ไม่รู้ทำไมพอคิดถึงตรงนี้แล้วพยัคฆ์กลับโกรธขึ้นมาวูบหนึ่งแล้วต้องรีบระงับเอาไว้ เขาจ้องมองร่างเล็กบอบบางที่สูงเกินไหล่ตนเองมานิดเดียวด้วยสายตาเข้มจัดก่อนจะเอ่ยถามหญิงสาวด้วยท่าทีเอ่ยปากไปอย่างนั้นตามมารยาท
“จะไปเลยใช่ไหม ไม่...”
“ไม่หรอกค่ะ”
เป็นครั้งแรกที่อุรัสยาเอ่ยขัดชายหนุ่มขึ้นมา ทำให้พยัคฆ์อึ้งไปอีกนิดไม่คิดว่าเธอจะพูดตัดบทเขาอย่างนี้เป็น
ในความทรงจำของเขา อุรัสยาก็เป็นแค่ผู้หญิงจืดชืดที่สั่งไปซ้ายจะไม่มีทางไปขวาเลย แต่วันนี้เธอกลับกล้างัดข้อกับเขาแล้วหลังจากที่เขากลายเป็นแค่ ‘อดีตสามี’ ของเธอ
“แล้วถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกฉันได้นะ ยังไงเธอก็เคยเป็นเมียฉัน”
พยัคฆ์เอ่ยขึ้นในตอนที่เขามองเสี้ยวหน้าหวานของคนที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา ในใจก็รู้สึกผิดนิดหน่อยที่พอแม่เธอตาย และแม่ของเขาไม่อยู่เนื่องจากเดินทางไปเยี่ยมญาติที่อังกฤษ เขาก็ลากอุรัสยามาหย่าอย่างปุบปับ แทบไม่ให้เวลาเธอตั้งตัว ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าเขาวางแผนเรื่องนี้ไว้แล้วก็ตามที แต่ก็เลือกจะทำอย่างนี้เพราะเขาทนมองหญิงสาวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอทำให้เขารู้สึกไม่ดีโดยเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกัน ดีที่อุรัสยาเองไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกเหลือตัวคนเดียวอะไรอย่างนั้น เขาคิดว่าเธอก็คงกลับไปอยู่บ้านพ่อเหมือนก่อนที่จะแต่งงานกับเขานั่นแหละ
พยัคฆ์คิดง่ายๆ อย่างนั้น เพราะแต่เดิมก็ไม่ได้สนใจปัญหาอะไรของอุรัสยาที่แม่เคยพูดกรอกหูเขาตั้งแต่ก่อนแต่งงานอยู่แล้ว เพราะคิดว่าตนเองจะสนใจไปทำไม ปัญหาของใครคนนั้นก็แก้เอาเอง แค่ที่เธอมีปัญหาแล้วพานทำให้เขาเดือดร้อนไปด้วยเขาก็กล้ำกลืนอดทนมากพอแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวตอบรับความหวังดีนั้นเอาไว้ ในเมื่อตอนนี้หย่ากันแล้ว พยัคฆ์ก็ไม่จำเป็นจะต้องมาสนใจอะไรเธออีกต่อไป
“แล้วจะไปอยู่ที่ไหน”
คนที่บอกว่าตนเองจำเป็นต้องรีบไปธุระกลับยังรั้งตัวหญิงสาวเอาไว้ซักถามที่ที่หญิงสาวจะไปไม่หยุด พยัคฆ์ได้แต่บอกตนเองว่าที่เขาร้อนรนอยากจะรู้ก็เป็นเพราะจะได้ตอบคำถามแม่ของเขาถูกในตอนที่รู้เรื่องหย่านั่นแหละ
ถึงเขาจะหย่ากับอุรัสยา แต่ใช่ว่าจะตัดขาดจากเธอได้ ในเมื่อเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนรักแม่ และแม่ของเขาก็เอ็นดูเธอเสียยิ่งกว่าลูกชายแท้ๆ อย่างเขาเสียอีก หลังจากนี้ไม่แน่เธอก็คงไปอยู่กับแม่ของเขาที่บ้านที่กรุงเทพฯ ซึ่งก็ดี...มันจะได้ทำให้เขารู้สึกผิดลงมาหน่อย
เพราะถึงอย่างไรพยัคฆ์ก็ไม่ได้ลืมหรอกว่าครั้งหนึ่งเขาก็ผิดคำพูดด้วยการ ‘ทำร้าย’ เธอไปแล้ว
ถึงเธอจะทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น และเขาก็วางท่าเฉยชาเหมือนไม่มีอะไร แต่เขาไม่ได้สมองเสื่อมจนจำไม่ได้ว่าเขาผิดคำพูดของตนเองไปมากแค่ไหน
“อุ้มก็คงกลับบ้านน่ะค่ะ”
“อ้อ...”
คำตอบของอุรัสยาทำให้พยัคฆ์พยักหน้ารับหงึกหงัก ไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมา หญิงสาวเองก็รู้จึงเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม จากนั้นจึงบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะคุณเสือ”
อย่างน้อยในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอก็มีผู้ชายคนนี้เข้ามาช่วย แม้เขาไม่ได้เต็มใจ ทำไปเพราะถูกบังคับ แต่ก็ถือว่าได้ช่วยเหลือเธอ
-------------------------------------------------------
ตอนนี้ในเมื่อเขาต้องการหย่า ทำไมเธอจะทำให้เขาไม่ได้ อุรัสยารู้ว่าเทียบกันแล้วก็เป็นตนเองที่ได้ผลประโยชน์และเอาเปรียบอีกฝ่ายมากกว่า
คราวนี้พยัคฆ์ส่ายหน้า ก่อนจะตอบเสียงหนักแน่นเหมือนแววตาคมที่จ้องมองเธอเขม็ง
“ไม่ต้องขอบคุณ”
“...”
อุรัสยาไม่เอ่ยอะไร ได้แต่ก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง เธอคิดจะอำลาเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอและเอาแต่เล่นโทรศัพท์ก็พลันลดมือถือในมือของเขาลง จากนั้นจึงบอกกับหญิงสาวว่า
“ฉันโอนเงินเข้าบัญชีให้เธอแล้วนะ ยังไงมันก็เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ฉันได้เธอก็ควรจะได้บ้าง”
อุรัสยาได้แต่เบิกตามองชายหนุ่มอย่างตกใจและไม่อยากยอมรับเงินที่เขาให้เพราะที่เธอได้มาตอนแต่งงานซึ่งเป็นค่าสินสอดก็เป็นมูลค่าสูงมากแล้ว แถมย้ายมาอยู่ที่ไร่ภูบดินทร์กับเขาเธอก็ได้เงินเดือน นอกจากซื้อของใช้รายเดือนแล้วก็แทบไม่ได้ใช้เงินอะไรเลย
“แต่ไม่จำเป็น...”
“ไม่ต้องปฏิเสธ” พยัคฆ์ขัดเสียงเฉียบขาด “คิดซะว่าฉันให้เอาไปตั้งตัว”
อย่างน้อยเงินนี้ก็ทำให้เขารู้สึกผิดน้อยลงที่หย่ากับเธอทั้งๆ ที่ผิดคำพูดว่าจะไม่ ‘แตะต้อง’ เธอ
ในเมื่อทำไม่ได้ และไม่อาจทนอยู่ในสถานะผัวเมียกับเธอได้อีกต่อไป ก็มีแต่เงินนี่แหละที่จะทำให้เขารู้สึกผิดน้อยลง
“...”
อุรัสยาเงียบ เริ่มเข้าใจในตอนนี้เองว่าทำไมพยัคฆ์ถึงพยายามจะให้เงินเธอ และในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจรับมันเอาไว้เมื่อชายหนุ่มให้เหตุผลมาว่า
“รับเงินนี้เอาไว้ แล้วให้ระหว่างเรามันจบลงด้วยดีเถอะ”
“...”
“ส่วนเรื่องทางบ้านฉัน ฉันจะอธิบายเอง เธอไม่ต้องสนใจอะไร”
“ได้ค่ะ” อุรัสยาตอบรับในที่สุด และเรื่องเดียวที่เธอหนักใจก็คือเรื่องแม่ของเขา ในเมื่อเขาอาสาจะไปอธิบายกับท่านเธอก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก “ถ้าอย่างนั้นอุ้มฝากขอโทษคุณแม่” หญิงสาวชะงัก แล้วเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานอดีตแม่สามีใหม่ทันที “เอ่อ...คุณป้าด้วยนะคะที่อุ้มไม่ได้อยู่ลาท่านด้วยตัวเอง”
“...”
“ขอให้คุณเสือโชคดี”
ตอนท้ายเธอพึมพำบอกเขา น้ำเสียงอาจจะเรียบเย็น แต่พยัคฆ์ไม่รู้หรอกว่าหัวใจเธอเป็นอย่างไรในตอนที่เอ่ยคำพูดนั้นออกมา
อุรัสยาคิดถึงภาพใบหน้าสวยคมของคนรักของพยัคฆ์แล้วก็พลันเจ็บแปลบ ในที่สุดก็ถึงเวลาส่งคืนเจ้าของตัวจริงไปแล้ว คนที่เป็นแค่ของที่เขาไม่ต้องการอย่างเธอสมควรต้องไปได้แล้ว
“อืม...”
พยัคฆ์ตอบรับแค่นั้น ขณะที่อุรัสยาไม่มีอะไรต้องพูดอีก ตอนนี้สมองเธออึงอลหนักอึ้ง และไม่อยากเผยความอ่อนแอที่ตนเองมีต่อหน้าของพยัคฆ์ จึงเลือกจะเดินหันหลังจากไปอย่างหยิ่งทระนง ถึงจะเป็นคนเจ็บเพียงคนเดียวในการยุติสถานะนี้ ทว่าเธอก็ไม่อยากเป็นคนน่าสมเพชในสายตาของชายหนุ่ม
ให้อย่างไรก็ให้พยัคฆ์รู้ไม่ได้ว่าเขาทำเธอเจ็บแค่ไหนกับการเลิกรากันครั้งนี้ เธออยากให้มันจบลงด้วยดีเหมือนที่เขาต้องการ