ในห้องทำงานของไอศูรย์ ภาพที่ชายหนุ่มยืนหันหลัง เอามือล้วงกระเป๋า เหม่อมองท้องฟ้าเป็นสิ่งที่พนักงานเห็นจนชินตาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา
เจ้านายหนุ่มที่เป็นแบบนี้ไม่มีใครกล้ารบกวน ต่อให้มีงานเร่งด่วนสักแค่ไหนก็ต้องหลบทาง ปล่อยให้เขาทอดอารมณ์จนพอใจ ฉะนั้นเลขาสาวที่เปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นเขามองออกไปยังนอกกระจก จึงเลือกที่จะปิดประตูลงตามเดิม
ไอศูรย์รับรู้ว่ามีคนเข้ามาในห้อง แต่เขาไม่ได้หันกลับไปมอง สายตาสุขุมล่มลึกยังคงมองไปบนท้องฟ้าที่จู่ๆ ก็ครึ้มมีหมอก ทั้งที่เมื่อกี้ยังสว่างสดใสฟ้าแจ้งอยู่แท้ๆ
สภาพอากาศในวันนี้เหมือนกับวันที่ขวัญรักจากไปเมื่อสี่ปีที่แล้วไม่มีผิด ตอนที่เขาส่งข้อความขอหย่า มีแดดจ้าแลดูสดใสเป็นใจ แต่พอขวัญรักตอบตกลงหย่า ท้องฟ้าก็ขมุกขมัวหม่นหมองลงทันตา ไม่ใช่แค่ท้องฟ้า แต่ยังลุกลามเข้ามาสู่ใจเขาจนถึงวันนี้
เขาถามตัวเองว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้?
เธอหายไปสี่ปีแล้ว...
ไม่มีคำลา... เงียบหายเหมือนไม่เคยทิ้งร่อยรอยในหัวใจเขา...
เขาเคยคิดว่าพอขวัญรักจากไปแล้ว คงได้ใช้ชีวิตที่สุขสมหวังกับเนตรกมลเสียที ได้คนรักกลับคืนมาสู่อ้อมอก สามารถคบหาดูใจกันได้อย่างเปิดเผยโดยไม่มีเสียงติฉินนินทา เนตรกมลดีทุกอย่าง อบอุ่นอ่อนหวาน เอาอกเอาใจและเข้าใจเขาทุกอย่าง โดยที่เขาแทบไม่ต้องเอ่ยปาก ระหว่างพวกเขาไม่เคยมีการทะเลาะกันเลยสักครั้ง ไม่มีเรื่องให้หนักใจ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างก็สนับสนุน ทุกคนรอบข้างต่างชื่นชมพวกเขาว่าเหมาะสมคู่ควรกันทุกอย่าง
สี่ปีที่ผ่านมา... เนตรกมลทำให้เขามีรอยยิ้มมากกว่าช่วงเวลาสองปีที่แต่งงานกับขวัญรักอย่างเทียบกันไม่ติด
แล้วทำไมอารมณ์ความรู้สึกของเขาถึงผิดเพี้ยนไปหมด?
นอกจากจะไม่สุขแล้ว ยังทุกข์หนักกว่าเดิมอีก
ทั้งๆ ที่เขาควรจะพอใจสิ แต่หัวใจของเขากลับจมดิ่งอยู่ในความมืดมนอย่างช้าๆ แต่ละวันที่ลืมตา ในอกเขาจะวูบโหวงแทบไม่มีความรู้สึก สัมผัสได้แต่อาการปวดหน่วงๆ ข้างในเหมือนหยดน้ำหยดเล็กๆ ที่ร่วงลงสู่ผิวน้ำแล้วแผ่กระจายไปทั่วร่าง เหมือนความคิดคำนึงที่เขามีต่อผู้หญิงคนนั้น
ทำไมเขาถึงไม่เคยลืมขวัญรักได้เลย...
ทำไมยิ่งจากกัน เขายิ่งคิดถึงเธอจับใจ จดจำใบหน้าและไฝฝ้าทุกจุดของเธอได้ น้ำเสียงอ่อนนุ่ม รอยยิ้มละไมที่ยากจะได้เห็น แววตาร้าวรานยามที่ตัดพ้อเขา และเรือนร่างนุ่มนิ่มมีเสน่ห์เย้ายวนที่เขาโอบกอดอยู่ทุกค่ำคืน
ยิ่งนานวันก็ยิ่งสลักชัดอยู่ในความทรงจำของเขา...
ในใจเขาโหยหา ร่างกายปวดร้าวทุรนทุราย ไม่อาจข่มตาหลับได้ หากไม่ได้นอนบนเตียงของเธอ สัมผัสกลิ่นกายที่ยังหลงเหลือจางๆ บนหมอนของเธอ
ไอศูรย์ยิ้มขื่น...
ไม่เคยคิดเลยคนที่หยิ่งทะนงยึดมั่นในเกียรติของตนอย่างเขา จะมีวันที่ต้องทนทุกข์เพราะความคิดถึง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่เกิดจากการแต่งงานตามพินัยกรรม ไม่มีทางที่จะก่อเกิดความรัก ยิ่งไม่คาดคิดว่าเขาจะมีความรู้สึกผูกพันกับขวัญรักลึกซึ้งถึงเพียงนี้
ที่ผ่านมามีแต่เขาที่เป็นฝ่ายกดขี่ขวัญรัก ทำให้เจ็บช้ำและเสียใจ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด มีแต่เขาที่เฝ้าคิดถึงเธอ เฝ้าหวังเฝ้ารอว่าสักวันจะได้พบเธออีกครั้ง ยอมใช้วิธีต่ำช้าหลอกใช้เนตรกมลเป็นเครื่องมือ เพื่อบีบให้ขวัญรักกลับมา เพราะเขาทนพิษรักแรงคิดถึงที่มีต่อเธอไม่ไหวอีกแล้ว
รู้ทั้งรู้ว่าผิด... รู้ว่าเห็นแก่ตัว...
แต่เขาไม่เสียใจเลย!
น่าเสียใจที่ผลสุดท้ายเขาก็ยังต้องพบกับความผิดหวังอยู่ดี ขวัญรักใจเด็ดมากกว่าที่เขาคิดไว้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็ไม่ยอมปรากฏตัวต่อหน้าเขา ทำราวกับตั้งปณิธานว่าชาตินี้เธอจะไม่มีวันให้เขาเห็นหน้าอีก
ไอศูรย์นิ่วหน้า ในอกปวดแปลบร้าวระบมไปหมด ดูเหมือนเขาจะทระนงตัวมากเกินไป ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ ล่ะ ถ้าขวัญรักสามารถตัดใจจากเขาได้อย่างเด็ดขาด
แล้วเขาล่ะ...
เขาต้องทำอย่างไร?
เขาควร ‘ตัดใจ’ หรือ ‘ดื้อดึง’ ต่อไป?
ไอศูรย์หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เมื่อก่อนเขาไม่สูบบุหรี่ ทว่าตั้งแต่ขวัญรักจากไป เขาก็เริ่มสูบมัน ราวกับว่าสามารถช่วยดับความกระวนกระวายในใจของเขาได้
เขาสูบมันเข้าจนเต็มปอด ก่อนจะพ่นควันออกโขมง ให้กลุ่มควันปกปิดแววตามืดมิดอับจน ถอนหายใจอยู่เงียบๆ ไม่อาจให้คำตอบตัวเองได้เลย...