“น้ำหวานคงไม่ติดขัดอะไรใช่ไหมที่เพื่อนของพ่อจะมาอยู่ที่นี่สักพัก”
“อ๋อ...ไม่นี่จ๊ะ ก็เขาต้องทำงาน จะได้ไม่ต้องเดินทางไกลข้ามจังหวัดอ่ะค่ะ”
“นึกอีกทีก็ดีเหมือนกันนะ เพราะว่าบ้านหลังนี้เวลาพ่อไม่อยู่จะได้อุ่นใจว่ามีผู้ชายอยู่ด้วย...เห็นน้ำหวานบอกว่าจะออกไปบ้านเพื่อนนี่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ”
“จ้ะ...หวานจะไปบ้านกล้วย”
“แล้วจะกลับมาตอนไหน”
“คงเย็น ๆ กระมังจ๊ะ จะไปช่วยเพื่อนทำขนมอ่ะค่ะ”
“อย่ากลับเย็นมากนะ พ่อเป็นห่วง”
ทวนพูดพลางส่งสายตาวิบวับไปยังลูกเลี้ยงสาวและมันทำให้น้ำหวานเก้อเขินจนหน้าแดงก่ำเลยทีเดียว
บทที่ 5
เช้าวันต่อมาน้ำหวานตื่นมาส่งน้ำอบขึ้นรถตู้ หล่อนเห็นว่าช่างวัยกลางคนทั้งสองที่เข้ามาพักอยู่ในบ้านหลังโรงไม้ก็ตื่นเช้าเช่นเดียวกัน ทั้งสองเดินออกไปที่นาอีกด้านหนึ่งแต่น้หวานก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่ก่อนขึ้นรถตู้นแม่ของหล่อนก็ไม่ลืมหันมากำชับว่า
“แม่คงกลับติดค่ำล่ะวันนี้ ไม่รู้ว่าจะดึกหรือเปล่า ถ้ายังไงตอนเที่ยงน้ำหวานอย่าลืมหาสำรับกับข้าวไปให้ลุงพนากับลุงเสียมด้วยก็แล้วกัน เพราะเขามาอยู่กับเรา แม่เลยต้องช่วยเรื่องกินอยู่ให้เขา”
“จ้ะแม่”
เด็กสาวรับคำแม้ออกจะเบื่อหน่อย ๆ เพราะเมื่อมีคนมาอยู่ที่บ้าน กลายเป็นว่าหล่อนต้องมารับผิดชอบเรื่องที่น่าเบื่อนั่นคือการจัดสำรับกับข้าว เพราะปกติน้ำหวานไม่ชอบทำเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่เมื่อหันไปทางพ่อเลี้ยงหล่อนก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเพราะไม่อยากให้ทวนคิดว่าหล่อนว่าเพื่อนเขาเป็นภาระ พอลูกสาวรับคำอย่างนั้นน้ำอบก็พยักหน้าอย่างสบายใจก่อนขึ้นรถตู้คันใหญ่ และเมื่อแม่ไปแล้วน้ำหวานก็หันกลับไปยังพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่ที่ยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ เขาถามขึ้นว่า
“วันนี้น้ำหวานไม่ไปไหนเหรอจ๊ะ”
น้ำหวานส่ายหน้า “คงไปไหนไม่ได้หรอกพ่อ เพราะแม่สั่งให้ช่วยจัดการเรื่องกับข้าวกับปลาให้ลุงทั้งสองคนอ่ะจ้ะ ถ้ายังไงเดี๋ยวตอนเที่ยงหวานค่อยจัดของกินไปให้ แล้วพ่อไม่ขนไม้อีกเหรอจ๊ะ”
“พ่อขนเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ...อืม...เดี๋ยวว่าจะตัดหญ้าข้างบ้านสักหน่อย อากาศไม่ร้อนมาก กำลังพอดี”
ว่าแล้วทวนก็ถอดเสื้อยืดออกเสียตรงนั้นเผยให้เห็นสัดส่วนกล้ามเนื้อหนั่นแน่นต่อหน้าลูกเลี้ยงสาวที่ยืนมองตาค้าง น้ำหวานเขินหน้าแดงทั้งที่พ่อเลี้ยงก็แค่ถอดเสื้อเท่านั้นแต่หัวใจของหล่อนเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก และท่าทีของเด็กสาวก็อยู่ในสายตาของพ่อเลี้ยงหนุ่มที่จ้องมองด้วยประกายตาวิบวับ เขายิ้มและพุดเสียงต่ำ ๆ เข้ม ๆ ว่า
“อืม...ถ้ายังไงตอนเที่ยงน้ำหวานจัดสำรับกับข้าวไปไว้ที่บ้านพักของพี่พนากับพี่เสียมก็แล้วกันเพราะพ่อก็คงจะไปกินข้างเที่ยงที่นั่น”
“เอ้อ...จ้ะ...เดี๋ยวน้ำหวานจะเอากับข้าวไปให้นะจ๊ะ”
หล่อนรีบพูดแล้วปลีกตัวออกไป ทวนไม่รู้เลยว่าน้ำหวานต้องไปยืนสงบสติอารมณ์คนเดียวในครัวตั้งพักใหญ่เพราะหล่อนเริ่มเกิดความรู้สึกที่ไม่น่าเกิดนั่นคือซาบซ่านและวาบหวิวแปลก ๆ เวลาอยู่ต่อหน้าพ่อเลี้ยงที่ยังหนุ่มแน่นทั้งที่อายุใกล้เลขห้า แถมหุ่นยังฟิตจนทำให้หล่อนใจเต้นไม่เป็นส่ำเวลาเห็นเขาอยู่ในสภาพเปล่าเปลือยถึงแม้ว่าจะแค่ถอดเสื้อก็เถอะ วันนี้หล่อนคงไม่มีเวลาปลีกตัวไปหาเพื่อนสนิทแต่ก็ตั้งใจแล้วว่าจะทำหน้าที่ตามที่แม่สั่งให้เสร็จ ๆ ไป เพราะยิ่งนับวันได้อยู่ใกล้ชิดพ่อเลี้ยงมันยิ่งทำให้หล่อนหวั่นใจ
เขาจะรู้หรือเปล่าว่าลึก ๆ แล้วอยากเห็นเขาแก้ผ้าล่อนจ้อนขนาดไหน และบ่อยครั้งที่หล่อนเก็บทวนไปฝันจนถึงไคลแม็กซ์ เวลาอาบน้ำก้ยังจินตนาการถึงเขา โอ๊ย! นี่หล่อนเป็นบ้าอะไรวะเนี่ยถึงได้เห็นแต่ภาพพ่อเลี้ยงมันวาบเข้ามาในหัวตลอดเวลาอย่างนี้ พอนึกถึงทีหนึ่งใจก็เต้นแถมวาบหวิว เสียวซ่านไปซะอีก น้ำหวานไม่อยากนึกนาน หล่อนรีบจัดการงานในครัวตามคำสั่งของแม่ และพอถึงเวลาเที่ยงที่พนักงานร้านอาหารในเมืองนำกับข้าวมาส่งเด็กสาวก็จัดแจงใส่ถาดอย่างดี วันนี้หล่อนแต่งตัวอย่างปกติธรรมดา นั่นคือสวมเสื้อยืดรัดรูปตัวเล็กกางเกงขาสั้น เด็กสาวถิอถาดใส่กับข้าวกับปลาไปยังบ้านหลังเล็กซึ่งอยู่ริมนา ห่างออกไปจากบ้านหลังใหญ่ไม่ไกล เมื่อไปถึงก็เปิดประตูแต่ไม่เห็นมีใคร ถ้าจะวางถาดกับข้าวไว้ข้างนอกก็กลัวว่าแมวหมาจะมากินเสียก่อน หล่อนจึงจัดแจงนำถาดกับข้าวเข้าไปไว้ด้านใน
ในบ้านหลังนั้นหล่อนไม่ได้เข้ามานานแล้วเพราะไม่มีธุระอะไร แต่เมื่อเข้าไปก้เห็นว่ามันสะอาดสะอ้านดี สงสัยว่าลุงช่างทั้งสองจะช่วยกันปัดกวาดเช็ดถูกระมัง ลำพังหล่อนแทบไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ ในบ้านหลังเล็กมีโต๊ะ เก้าอี้วางอยู่และมีเตียงหนึ่งหลังซึ่งกว้างพอดู ก็ลุงช่างทั้งสองคนตัวใหญ่ขนาดนั้นถ้าจะนอนเตียงเล็กก็คงอึดอัดพอดูล่ะ น้ำหวานเหลียวมองรอบ ๆ และดูความเรียบร้อยของถาดอาหารแต่พอจะหันหลังกลับก็ต้องร้องตกใจเพราะชนกับใครคนหนึ่งที่เข้ามาทางข้างหลังอย่างเงียบเชียบ
“อุ๊ย! ว๊าย! พ่อน่ะเอง”
หล่อนบชนกับหน้าอกของทวนที่เข้ามาทางข้างหลังไม่ให้สุ้มให้เสียงและเกือบล้ม พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่จับแขนทั้งสองของหล่อนเอาไว้แต่ก็ไม่ยอมปล่อยแม้ว่าเด็กสาวจะทรงตัวยืนได้แล้วก็ตาม เขาจับแขนเรียวเล็กและก้มหน้าลงไปใกล้ๆ
“จะรีบไปไหนเหรอจ๊ะ...ลูก”