ลองชุดแต่งงาน

1193 คำ
"พี่จะให้ตานนท์รับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับหนูพราวให้เร็วที่สุดจ๊ะ" หลังจากที่ทั้งสองแต่งตัวเรียบร้อยและออกมาจากห้อง ดวงใจแม่ของธนนท์ก็เป็นคนเอ่ยปากพูดขึ้นมาทันที พริบพราวที่นั่งก้มหน้าเพราะความละอายใจก็ต้องเงยหน้ามองป้าดวงใจด้วยความตกตะลึง หลังจากที่ได้ยินคำว่าแต่งงานต่างจากธนนท์ที่มีสีหน้านิ่งเฉยแต่กรามทั้งสองข้างบดเข้าหากันเพื่อข่มระงับอารมณ์ที่อยู่ข้างใน ชายหนุ่มตวัดตามองเธออย่างเย็นชาจนคนตัวเล็กหนาวยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ "แต่คุณป้าค่ะ พราวกับพี่นนท์ไม่ได้รักกัน" คนตัวเล็กรีบแย้งขึ้นมาทันที เพื่อจะไม่ให้เขาคิดว่าเธอยินดีกับการที่ทั้งสองจะแต่งงานกัน "ถึงไม่ได้รักกัน แต่ตานนท์ก็ต้องรับผิดชอบผลการกระทำของตัวเองใช่มั้ย" ดวงใจหันไปถามลูกชายของตัวเองพร้อมกับส่งสายตากดดัน "ครับ ผมยินดีที่จะแต่งงานกับพราว" "แต่...." "ไม่มีแต่ทั้งสิ้นแล้วจ๊ะ หลังจากนี้หนูพราวเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้เลย ป้าจะรีบหาฤกษ์ที่เร็วที่สุดแล้วจะรีบแจ้งมานะ ถ้าแบบนี้น้องพอใจกับน้องพลโอเคใช่มั้ยจ๊ะ" "พอใจกับพลได้ทั้งนั้นค่ะ แต่ยังไงยัยพราวก็เสียหายไปแล้ว ถ้าเกิดตานนท์จะมาตบแต่งเป็นเรื่องเป็นราวก็คงจะดีที่สุด" ป้าดวงใจพูด และแม่เธอเสริม ตอกฝาโลงเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอแม้จะไม่แสดงอาการยินดียินร้าย แต่เธอก็รับรู้ได้ถึงรังสีความไม่พอใจของเขา หลังจากนั้นมีการพูดอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตกลงถึงเรื่องสิดสอดทองหมั้น หรืออะไรต่างๆ หมอธนนท์ก็ได้แต่พยักหน้ายอมรับทุกอย่างอย่างไม่ขัดแย้งอะไร ก่อนจะโดนพยาบาลโทรเคสผ่าตัดด่วน ชายหนุ่มจึงปลีกตัวออกไป แต่ก่อนที่เขาจะลุก ไม่วายที่ป้าดวงใจจะให้เธอเดินมาส่งเขาข้างล่าง ระหว่างทางที่เดินลงมา ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอราวกับรังเกียจหนักหนา เขาแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน "เธอนี้เก่งจริงๆเลยนะ ในที่สุดก็ทำสำเร็จจนได้ แต่อย่างหวังว่าจะมีความสุขอย่างที่ใจคิด ชีวิตแต่งงานหลังจากนี้ นรกรอเธออยู่" พูดจบก็ปิดประตูเสียงดังปั้งจนเธอกลัวว่ามันจะหลุดติดมือออกมาก่อนจะเหยียบคันเร่งและสาวทะยานรถออกไปอย่างรวดเร็วราวกับพายุบุแคมต่างจากคนที่ใจเย็นด้านบนต่อหน้าปู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวก่อนหน้านี้ ทิ้งให้พริบพราวได้แต่ถอนหายใจยาวๆ ดวงตาคู่สวยมีน้ำตาเอ่อคลอ พี่นนท์คงจะเกลียดเธอมาก เพราะที่ผ่านมาตอนเด็กต่อให้เขาจะรำคาญเธอแค่ไหนก็ไม่เคยพูดจารุนแรงขนาดนี้ใส่เธอมาก่อน เธออยากจะบอกเหลือเกินว่าเธอไม่ตั้งใจให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ แต่ต่อให้พูดไป เขาก็คงไม่เชื่อและปักใจมองเธอเป็นนางมารร้ายเต็มตัวไปแล้วตอนนี้ .......... อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ก็จะถึงฤกษ์แต่งงานของเธอกับหมอธนนท์ เรียกว่าสายฟ้าแล่บก็ว่าได้ ตอนนี้เธอนั่งรอว่าที่เจ้าบ่าวมารับไปลองชุดแต่งงานกัน แม้ว่าพริบพราวจะบอกป้าดวงใจแล้วว่าเธอสามารถไปด้วยตัวเองได้ แต่ป้าดวงใจก็ยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่าต้องให้ธนนท์มารับเธอที่บ้าน ร่างเล็กนั่งรอเขาตั้งแต่เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แวว แต่แม่และพ่อก็แก้ตัวให้เขาว่าธนนท์เป็นหมอฝีมือดี อาจจะกำลังติดพันคนไข้อยู่ แต่พริบพราวรู้ดีว่า เขาไม่อยากมารับเธอต่างหากเลยเลือกที่จะปล่อยให้เธอรอนานขนาดนี้ คนตัวเล็กตั้งท่าจะกดโทรศัพท์บอกเขาว่าเธอไปรอที่ร้านเองก่อนก็ได้ แต่ขายาวๆพาใบหน้าหล่อเหลาคนคายของชายหนุ่มเข้ามาที่บ้านเธอพอดี "อ้าว นั่นไง ตานนท์มาแล้ว" "สวัสดีครับน้าพอใจ ขอโทษด้วยนะครับ พอดีผมเพิ่งออกเวร เลยมาช้านิดนึง" เขาไม่อยากมา ถึงขั้นยอมอยู่เวรแทนเพื่อนเพื่แจะเลื่อนเวลามารับว่าที่เจ้าสาวให้ช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้ อยากแต่งจนตัวสั่นก็ให้รอเสียให้เข็ด "จ้า ไม่เป็นไรหรอก ลุกสิลูก อย่าให้พี่เขารอนาน" ต่อหน้าพ่อแม่เธอ เขาก็ยังเป็นพี่นนท์คนที่แสนดีอยู่ แต่พอขึ้นรถอยู่กันสองต่อสองตามลำพัง เขาเอาแต่ขับรถโดยไม่สนใจที่จะหันหน้ามามองหรือชวนเธอคุยเพื่อลดความอึดอัดแต่อย่างใด "ขากลับ เธอกลับเองนะ ฉันมีธุระต่อ" "ค่ะ" ทั้งที่รู้ว่าร้านเข้าซอยลึกไปพอสมควร ไม่ค่อยมีรถโดยสารหรือแท็กซี่ผ่านเข้าไปสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังจะปล่อยเธอหาทางกลับเองโดยไม่สนใจเลยว่า เธอจะหาทางกลับยังไง เมื่อเข้าไปในร้าน ป้าดวงใจก็จองห้องลองที่เป็นส่วนตัวขนาดใหญ่ให้กับเธอและเขา พริบพราวเลือกดูชุดแต่งงานด้วยความกระตือรือร้นยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งไม่แปลกที่อยากจะสวยและดูดีที่สุดในวันสำคัญขนาดนี้ แม้การแต่งงานจะไม่ได้เกิดจากความรักหรือความเต็มใจเหมือนกับคู่อื่น ต่างจากเจ้าบ่าวที่เขาแค่จิ้มแบบในแคตตาล็อก โดยไม่ได้สนใจจะลุกขึ้นไปลองแต่อย่างใด แถมยังนั่งถอนหายใจทุกๆสองนาที ที่ต้องรอให้หญิงสาวเลือกชุดเลือกแล้วเลือกอีก กระดี๊กระด๊าดีใจยิ่งกว่าปลากระดี่ได้น้ำ "พี่นนท์จะกลับก่อนก็ได้นะคะ พราวเกรงใจเพราะลองชุดมันใช้เวลาพอสมควร" "ทำไม จะโทรบอกแม่ฉันอีกรึไง พอฉันไม่อยู่รอเธอ" คนพูดหาเรื่องเธอราวกับเด็กชายตัวน้อยมากกว่าคุณหมอที่เป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป แค่เขากับเธอย่างเท้าเข้ามาในร้าน เสียงกระซิบทั้งแปลกใจ ยินดี อิจฉา แทรกเข้ามาให้ได้ยินเป็นระยะ เพราะทั้งเธอและหมอธนนท์ก็เป็นคนที่อยู่ในแสงพอสมควร ทั้งสองไม่เคยราวข่าวว่าคบกันหรือเป็นคู่รักกันมาก่อน การประกาศแต่งงานครั้งนี้เลยทำให้ได้รับความสนใจมากพอสมควร แต่พริบพราวและธนนท์ก็เลือกที่จะมองข้ามเสียงเหล่านั้นไป "พราวไม่บอกใครค่ะ พราวสัญญา ถ้าพี่นนท์อยากจะไปไหนต่อก็เชิญได้เลยนะคะ" เธอไม่ได้พูดประชดแต่พูดจากใจจริง เพราะสีหน้าท่าทางของเขาเหมือนเบื่อหน่ายและอึดอัดใจหนักหนาที่ต้องอยู่กับเธอตรงนี้คนตัวเล็กพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม