ไอศูรย์เพ่งพิศมองแผ่นหลังของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งรุ่นราวคราวเดียวกัน แล้วขมวดคิ้ว ทำไมจึงรู้สึกว่าเหมือนจะเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าเมื่อไร จนกระทั่งได้ยินเสียงนิพนธ์เอ่ยทักเขามาแต่ไกล
“อ้าว... นั่นไง ว่าที่ลูกเขยอามาแล้ว”
เขาขมวดคิ้วขึ้นอีก รู้สึกไม่พอใจนิดๆ ที่นิพนธ์เรียกตีสนิทแบบนี้ เขายังไม่ได้แต่งงานกับเนตรกมลเสียหน่อย ยังเร็วเกินไปที่จะนับญาติกัน
“มาๆ เพื่อนเก่ามาทักทายกันหน่อย นุชจรินทร์กับพุฒาแวะมาอวยพรให้น่ะ ไอศูรย์ยังจำพุฒาได้ไหม สมัยเด็กๆ ที่เคยเรียนด้วยกันไง ก่อนที่พุฒาจะย้ายไปอยู่อเมริกา ตอนนี้เขาเป็นผู้บริหารของตระกูลเบรย์เดน”
บริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดอสังหาฯ ที่นิวยอร์ก?
ไอศูรย์เลิกคิ้ว ไม่สนใจจะทำความรู้จักเพื่อนเก่าเพื่อต่อยอดธุรกิจเลยสักนิด แค่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะเคยมีเพื่อนร่วมชั้นชื่อนี้จริงๆ แต่เขาไม่ค่อยสนิท อาจจะทักทายหรือส่งยิ้มให้กันบ้างตอนที่เจอก็เท่านั้น
เขาพยักหน้ารับรู้แบบขอไปที สายตาแทบไม่มองนิพนธ์หรือพุฒาเลยสักนิด แต่เพ่งมองไปยังหญิงสาวหนึ่งเดียว เอ่ยขึ้นกึ่งถามกึ่งเยาะว่า
“ไม่คิดว่านักข่าวอย่างคุณจะมีแก่ใจหิ้วของขวัญติดไม้ติดมือมางานหมั้นของผมด้วย”
นุชจรินทร์กระตุกยิ้ม
“ไม่ใช่ของฉัน”
“งั้นของใคร”
หัวใจเขาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง เขาไม่ได้สนใจสิ่งของในมือนุชจรินทร์แม้แต่น้อย ใจอยากถามมากกว่าว่าแล้วขวัญรักอยู่ที่ไหน ทำไมจนถึงตอนนี้เขายังไม่เห็นเธอเลยล่ะ...
ขวัญรักไม่ได้มากับพวกเขาหรือ?
“ขวัญฝากฉันส่งของขวัญมาอวยพรพวกคุณ”
คำพูดเรียบเฉยของอีกฝ่ายสร้างความผิดหวังให้ไอศูรย์อย่างรุนแรง สีหน้าเคร่งขรึมอยู่แล้วจึงยิ่งมืดครึ้ม เอ่ยเสียงต่ำติดลบอีกหลายองศาว่า
“เอากลับไป ผมไม่ต้องการของขวัญจากคนไม่จริงใจ”
นุชจรินทร์เลิกคิ้ว ไม่มีท่าทีอึดอัดใจสักนิด ผิดกับนิพนธ์ที่ยืนทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าขัดใจว่าที่ลูกเขย แต่ก็เกรงใจเพื่อนของลูกสาว
“ฉันมีหน้าที่แค่ส่งของ จะรับหรือไม่รับก็เรื่องของคุณ”
“อยากให้ผมรับ ก็ให้เพื่อนคุณมาส่งด้วยตัวเอง” เสียงเขาต่ำลงอีกเหมือนพูดลอดไรฟันออกมา
“ขวัญคงไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก” นุชจรินทร์ยิ่งยิ้มยั่ว ก่อนจะหันมาถามคนข้างตัว “จริงไหมพุฒ”
“หมายความว่ายังไง”
ไอศูรย์เบนสายตาคมกริบจับจ้องไปที่พุฒาทันที อีกฝ่ายยิ้มอย่างสุภาพ แต่ไม่ตอบสิ่งใด พอหันไปทางแม่นักข่าวจอมยียวน หล่อนก็ยักไหล่ แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ขณะที่นิพนธ์มีสีหน้าอิหลักอิเหลื่ออย่างเห็นได้ชัด
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ตั้งใจจะเค้นคอถามให้รู้เรื่อง แต่เนตรกมลเดินเข้ามาร่วมวงเสียก่อน หล่อนกุมมือเขา หน้าตายิ้มแย้มเอ่ยกับนุชจรินทร์อย่างมีความสุขว่า
“ขอบใจนะนุชที่อุตส่าห์มาร่วมงาน แล้วขวัญล่ะ”
นุชจรินทร์อยากจะกลอกตา แล้วถามหล่อนกลับว่าอยากให้เมียเก่ามาเห็นภาพบาดตาบาดใจให้ยิ่งเจ็บปวดรึไง
“ไม่มา ไม่ว่าง”
เอาจริงๆ นุชจรินทร์ก็ไม่ได้ทำอย่างที่คิด เพราะเห็นแก่เพื่อน เดี๋ยวขวัญรักจะไม่สบายใจ ถึงหล่อนจะไม่เคยรู้สึกดีกับผู้หญิงคนนี้เลยก็ตาม...
แม้ภายนอกเนตรกมลจะดูเป็นคนดี อบอุ่นและดูจริงใจ ทำให้ผู้ชายชื่นชมหลงใหลในความบริสุทธิ์อ่อนหวานของหล่อน แต่คนดีๆ ที่ไหนจะเอาตัวเข้ามาพัวพันกับสามีคนอื่นอยู่ตลอดเวลา สร้างความร้าวฉานในครอบครัว ซ้ำร้ายสุดท้ายยังกลายเป็นคู่หมั้นแทนคนเก่าเสียเอง
เนตรกมลก็เหมือนกับดอกกุหลาบนั่นแหละ...
แม้จะดูบอบบางและสวยงามเพียงใด แต่ก็ซ่อนหนามแหลมคมที่พร้อมจะทิ่มแทงให้คนเจ็บปวด โดยเฉพาะคนซื่อๆ ไม่เคยระแวงใครอย่างขวัญรัก ยิ่งเนตรกมลแสร้งทำดีห่วงใยขวัญรักมากเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความประทับใจให้เกิดกับไอศูรย์มากเท่านั้น ความเห็นอกเห็นใจจึงถูกเทไปให้หล่อนจนหมด ขณะที่ภาพในใจเขาที่มีต่อขวัญรักก็ยิ่งตกต่ำจนถึงขั้นเบื่อหน่าย
สุดท้าย... ก็เอ่ยปากขอหย่า!
มันเป็นแผนร้ายที่แยบยลมาก ได้ทั้งหัวใจผู้ชายและยังเขี่ยคู่แข่งออกไปให้พ้นทางอีกด้วย ก็สมแล้วที่เนตรกมลจะมีความสุขมากขนาดนี้