ชื่อเจินนะคะฝ่ายบัญชี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” คนอายุน้อยยกมือไหว้รุ่นพี่ในออฟฟิศ ซึ่งทุกคนก็แค่พยักหน้ารับฟัง ก่อนจะหันไปทำงานของตัวเองต่อ ทว่ากลับมีหญิงสาวหน้าสวยเดินตรงเข้ามาหาเจิน “เพิ่งรู้ว่าพนักงานใหม่ออฟฟิศเราน่ารักขนาดนี้” เธอเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าดูเป็นมิตร “ขอบคุณค่ะพี่คนสวย” เจินยิ้มหวานส่งกลับไปให้ ทำเอาอีกฝ่ายยิ้มเขินอย่างนึกเอ็นดูกับคนปากหวาน เพิ่งรู้ว่าออฟฟิศของเฮียเสือ มีรุ่นพี่หน้าตาดีอยู่ในบริษัทด้วย ถ้ามีกัลยาณมิตรสักคนใกล้ตัวก็ดีเหมือนกัน “พี่ชื่อพิมดาวนะ อยู่ฝ่ายการตลาด” “โอเคค่ะพี่ดาว น้องชื่อเจินนะคะ” ทั้งสองพลัดเปลี่ยนกันแนะนำตัว ก่อนพิมดาวจะผายมือไปที่ชั้นขนมกรุบกรอบด้านหลัง “ขนมบนชั้นกินได้หมดเลยนะ” “ได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ดาว” “งั้นพี่ไปละ ตั้งใจทำงานล่ะน้องเจิน” พิมดาวยกมือขึ้นตบบ่าเจิน ก่อนจะเดินกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนพนักงานใหม่ก็เดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะเช่นกัน เริ่มต้นใหม่ไร่ที่สุรารักษ์ สู้เขาสิวะเจินจีรญา..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม