‘ขอให้นักเขียนเจออย่างดารินบ้างนะ จะได้รู้สึก’
คอมเมนต์ของแอคเคาท์นิรนาม0011ยังจำฝังใจ
ร่างบางถูกลากเข้ามายังสถานที่หนึ่ง ที่นี่เป็นโกดังสินค้ากิจการสีดำของตรีศูล ธุรกิจของเขาล้วนทำเรื่องผิดกฎหมายโดยเอาธุรกิจสีขาวมาเปิดเอาไว้เพื่อบังหน้า ความร่ำรวยของพระเอกเวอร์วังอลังการ จะพูดได้ว่าเขาใช้เงินและสมบัติที่มีทั้งชาติ แถมเกิดใหม่อีกหนึ่งชาติก็ใช้ไม่หมด ดารินถูกตรีศูลกระชากข้อมือมายังด้านในของโกดังและผลักเธอเข้าไปยังห้องมืดทึบห้องหนึ่ง ดวงตากลมหันมองรอบข้างก็อยากจะร้องไห้ออกมา เพราะกำแพงปูนสีเทาที่กระเซ็นไปด้วยคราบเลือดที่ถูกเช็ดออกไม่หมด กลิ่นอับเหม็นคาวเลือดมนุษย์ตีขึ้นจมูก
เพราะห้องนี้คือห้องเชือดที่ตรีศูลมักจะเอาคนที่เขาต้องการกำจัดมาฆ่าตายที่นี่
เขาฆ่าคนเป็นผักปลาเพราะด้วยอาชีพ ศัตรู หนอนบ่อนไส้ และพวกที่คิดจะหักหลัง มาเฟียหนุ่มไม่เคยเอาคนพวกนั้นไว้
รวมถึงนางร้ายด้วย
ในนิยาย ดารินตายที่นี่ ในห้องเชือดห้องนี้ เธอถูกยิงหน้าผากตายอย่างน่าอนาจ น้ำตาของหญิงสาวเอ่อคลอเบ้าตาทั้งสองข้าง แม้จะรู้ว่านี่ไม่ใช่ชีวิตของตัวเอง แต่เธอก็ไม่อยากตายเป็นรอบที่สอง เพราะวินาทีแห่งความเป็นความตายมันทรมานและน่ากลัว หญิงสาวสัญญากับตัวเองว่าชีวิตนี้จะระวังตัวเป็นพิเศษ จะไม่กินแคปหมูและจะเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน จะทำทุกอย่างตามที่พระเอกสั่ง เพื่อว่าเขาจะได้ไม่ฆ่าเธอเหมือนตอนจบของนิยาย แต่ยังไม่ทันไร เธอก็จะตายทั้งที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตใหม่เลย
“คุณตรี ฟังรินก่อน—โอ้ย!”
ร่างเล็กถูกเหวี่ยงลงพื้นปูนสกปรก เธอหน้าคะมำก่อนจะเห็นคราบเลือดสด ๆ ที่ติดอยู่บนพื้นชัดเจน ดารินรีบถอยกรูดและลุกขึ้นยืนทันที เธอหายใจแทบไม่ออก สบตากับตรีศูลก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองในมือหนา
เขาถือปืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
“คุณตรี คุณทำกับรินแบบนี้ไม่ได้นะคะ!”
“ทำไมฉันจะทำไม่ได้?”
แขนแกร่งยกขึ้นและเหยียดตรง จ่อปืนมาทางเธอ ดารินตัวสั่นด้วยความกลัว
“เธอจ้างคนไปปาหินใส่ร้านของวาววา ทำแบบนั้นทำไม!!!”
เสียงเข้มตวาดดังลั่น เธอสะดุ้งพลางหลับตาปี๋ ไม่กล้าขยับเขยื้อนร่างกาย ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตามองอีกฝ่าย
ตรีศูลโกรธเธอมากจริง ๆ
ก็อย่างว่า...วาววาคือแก้วตาดวงใจของเขานี่นา ไม่แปลกที่พระเอกจะโกรธนางร้ายอย่างเธอขนาดนี้
“รินไม่ได้ทำ”
“เหรอ?”
“...”
“ไปเอาตัวมันมา”
มาเฟียหนุ่มบอกลูกน้องตัวเอง ลูกน้องชายชุดดำผงกศีรษะก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง ไม่นานก็เปิดประตูเข้ามาอีกรอบ พร้อมกับหิ้วคอเสื้อของผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามา
ใบหน้าของอีกฝ่ายสะบักสะบอมและบวมช้ำ เนื้อตัวก็ดูไม่ได้เพราะถูกซ้อมมาอย่างหนัก
ดารินมองผู้ชายคนนั้นพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
“ใครเป็นคนจ้างมึง”
ตรีศูลเอาปืนลง ก่อนจะหันไปถามชายแปลกหน้าที่ยังถูกหิ้วคอเสื้ออยู่
“ผ...ผู้หญิงคนนี้ครับ”
“...!!”
อีกฝ่ายชี้มาทางเธอ ดารินเบิกตาโพลง ก่อนลูกน้องของตรีศูลจะเปิดบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ และมันคือคลิปเสียงที่ดารินจ้างวานไอ้หมวกกันน็อครับจ้างสองคนเพื่อไปปาหินใส่ร้านของวาววาจริง ๆ
‘เอากระดาษนี่ห่อก้อนหิน และปาใส่กระจกร้านของมัน ปาโดนหน้ามันได้ยิ่งดี!’
เสียงในคลิปคือเสียงของเธอ ไม่ใช่สิ! เสียงของดาริน แต่เป็นดารินคนเก่า คนที่เป็นนางร้าย ไม่ใช่เธอคนนี้
แต่ถึงจะพูดแบบนั้นออกไป มีหวังถูกยิงตายโทษฐานเป็นคนบ้าก่อนได้อธิบายแน่ ๆ เธอกลอกสายตาไปมาอย่างใช้ความคิด น้ำตาก็หยดบนแก้มด้วยความกลัว แต่คนตัวเล็กรีบเช็ดมันออก
“จะแก้ตัวว่าไง?”
“...”
ไม่มีอะไรจะแก้ตัว เพราะทุกอย่างมันคือการกระทำของดารินจริง ๆ ทว่าเป็นการกระทำก่อนที่เธอจะเข้ามาอยู่ในร่างนี้ นางร้ายร้ายกาจมากเกินกว่าจะต้านไหว ดวงตากลมสั่นระริกมองหน้าตรีศูล
“รินขอโทษ”
“หึ เลวจริง ๆ”
“...”
“รักฉันมากเหรอ?”
จู่ ๆ ตรีศูลก็ถามขึ้น เขาจำประโยคที่อีกฝ่ายบอกรักเขาได้ เธอเสนอตัวอยากเป็นนางบำเรอไร้ค่า ผู้หญิงตรงหน้าเขาน่าสมเพชและน่าขยะแขยง ทว่าดารินกำสองมือแน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำ
“เคยรักค่ะ”
“อะไรนะ?”
“ก่อนหน้านี้รินเคยรักคุณ”
“...”
“แต่ตอนนี้ รินไม่ได้รักคุณแล้ว”
“จะให้ฉันเชื่อ? ทั้งที่เมื่อกี้เธอยังส่งคนไปทำร้ายวาววา!”
“ตอนนั้นรินยังรักคุณ แต่ตอนนี้ไม่ได้รักแล้วไงคะ”
“ประสาท”
“จริง ๆ นะคะ”
กริ๊ก
ตรีศูลดึงไกปืนและยกจ่อไปทางดารินอีกครั้ง บ่งบอกว่าครั้งนี้เขาพร้อมลั่นไกใส่กลางหน้าผากของเธอ ความโกรธที่พุ่งทะยานของมาเฟียหนุ่มถึงขีดสุด นัยน์ตาแข็งกร้าวมองผู้หญิงน่าสมเพชตรงหน้าเขาที่เอาแต่ร้องไห้ด้วยความกลัว
ทีตอนทำไม่กลัว
ตอนนี้จะมาร้องไห้อ้อนวอน เขาก็ไม่มีทางเห็นใจ
นิ้วชี้ค่อย ๆ กดลงไปหวังจะยิงกระสุนและเล็งปลายกระบอกปืนที่หน้าผาก ฉับพลันเสียงหวานสั่นเครือก็เอ่ยออกมา
“รินจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ โดยเฉพาะช่วยให้วาววาหันมารักคุณ ร...รินจะทำค่ะ!”
ประโยคนั้นทำให้ตรีศูลชะงักนิ่ง แววตาหรี่มองผู้หญิงตรงหน้าอย่างจับผิด
“พูดใหม่”
ดารินยกสองมือขึ้นราวกับยอมแพ้ไม่ให้เขายิง ก่อนเธอจะพูดออกไป
“รินจะช่วยให้วาววารักคุณเองค่ะ รินสัญญา”
“เธอจะช่วย?”
“ค่ะ”
ดารินกลืนน้ำลายเหนียวหนืดแทบไม่ลงคอ ทว่าดวงตากลับดีใจเมื่อจู่ ๆ ตรีศูลก็ทำหน้าเหมือนว่าข้อเสนอของเธอมีประโยชน์
“เธอจะทำยังไง”
เขาเอาปืนลงแล้ว ดารินจึงยกสองมือของตัวเองลงเช่นกัน
“วาเป็นเพื่อนสนิทของริน รินรู้ว่าควรทำยังไง”
“...”
เมื่อจบประโยค ร่างกำยำล่ำสันของคนตัวใหญ่ก็ย่างกรายเข้าไปหาหญิงสาวเรื่อย ๆ ดารินก้าวถอยหลังจนแผ่นหลังติดกับผนัง เธอเงยหน้ามองเขา ตรีศูลก็กดสายตาลงมองคนตรงหน้า เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ฉันจะเชื่อเธอได้ยังไง?”
“เชื่อได้สิคะ ถ้ารินโกหกคุณ รินยอมตายเลย”
ตรีศูลและดารินสบตากัน และเขาก็เห็นความหนักแน่นและความจริงใจผ่านดวงตาคู่สวยอย่างชัดเจน มันทำให้เขาอยากลองดูสักตั้ง เพราะถ้าดารินทำอย่างที่ตัวเองพูดได้จริง ๆ
วาววาจะได้เป็นของเขาสักที
“ได้ ฉันจะลองเชื่อเธอ”
“ค่ะ”
“น่าแปลกนะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่ารักฉัน แต่จู่ ๆ พอจะตายก็มาบอกว่าเลิกรัก”
เธอกำสองมือแน่นเมื่อได้ยินแบบนั้น เงยหน้าสบตากับนัยน์ตาคู่คม
“ไม่แปลกหรอกค่ะ ในเมื่อรักได้ ก็เลิกรักได้”
“...”
“ต่อจากนี้ รินจะขอคืนรักให้คุณ”
“ดี ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน”
“...”
“ฉันจับตามองเธออยู่ดาริน”
คนตัวเล็กพยักหน้า
ใช่...ต่อจากนี้เป็นต้นไป เธอจะคืนรักให้เขา
นางร้ายคนนี้จะขอคืนรักให้พระเอก และจะคืนตลอดไป
ไม่มีวันทวงกลับมา