“รู้สึกแปลก ๆ”

2620 คำ
เสียงรองเท้ากระทบพื้นถนนคอนกรีตดังแผ่วเบาในยามเย็นที่เงียบสงัด ฉันเดินกลับหอพักตามทางเดิมเหมือนทุกวัน แสงไฟจากเสาไฟข้างทางส่องลอดผ่านใบไม้ที่เริ่มไหวเอนเบา ๆ จากลมเย็นของต้นฤดูฝน ปกติหน้าปากซอยจะมีศาลาเล็ก ๆ ตั้งอยู่ข้างจุดจอดวินมอเตอร์ไซค์ บางครั้งก็มีคนงานนั่งพัก บางวันก็ไม่มีใคร…แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน เขานั่งอยู่ตรงนั้น ร่างสูงที่คุ้นตานั่งพิงเสาศาลา เท้าข้างหนึ่งเหยียดออก ส่วนอีกข้างงอขึ้นเล็กน้อย มือสองข้างประสานกันอยู่บนตัก ท่าทางดูสบาย ๆ แต่สายตาที่มองมาทางฉันกลับไม่ใช่สายตาของคนที่แค่ผ่านมา เขาเห็นฉันแน่ ๆ และฉัน…ไม่มีทางเดินเลี่ยง เพราะทางกลับหอของฉันต้องผ่านศาลานั่น และตรงเข้าซอยถัดไปถึงจะถึงที่พัก ใจฉันเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่เพราะตกใจ…แต่เพราะไม่รู้ว่าเขามานั่งตรงนี้ทำไม และต้องการอะไรจากฉันอีก “คิดว่าจะหนีฉันได้หรือไง” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง ฉันได้ยินชัดเจน…แต่เลือกจะเมินเฉย ตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น หวังแค่ว่าจะเดินผ่านตรงนี้ไปให้เร็วที่สุด แต่ยังไม่ทันพ้นศาลา จู่ ๆ แขนฉันก็ถูกกระชากอย่างแรงจากด้านหลัง “โอ๊ย! เป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย!” ฉันหันกลับไปตะคอกใส่เขาอย่างไม่พอใจ พร้อมพยายามสะบัดแขนออก สายตาเขาแน่วแน่ และ…โกรธ โกรธในแบบที่ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม “แล้วเธอบล็อกไลน์ฉันทำไม?” เขาถามเสียงแข็ง แววตาก็จริงจังเกินกว่าจะบอกว่าแค่ถามเล่น ๆ “นี่…อย่าบอกนะ ว่านายมานั่งรอฉันอยู่ตรงนี้ เพราะจะแค่มาถามเรื่องแค่นี้อ่ะ?” ฉันเบะปาก ข่มอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วนในใจ “ใครมารอเธอไม่ทราบ?” เขาสวนกลับแทบจะทันที “ฉันแค่มานั่งพัก แล้วเธอก็เดินผ่านมาเอง” “เชื่อก็ควายละ” ฉันพึมพำเบา ๆ แต่มั่นใจว่าเขาได้ยิน “หึ…ปากดีฉิบหาย” เขาแค่นหัวเราะ ก่อนจะสบตาฉันด้วยสายตาที่ทั้งหงุดหงิดและ…แปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ “นี่…” ฉันถอนหายใจอย่างเหลืออด “ฉันถามจริงนะ นายเป็นอะไรมากหรือเปล่า ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไหนจะเรื่องที่นายเป็นสายรหัสฉันอีก…” ฉันชี้หน้าเขาอย่างเอาเรื่อง “นี่นายตั้งใจจะแกล้งฉันใช่ไหม?” เขายักคิ้วอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่สายตากลับไม่เหมือนเดิม มันเหมือนจะมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่ข้างในนั้น…อะไรบางอย่างที่ฉันยังไม่เข้าใจ “ไม่รู้สิ…” เขาตอบหน้าตาย “หน้าเธอมันเหมือนแม่ฉันมั่ง เลยอยากแกล้ง” “โอ้ยย! ไอบ้า! ปล่อยนะ!” ฉันพยายามสะบัดแขนออก “ฉันต้องรีบกลับห้องไปเตรียมตัวเข้างาน ไม่ได้ว่างเหมือนใครบ้างคน!” “ก็ไปสิ” เขายักไหล่ “ฉันไม่ได้ใส่ปอกคอเธอไว้นี่” ฉันเบิกตากว้าง “ไอ้โรคจิตเอ๊ย!” เขาหัวเราะเบา ๆ กับคำด่าของฉัน ราวกับไม่ได้รู้สึกรู้สากับมันเลยสักนิด แถมยังจ้องหน้าฉันแบบไม่คิดจะหลบสายตา “มองอะไรนักหนา! ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง?” ฉันแว้ดใส่เสียงสูง เขายักคิ้ว “อืม…ไม่เคยเห็นคนสวยที่ปากหมาขนาดนี้มาก่อนน่ะสิ” “นี่….นายย” ฉันพูดพร้อมทำท่าจะต่อยเขา “ถ้าเธอจะใช้หมัดเป็นข้ออ้างในการแตะตัวฉันล่ะก็…ตามสบายเลย” เขาพูดหน้าตาย แต่แววตากลับซ่อนรอยยิ้มกวน ๆ ไว้ชัดเจน “ไอบ้า!” ฉันว่าแล้วก็รีบเดินหนีทันที แต่เสียงเขาก็ยังตามมาด้านหลัง “แล้วจะไปเข้างานแน่เหรอ? ไม่กลัวพี่รหัสอย่างฉันจะตามไปแกล้งอีกเหรอ?” ฉันหันขวับกลับไปทันที “ถ้านายโผล่มา ฉันจะเอาน้ำสาดหน้าให้รู้แล้วรู้รอดเลย!” เขายกมือทำท่ารับน้ำ “ถ้าเป็นน้ำเย็น ๆ ของเธอ…ฉันไม่ถือหรอก” บ้าจริง…หน้าเริ่มร้อนแล้วสิ! “แล้วก็ปลดบล๊อกฉันด้วย” เขาตะโกนบอกฉัน ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อ รีบก้าวเท้าออกจากตรงนั้นด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หัวใจเต้นแรงปนกับความโมโหที่ยังคุกรุ่นในอก “น้อยยยย อีตาบ้านี่… ทำไมต้องมาเล่นกับความรู้สึกของฉันแบบนี้ด้วยวะ!” ฉันสบถในใจอย่างหงุดหงิด แต่พอคิดไปคิดมา… ทำไมเขาถึงได้ทำให้ใจฉันสั่นได้ขนาดนี้นะ? เดินมาถึงหอพัก ฉันถอนหายใจลึก ๆ พยายามรวบรวมสติให้กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง คืนนี้… ฉันต้องเข้างานให้ได้ และไม่ให้เขามาทำให้ฉันว้าวุ่นใจแบบนี้อีก! ……. -ร้านชิวชิว- บรรยากาศผับชิว ๆ ในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยแสงนีออนนุ่มนวลสลัว ๆ ที่ส่องผ่านโคมไฟสีฟ้าและม่วงประดับอยู่ตามผนังและเพดาน ทำให้บรรยากาศดูทันสมัยแต่ไม่ร้อนแรงเกินไป เสียงเพลงแนวลอฟต์ เฮาส์ หรือซาวด์โซลที่มีจังหวะพอดี ๆ คลอเบา ๆ ไม่ดังมากจนเกินไป เพื่อให้คนที่มาได้คุยกันอย่างสบาย ๆ พื้นที่นั่งถูกจัดแบ่งเป็นโซฟาหนังนุ่ม ๆ และเก้าอี้บาร์ที่ตั้งอยู่รอบ ๆ เคาน์เตอร์บาร์ไม้สวยงาม มีแสงไฟสีอบอุ่นตกแต่ง เพิ่มความรู้สึกเป็นกันเอง ผู้คนในร้านมีทั้งกลุ่มเพื่อนที่มานั่งเม้าท์มอย หรือคู่รักที่นั่งซบไหล่กันอย่างหวานชื่น บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ผสมผสานกับจังหวะเพลงอย่างลงตัว ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศพัดผ่าน ทำให้บรรยากาศสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว “อ้าว มาแล้วหรอ มาเร็วอยู่นะเนี่ย!” เสียงพี่มะเหมี่ยวดังขึ้นจากมุมเคาน์เตอร์ ท่ามกลางแสงไฟนวลสลัวที่สะท้อนกับกระจกและโต๊ะไม้ ทำให้ร้านดูอบอุ่นและเป็นกันเอง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอมผสมกับกลิ่นเครื่องดื่มจากบาร์ ลอยคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ “อ่อค่ะ เมื่อวานกลับเร็ว วันนี้เลยรีบมา เกรงใจพี่ ๆ” ฉันตอบพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ พลางจับปลายเสื้อที่ใส่อยู่เล็กน้อย พี่มะเหมี่ยวหรี่ตามองก่อนจะถามขึ้น “แล้วนี่จะใส่ชุดนี้เหรอ?” “อ่อ…แบมยังไม่ได้ไปซื้อชุดใหม่เลย เลยว่าจะขอยืมชุดของร้านไปก่อนช่วงนี้ พี่โอเคไหมคะ?” ฉันพูดเสียงเบา เพราะกลัวจะรบกวนเกินไป “ได้สิ ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวเจ้าคิวก็จะหาชุดใหม่ ๆ มาลงเพิ่มอีก” เธอยิ้มอย่างใจดี ทำให้ความเกร็งของฉันคลายลงทันที “ขอบคุณมากค่ะพี่” ฉันโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ “ไปเตรียมตัวเถอะ วันนี้ไอเกอร์ก็จะเข้าร้านเหมือนกันนะ” เธอพูดปนยิ้มขณะเดินกลับไปยังบาร์ คำว่า “ไอเกอร์” ทำเอาฉันชะงักไปชั่วครู่ อยู่ๆก็รู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างง่ายดาย ท่ามกลางเสียงเพลงช้า ๆ ที่คลออยู่ในร้าน กับแสงไฟสีส้มที่สะท้อนบนผนังไม้ ความรู้สึกตื่นเต้นเริ่มค่อย ๆ ปะทุในใจ ฉันใช้เวลาเปลี่ยนชุดอยู่ไม่นาน วันนี้ฉันเลือกใส่เดรสเกาะอกสีชมพูอ่อน เนื้อผ้าเบา ๆ พริ้วนิด ๆ เวลาขยับเดิน มันดูน่ารักกำลังดี ไม่โป๊เกินไปแต่ก็พอให้รู้สึกมั่นใจ ฉันยืนหน้ากระจกเช็กตัวเองอีกครั้ง ผมถูกปล่อย ให้ดูสบาย ๆ ตามสไตล์ร้าน ก่อนจะหยิบลิปกลอสขึ้นมาทาเบา ๆ เติมความสดใสให้กับลุคคืนนี้ เสียงพี่มะเหมี่ยวตะโกนเข้ามาจากหน้าร้าน “แบม! เสร็จแล้วใช่ไหม โต๊ะเดิมนะ ลูกค้าขอให้แบมไปดูแล!” ฉันรีบตอบกลับไปทันที “อ่อ ได้ค่ะพี่เหมี่ยว!” โต๊ะเดิมงั้นเหรอ… หรือว่าจะเป็นของพี่ไม้อีกแล้ว? ฉันสูดหายใจลึกหนึ่งที พยายามสะกดอาการลังเลไว้ข้างใน แล้วเดินออกจากหลังร้านไปอย่างมั่นใจ พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่แต่งไว้บนริมฝีปาก แม้ในใจจะไม่ค่อยอยากยิ้มเท่าไรนัก แสงไฟสีส้มอมทองส่องกระทบโต๊ะริมกระจก โต๊ะเดิมที่คุ้นตา และแน่นอน เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ ฉันก็เห็นกลุ่มพี่ไม้กับเพื่อน ๆ ของเขานั่งอยู่เต็มโต๊ะ ฉันยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยทักทายอย่างมืออาชีพ “สวัสดีค่ะ พี่ไม้ พี่หนึ่ง พี่นาย พี่ตูน แหม วันนี้หล่อทุกคนเลยนะคะ” ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่ในใจก็รู้สึกฝืนสุด ๆ พี่ไม้เป็นคนตอบกลับก่อนทันที พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประจำตัว “ก็พี่ตั้งใจมาหาน้องแบม พี่ก็อยากดูดีในสายตาน้องแบมไงล่ะ” “เห้ย ๆ เบาได้เบาเว้ยเพื่อน” เสียงพี่หนึ่งแซวทันควัน ทำให้ทั้งโต๊ะหัวเราะกันเบา ๆ ฉันพยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะเอ่ยถาม “ดื่มอะไรกันดีคะ เดี๋ยวแบมชงให้” ฉันถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ พยายามไม่แสดงสีหน้าที่แท้จริงออกไป พี่ตูนยกมือก่อนใคร “วิสกี้โซดาแก้วนึงครับน้องแบม ขอเข้ม ๆ เลยนะ” “เบียร์เหมือนเดิมครับ” พี่นายเสริม “ของพี่อะ ขอเป็น…รอยยิ้มจากน้องแบมก็พอแล้ว” พี่ไม้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งจริง พร้อมสายตาที่มองมาแบบไม่ละไปไหน ฉันยิ้มจาง ๆ ตอบกลับ “งั้นเดี๋ยวแบมจัดให้ค่ะ…ทั้งรอยยิ้มและเครื่องดื่ม” พี่หนึ่งหัวเราะเสียงดัง “ไอ้ไม้ มึงแม่ง โดนเขาตัดบทเฉย” เสียงหัวเราะของพวกเขาดังขึ้นอย่างอารมณ์ดี ขณะที่ฉันหันหลังกลับไปยังเคาน์เตอร์บาร์ แต่ในใจกลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ฉันเริ่มผสมเครื่องดื่มอย่างคล่องมือ แสงไฟวอร์มโทนเหนือศีรษะสะท้อนกับแก้วคริสตัลใส ๆ จนดูเหมือนฉันกำลังอยู่ในฉากหนังสักเรื่อง หนังที่ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอยากอยู่ในนั้นหรือเปล่า “คืนนี้น้องแบมอยู่ดูแลพี่ทั้งคืนเลยนะ” เสียงพี่ไม้ดังขึ้นใกล้มากกว่าที่ควร พร้อมแรงลมเบา ๆ จากลมหายใจเขาที่เฉียดอยู่ข้างแก้มฉัน “พี่เหมาน้องแบมมาแล้วล่ะ เรื่องทิปไม่ต้องห่วง พี่จัดให้เต็มที่เลย” เขาพูดพลางหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะก้มใบหน้าลงมา… หอมดมเบา ๆ ตรงช่วงแขนของฉันโดยไม่ทันให้ฉันตั้งตัว ฉันชะงักมือแทบทำแก้วหล่น กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำหอมของเขาลอยแตะจมูกฉัน แต่ไม่ได้รู้สึกดีเลยสักนิด มันกลับรู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก และ…ถูกล้ำเส้น “พี่ไม้…อย่าทำแบบนี้สิคะ แบมทำงานอยู่นะ” ฉันพยายามพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ในใจจะกำลังเดือดขึ้นมาช้า ๆ เขาเพียงหัวเราะเบา ๆ เหมือนไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิด “โอ๋ ๆ พี่แค่แซวเล่น อย่าคิดมากน้า” ฉันยิ้มบาง ๆ กลบเกลื่อนก่อนจะยื่นแก้วเครื่องดื่มให้เขา “เครื่องดื่มได้แล้วค่ะพี่ไม้ รับรองว่าเข้มข้นสมใจแน่นอนค่ะ” ฉันไม่พูดอะไรอีก พยายามลุกขึ้นเพื่อจะแยกตัวออกไปดูโต๊ะอื่นบ้าง แต่จู่ ๆ ก็มีมือหนาของใครบางคนคว้าข้อมือฉันไว้แน่น ก่อนจะออกแรงกระชากให้ฉันนั่งลงที่เดิม แรงมากพอจะทำให้ฉันเสียหลักเล็กน้อย “จะไปไหนล่ะ หื้ม…” เสียงพี่ไม้ดังข้างหู พร้อมรอยยิ้มที่ไม่ได้น่ารักเลยสักนิด “คืนนี้น้องดูแค่โต๊ะพี่โต๊ะเดียวนะครับ” ฉันฝืนยิ้มออกไป ทั้งที่ในใจเริ่มร้อน ๆ หนาว ๆ “อ่อ…แบมจะขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ เดี๋ยวกลับมาดูแลใหม่ ไม่หนีแน่นอนค่ะ” เขาจ้องหน้าฉันนิ่ง ๆ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ค่อยเชื่อ “จริงเหรอ…งั้นดื่มแก้วนี้ให้พี่ชื่นใจก่อน แล้วพี่จะปล่อยให้น้องแบมไป” ฉันก้มมองแก้วเหล้าในมือเขาที่ถูกยื่นมาตรงหน้า กลิ่นแอลกอฮอล์แรง ๆ ลอยเตะจมูก ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง “เอ่อ…คือ แบมไม่ดื่มกับลูกค้านะคะ ต้องขอโทษจริง ๆ ค่ะ” ฉันพยายามพูดอย่างสุภาพที่สุด แม้ข้างในอยากจะปัดแก้วนั้นทิ้งไป แต่เขากลับยิ้ม รอยยิ้มที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกขังไว้ “แย่จัง…งั้นพี่ก็ไม่ปล่อยเราไปหรอก” ฉันชะงัก ตัวเริ่มเกร็ง รู้สึกถึงแรงกดดันที่มากขึ้นเรื่อย ๆ จากบรรยากาศรอบตัว โต๊ะข้าง ๆ เหมือนไม่มีใครมอง ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันทำอะไรไม่ได้… สุดท้าย ฉันจึงยกแก้วเหล้าใบนั้นขึ้นแตะริมฝีปาก ก่อนจะดื่มมันลงไปจนหมดในรวดเดียว ความขมแล่นผ่านลำคอ พร้อมกับความรู้สึกขมยิ่งกว่าน้ำในแก้วนั่น ฉันวางแก้วลงอย่างนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เสร็จแล้วนะคะ แบมขอไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ เดี๋ยวกลับมาแน่นอนค่ะ” ฉันไม่รอฟังคำตอบด้วยซ้ำ รีบลุกเดินจากโต๊ะนั้นทันที ขาทั้งสองข้างพาเดินเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ในหัวมีแต่คำว่า ออกไปจากตรงนี้เถอะ ระหว่างที่ฉันกำลังเดินผ่านโต๊ะต่าง ๆ เพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ ความรู้สึกแปลก ๆ บางอย่างก็เริ่มไหลเข้ามาในร่างกาย หัวเริ่มมึน ๆ ร้อน ๆ ทั้งที่แค่ดื่มเหล้าไปเพียงแก้วเดียวเท่านั้น ไม่สิ…มันไม่เหมือนเมาธรรมดา หัวใจฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ร่างกายก็เหมือนจะชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งที่แอร์ในร้านเย็นเจี๊ยบ ความรู้สึกหนาวสลับร้อนเล่นงานฉันจนเหมือนจะทรงตัวไม่อยู่ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้น…คือความคิดในหัวฉันที่เริ่มหลุดจากการควบคุม “ฉันอยาก…ใครก็ได้…ช่วยกอดฉันที…” ภาพความใกล้ชิด ร่างกายแนบชิด เสียงกระซิบ…ไหลเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว นี่มันไม่ใช่ฉันเลย… ฉันกัดริมฝีปากแน่น พยายามสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านนั้นออกไป แต่ร่างกายกลับรู้สึกไวต่อทุกสัมผัส ความหวิวในอกขยายวงกว้างเหมือนไฟลามทุ่ง ฉันเร่งฝีเท้า จะต้องเข้าห้องน้ำให้ได้ตอนนี้ ต้องเอาน้ำล้างหน้าสักหน่อย…ต้องหายใจให้โล่ง… แต่ก่อนที่ฉันจะได้เดินพ้นโซนบาร์ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างตัว “แบมแบม” เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยความนิ่งและเรียบเย็น แต่ในตอนนี้กลับเหมือนเชือกเส้นเดียวที่ดึงฉันให้ยืนอยู่กับที่ได้ ฉันหันขวับไปตามเสียงนั้น และสายตาก็สบเข้ากับดวงตาคู่นั้น ไทเกอร์… เขาขมวดคิ้วนิด ๆ มองฉันด้วยแววตาแปลกใจและกังวล “หน้าเธอ…ทำไมแดงขนาดนี้ เป็นอะไรหรือเปล่า?” ฉันพยายามจะตอบ แต่เสียงกลับออกมาแผ่วเบา “ฉัน…ไม่รู้สิ…มันรู้สึกแปลก ๆ เหมือน…จะเป็นลม” หรือว่าในเหล้านั่น…จะมีอะไรบางอย่าง?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม