หย่า

2216 คำ
2 หย่า  แกะน้อยท่ามกลางวงล้อมของคนต่างพวกพยายามเข้มแข็งอย่างที่สุด ไม่อยากให้พวกเขาเห็นน้ำตาอันน่าสมเพช แต่ยิ่งกลั้นก็ยิ่งไหล แก้วมุกดารีบปัดทิ้งพร้อมเชิดหน้าขึ้นสู้ “ได้ค่ะ หย่าก็หย่า พร้อมอยู่แล้ว” แม้เสียงเครือสั่นแต่แววตาแน่วแน่ มือบางจับกระเป๋าที่สะพายคาดไหล่ซึ่งด้านในซ่อนสิ่งของบางอย่างไว้… บางอย่างที่เป็นดั่งการเติมเต็มชีวิตคู่ให้สมบูรณ์ ตลอดสามเดือนหลังแต่งงานพันแสงขอมีทายาทกับเธอ และวันนี้ความปรารถนาของเขาก็สัมฤทธิ์ผล แต่ช่างมันเถอะ จบไว้เท่านี้แหละ “ไม่! ผมไม่หย่า พ่อจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้ บังคับให้แต่งงาน ผมก็แต่งให้แล้ว พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตที่ว่างเปล่ามาตลอด และพอผมรักเธอพ่อก็จะพรากจากไปง่ายๆ อย่างนี้เหรอ” “แกนี่มันใจง่ายกว่าที่ฉันคิดอีกนะซัน โสดมาตั้งกี่สิบปี แต่มาตกม้าตายแค่สามเดือนที่เจอผู้หญิงคนนี้ และในเมื่อฉันบังคับให้แกแต่งงาน งั้นฉันก็ขอบังคับให้แกหย่ากับเมียซะ ก่อนที่เธอจะพาตระกูลเราเสื่อมเสียไปมากกว่านี้” “เห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไม่คิดเลยว่าสามีที่อยู่กันมากว่าครึ่งชีวิตจะเลวร้ายได้ขนาดนี้” รำไพพรรณตะเบ็งเสียงเข้าสู้ เธอรับไม่ได้กับการที่ภาณุบังคับให้ลูกหย่าร้าง ทั้งสองคนกำลังปลูกต้นรักที่เริ่มมาจากการแต่งงานอย่างฝืนใจ ในขณะที่ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี แต่คนเป็นพ่อกล้าดีอย่างไรถึงทำร้ายจิตใจเด็กได้ขนาดนี้ “คุณอย่าไปแคร์อะไรนักเลย มันไม่ได้รักกันหรอก เวลาแค่สามเดือนที่อยู่ด้วยกันมันคือความใคร่ แค่หวั่นไหวชั่ววูบ พอเลิกกันเดี๋ยวก็ต่างคนต่างมีใหม่” “คุณเองก็จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ไม่ต่างกับคุณพ่อฉันเลยนะคะ กล่าวหาพ่อของฉันอย่างนู้นอย่างนี้ ถ้าเขาเลวขนาดนั้นแล้วทนคบค้าสมาคมด้วยทำไมตั้งหลายสิบปี ถ้าศีลไม่เสมอกันจริงก็อยู่กันไม่ได้หรอกนะ ส่วนคุณพันแสงก็หยุดเล่นละครได้แล้ว” “พี่เล่นละครอะไร” “อย่ามาแสร้งเป็นรักกัน ที่ผ่านมาคุณก็ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น คุณน่ะตัวดีเลย ร้ายน้อยกว่าพ่อคุณเสียที่ไหน คุณอาฉันเป็นตำรวจและตอนนี้ก็รู้แล้วด้วยว่าใครที่แจ้งความจับพ่อฉัน” “มุกพูดอะไร” “คนที่โทร.แจ้งตำรวจคือคุณไงคะคุณสามี มันเป็นเสียงของคุณอย่างไม่มีสักโทนเดียวที่ผิดเพี้ยน ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณก็ชอบวิจารณ์คุณพ่อ คุณไม่ชอบนักการเมือง ไม่ชอบพรรคที่คุณพ่อของฉันสังกัด คุณหวั่นใจว่าสักวันพ่อจะทำให้ครอบครัวคุณเดือดร้อน แต่ใครจะไปคิดว่าความหวั่นใจนั้นจะเป็นคุณที่สร้างขึ้นเอง” “พี่น่ะเหรอเป็นคนทำ มุกเชื่อว่าเป็นพี่เหรอ ก็ยอมรับนะว่าไม่ชอบการกระทำของพ่อมุก เขาเป็นข้าราชการการเมืองที่ตักตวงแต่ผลประโยชน์เข้าตัว บางเรื่องก็ทำอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งตอนนี้เราแต่งงานกันแล้วพี่ก็มีสิทธิ์ห่วงมุก ห่วงชื่อเสียงของตระกูล” “เราไม่น่าแต่งงานกันตั้งแต่แรกเลย” ไม่น่าปล่อยใจไปรักเขาด้วย ไม่น่าเลยจริงๆ “มุก…” “เอาเถอะ ตอนนี้พวกคุณก็ได้ดั่งใจไปหมดแล้ว โครงการก่อสร้างทางด่วนพิเศษนั่นก็อยู่ในมือพวกคุณแล้ว ไม่มีอะไรที่คุณต้องการจากลูกรัฐมนตรีขี้คุกอีกแล้ว แต่ก่อนจากไปฉันก็อยากจะบอกไว้ว่าไม่ใช่แค่พวกคุณที่ทำร้ายครอบครัวฉันได้ฝ่ายเดียว” “หมายความว่าไง” ภาณุกระชากเสียงถาม “ทีทิสบริษัทคู่แข่งไม้เบื่อไม้เมาของพวกคุณน่ะ” เรียวปากบางกระตุกหยันไล่สายตามองแต่ละคนอย่างว่างเปล่า “ฉันเอาความลับบริษัทคุณไปบอกเขา ตัวเลขและรายละเอียดประมูลโครงการสร้างทางรถไฟที่จะถึงนี้” “อย่าล้อเล่นแบบนี้นะมุกดา” พันแสงเป็นคนเดียวในชีวิตของแก้วมุกดาที่เรียกเธอด้วยชื่อสองพยางค์ เขาเคยบอกว่าชอบแบบนี้และจะเป็นเขาคนเดียวที่เรียก ‘มุกดา’ ตลอดไป “ไม่ได้ล้อเล่นค่ะ คุณทำกับพ่อฉันได้ ฉันก็เอาความลับไปแบ่งปันให้คู่แข่งของคุณได้เหมือนกัน” “แกให้เธอดูเอกสารการประมูลเหรอซัน” พันแสงแทนคำตอบด้วยความเงียบและสีหน้าเครียดขรึมผิดหวัง เธอเป็นภรรยาเขาและตลอดสามเดือนที่ร่วมชีวิตกัน แก้วมุกดาก็ตามเขาเข้าออกบริษัทตลอด เธอขอเป็นพนักงานของฐลัชเอนจิเนียริง แต่พันแสงปฏิเสธเพราะไม่อยากให้เธอทำงาน แค่เมียคนเดียวเขาเลี้ยงได้สบายอยู่แล้ว “มุกบอกพี่มาทีว่าเมื่อกี้ประชด” “ไม่ได้ประชดค่ะ ฉันทำไปแล้วจริงๆ แถมยังบอกความจริงกับซีอีโอของทีทิสว่าฉันจำใจต้องแต่งงานกับคุณพันแสงเพราะมันเป็นดีลลับที่ไม่ต่างกับฮั้วการประมูล และฉันก็อนุญาตเขาให้เอาเรื่องนี้ไปแฉกับสื่อได้ ก็ในเมื่อชื่อเสียงพ่อฉันถูกทำลายไปแล้วยังมีอะไรต้องแคร์อีกล่ะ และฉันยังเล่าอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นเรื่องลับของฐลัชนันท์” “งี่เง่า!” พันแสงตะคอกใส่ภรรยา ภาณุกำลังจะด่าลูกสะใภ้แต่อ้าปากไม่ทันลูกชาย “ฉันเคยมองว่าเธอเป็นคนฉลาด มีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัย แต่วันนี้เห็นแล้วว่าโคตรคิดผิด เธอมากล่าวหาว่าครอบครัวฉันแทงข้างหลัง และจากนั้นก็แก้แค้นคืนด้วยการสร้างความเสียหายให้บริษัท โดยไม่มาสอบสวนความจริงกันก่อน เอาจริงๆ นะการที่พ่อเธอโดนจับก็สมควรแล้วเหมือนกัน อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน” “ยอมรับแล้วสินะว่าเป็นคนแจ้งความ เอาเป็นว่าแลกกันคนละหมัดสองหมัดละกัน คุณแทงข้างหลังครอบครัวฉัน ฉันก็ขายความลับบริษัท ยังมีข้อมูลอีกมากอยู่ในมือที่พร้อมแบ่งปันให้บริษัทคู่แข่งของคุณรู้” “แบบนี้รับไม่ได้นะแก้วมุกดา เธอมันเด็กมาก งี่เง่า ทำอะไรเป็นเด็กไปได้ ก็ถูกอย่างที่เธอว่าว่าเราไม่น่าแต่งงานกันเลย” “ใช่ค่ะ ฉันหย่าให้แน่ไม่ต้องห่วง” เข้มแข็งไว้แก้วมุกดา ต่อให้โลกพังทลาย ความรู้สึกโดนเหยียบย่ำอย่างไรก็ฮึบไว้ เขาทำเธอเจ็บได้ เธอก็จะทำให้เขาเจ็บยิ่งกว่า “เป็นผัวเมียกันมันทรมานขนาดนั้นเลยเหรอ” เรียกร้องหาแต่ใบหย่า สามเดือนมานี้ไม่มีความหมายต่อเธอเลยใช่ไหม “สุดๆ เลยค่ะ ในชีวิตนี้ไม่เคยทรมานได้เท่านี้มาก่อน แต่ก็โชคดีนะคะที่ฉันไม่ได้รักคุณ” แก้วมุกดาพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย ในขณะที่พันแสงชาไปทั้งหัวใจ สองมือกำแน่นสั่นเทา เจ็บปวด เสียใจ โมโห หลากหลายความรู้สึกอัดแน่นอยู่ในอก กว่าพันแสงจะเปิดใจรับใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย พอให้กุญแจเธอไขเข้ามาก็ทำลายกันเละเทะอย่างรวดเร็ว “ถ้าเกลียดกันนักก็ไปเลย! ไปให้พ้นหน้า เรื่องหย่าค่อยว่ากันตามกฎหมาย ฉันเองก็ทนร่วมชีวิตกับครอบครัวบัดซบของเธอไม่ได้เหมือนกัน ทนมีเมียงี่เง่าต่อไปไม่ไหวจริงๆ” พันแสงตวาดไล่ ประสานดวงตากร้าวใส่ภรรยาที่มองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย ไม่รู้ว่าความตัดพ้อหรือโกรธเกลียดที่มีมากกว่ากัน “ยืนนิ่งอยู่ทำไม อยากไปนักก็ไปเลย ไปให้พ้นแล้วไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก” “ค่ะ ไล่ขนาดนี้ก็ไปอยู่แล้ว รับรองได้เลยว่าชาตินี้คุณพันแสงจะไม่ได้เห็นหน้าผู้หญิงที่ชื่อแก้วมุกดาอีก” แก้วมุกดากลืนก้อนสะอื้นลงคอขณะที่กำมือแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือ ดวงตาคลอหน่วยถอนจากใบหน้าของสามีและไม่มองใครอีกเลย จากนั้นก็เร่งฝีเท้าออกไปจากบ้าน เพียงดาวผู้เงียบมาตลอดเวลาที่สถานการณ์ระอุก็เกิดเป็นห่วงพี่สะใภ้เลยทำท่าจะวิ่งตามออกไป “จะไปไหนเพียงดาว” พันแสงกระชากเสียงถามน้องสาวบุญธรรม “ฝนตกหนักมากเลยนะคะพี่ซัน ดาวว่าจะให้มุกยืมรถ” “ไม่ต้องยุ่ง เก่งขนาดนั้นเขาไม่ต้องการอะไรจากเราหรอก อย่าให้เห็นนะว่าจุ้น ขึ้นห้องเธอไปซะ” เพียงดาวได้แต่ก้มหน้าเดินไหล่ตกมายืนข้างรำไพพรรณที่หมดสิ้นคำพูดไม่ว่ากับสามีหรือลูกชาย ต่างฝ่ายต่างกำลังร้อน หากเธอพล่ามอะไรไปก็คงไม่ต่างกับสาดน้ำมันในกองเพลิง แต่เดิมพันแสงก็หาใช่คนใจเย็น ลูกคนโตของเธออารมณ์ร้อนต่างจากผู้เป็นพ่อเสียที่ไหน ยามดีก็ดีแสนดี ยามร้ายก็ยิ่งกว่าช้างตกมัน **** แก้วมุกดาตากฝนหนาวสั่น เดินเท้าออกมาไกลมากแล้วจากคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีแต่คนใจร้าย เสียงฝนถล่มกลบเสียงสะอื้นจนไม่มีอะไรให้ต้องอาย แก้วมุกดาสมเพชตัวเองที่เคยต่อต้านการแต่งงาน แต่สุดท้ายกลับหลงรักเขา คิดฝากหัวใจไว้ในอุ้งมือของพันแสง จากคนแปลกหน้า เลื่อนสถานะสู่สามี ผ่านไปไม่นานความใกล้ชิดก็ก่อเกิดเป็นความรัก… หรือแค่เธอที่รักเขาอยู่ฝ่ายเดียว พันแสงก็ยั่วง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ แก้วมุกดากุเรื่องขึ้นทั้งหมด เธอไม่ได้ยุ่งอะไรกับบริษัทคู่แข่งทั้งนั้น ไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักเป็นการส่วนตัวเลยด้วยซ้ำ มือบางขยับมาอยู่ตรงหน้าท้อง ทายาทที่เขาต้องการนักหนาจะไม่มีวันได้ใช้นามสกุลฐลัชนันท์… หรือถ้าจะให้ดีอย่าลืมตาดูโลกเลย หากตอนนี้มารดายังอยู่จะรู้สึกอย่างไรที่การแต่งงานนำพาความวิบัติฉิบหายมาให้แทนที่จะเป็นความสุขอย่างที่ท่านหวังไว้ก่อนจากโลกนี้ไป “แม่ดูจะเชียร์หนูกับคุณพันแสงมากเลยนะคะ ถามจริงๆ นะคะทำไมถึงอยากให้หนูแต่งงาน ทั้งที่หนูเพิ่งเรียนจบและยังมีอะไรอีกตั้งมากบนโลกที่กว้างใหญ่ให้เรียนรู้ สมมติว่า… สมมติวันหนึ่งที่เราต้องจากกัน แม่ไม่ได้อยู่ข้างมุกแล้ว มุกก็ยังมีพ่อ มีบ้านหลังนี้ ทรัพย์สินก็พอมี ที่สำคัญมุกมีใบปริญญาที่ใช้หางานได้ มุกมั่นใจว่าดูแลตัวเองได้ดี แล้วแม่ล่ะคะมั่นใจได้ยังไงว่าการแต่งงานจะการันตีความสุขไปจนชั่วชีวิต” “ไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะมีความสุขไปชั่วชีวิตหรอกนะ แม่มานั่งคิดนอนคิดดูแล้วที่แม่อยากให้มุกแต่งงานก็เพราะตัวแม่กังวลและเป็นห่วง พอจะจากโลกนี้ไปจริงๆ มันเลยเต็มไปด้วยห่วง และห่วงเดียวของแม่ที่มีก็คือแก้วมุกดาที่น่ารัก ก็มาคิดๆ ดูแล้วนะแม่ก็เห็นด้วยตามที่มุกว่า ว่าการแต่งงานไม่ใช่การฝากฝังที่ดีนัก แก้วมุกดาของแม่เติบโตมาดีมาก กระทั่งวันนี้แม่ก็เห็นแล้วว่าหนูเป็นนกที่พร้อมสยายปีกบิน ต่อให้ลมแรงแค่ไหนแม่ก็เชื่อว่านกน้อยตัวนี้ต้านทานไหว แววตาของหนูเป็นแววของนักสู้นะ ต่อให้กี่ร้อยเรื่องประดังประเดเข้ามา แม่ก็เชื่อว่าแก้วมุกดารับมือไหว เอาเป็นว่าเรื่องแต่งงานแม่ให้เป็นการตัดสินใจของหนูละกันนะ แม่อยากให้แก้วมุกดามีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสุข อย่าได้เจ็บป่วยอย่างที่แม่เป็นเลยนะลูก” แก้วมุกดาระลึกถึงบทสนทนาของแม่ในวันที่ครอบครัวพันแสงมาสู่ขอ แก้วมุกดามองความสุขของตัวเองเป็นหลักก็จริง แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับการอยากทำเพื่อบุพการี คุณแม่น้ำเพชรคงจากโลกนี้ไปด้วยความรู้สึกโล่งใจที่ลูกสาวคนเดียวมีคนที่ฝากผีฝากไข้ได้ แต่ใครจะคิดว่าปล่อยให้แก้วมุกดาอยู่เป็นโสดและเรียนต่อปริญญาโทอาจดีกว่าแต่งงาน หากวันนั้นเธอปฏิเสธเขา วันนี้ก็คงไม่ถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ขอโทษนะคะแม่ที่การแต่งงานล้มเหลวอย่างรวดเร็ว “คุณอาคะ เขาไล่หนูแล้วค่ะ เขาไล่หนูออกจากบ้าน” แก้วมุกดากรอกเสียงสะอื้นผ่านโทรศัพท์ ไม่แยแสแม้ว่าอยู่ท่ามกลางสายฝน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงที่กรอกลงไปนั้นส่งถึงอานพพลหรือไม่ และเธอก็ไม่ได้ยินอะไรตอบกลับเพราะเสียงฝนกลบทุกอย่างเสียมิด และมืดมิดเสียจนมอเตอร์ไซค์มองไม่เห็นว่ามีคนเดินอยู่ริมฟุตบาท “กรี๊ดดด!!” โครม!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม