ตอนคนหนึ่งดื้อคนหนึ่งเฉยชา
สามวันต่อมา
ตลอดสามวันที่ผ่านมาที่เนเบล อาศัยอยู่ที่คอนโดของมาเฟียหนุ่มโดยที่เธอนั้นก็มีเขาช่วยในทุกอย่างไม่ว่าจะอาบน้ำหรือจะไปอยู่ตรงไหนเธอก็จะใช้ความที่เขาทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้มาเป็นข้ออ้างให้ชายหนุ่มอุ้มเธอไปนั่งตรงที่เธอต้องการ
“ เฮียอุ้มเบลหน่อยได้ไหม ” เสียงหวานใสของคนตัวเล็กที่เพิ่งตื่นนอนขึ้นมาเธอไม่รู้ว่าอีกคนหนึ่งนั้นได้นอนหรือเปล่าเพราะว่าตอนที่เธอหลับไปเขาก็ยังทำงานอยู่และตอนนี้ตัวของมาเฟียหนุ่มนั้นก็ยังทำงานอยู่ที่เดิม
” เธอหายแล้วเดินเองได้แล้วเบล “ สามวันที่ผ่านมาทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมันก็เลยทำให้ทั้งคู่เริ่มที่จะสนิทกันมากขึ้น และมาเฟียเขาก็รู้ดีว่าหญิงสาวตัวเล็กนั้นหายดีแล้วเพียงแต่เธอไม่ยอมลุกเดินไปเอง
” ไม่เอาอ่ะยังไม่หายเฮียเป็นคนทำเบล นะเฮียต้องรับผิดชอบสิ “ หญิงสาวตัวเล็กนั่งกอดอกอยู่บนเตียงนอนพูดขึ้นมาด้วยความเอาใจของตัวเองทำให้มาเฟียหนุ่มที่เห็นท่าทางเง้างอนของคนตัวเล็ก เขาก็ต้องถอนหายใจออกมาและก็ดันตัวเองลุกขึ้นจากเก้าอี้โต๊ะทำงานเพื่อที่จะลุกมาอุ้มคนตัวเล็กไปเข้าห้องน้ำในช่วงเช้าเหมือนทุกวัน
” ขอบคุณค่ะ “ เมื่อเธอถูกเขาอุ้มมาวางในห้องน้ำแล้วหญิงสาวตัวเล็กก็ยิ้มให้กับคนที่อุ้มเธอมาอย่างอารมณ์ดีทำให้มาเฟียหนุ่มกดที่จะบ่นให้เธอไม่ได้
” ดื้อ “ จะว่าไปช่วงเวลาสามวันที่เขาและเธออยู่ด้วยกันมีแต่เธอเท่านั้นที่พูดประโยคยืดยาวและพูดมากจนเขาแทบจะรำคาญไม่รู้เธอสรรหาคำพูดมากมายอะไรมาถามเขาแต่เขากลับตอบเพียงเธอมาด้วยถ้อยคำที่สั้นไม่ว่าจะอืมหรืออาฮะเพียงเท่านั้น
” ก็น่าจะเหมาะสมกันดีนะคะคนหนึ่งดีคนหนึ่งเฉยชา “
หญิงสาว ตอบเขากลับมาทันทีเธอยอมรับว่าตัวเองดื้อแต่คนดื้ออย่างเธออยากที่จะเอาชนะคนเฉยชาอย่างเขาและเธอเองก็จะต้องชนะมันให้ได้ด้วยเธอจะทำลายความเฉยชาของเขาให้สิ้นซากไปเลย
” จะอาบน้ำก็อาบอยากกินอะไรจะได้ไปสั่งมาลองซื้อมาให้และก็เดินออกไปเองด้วยนะเพราะว่าฉันรู้ว่าเธอนั้นเดินได้แล้ว “
ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะเดินออกจากห้องน้ำไปเขาไม่ลืมที่จะบอกคำนี้กับคนตัวเล็กเพราะว่าเขาจะกลับไปนั่งทำงานและจะไม่เดินมาอุ้มเธอออกจากห้องน้ำเหมือนในช่วงที่ผ่านมาอย่างแน่นอนก็ในเมื่อเธอหายเป็นปกติแล้วทำไมเขาต้องมาตามอุ้มเธอด้วย
“ แล้วมาดูกันว่าเฮียจะทำอย่างที่พูดได้หรือเปล่า ” หลังจากที่ชายหนุ่มนั้นเดินออกจากห้องน้ำไปแล้ว เนเบล ก็อดที่จะพูดตามหลังมาเฟียหนุ่มไม่ได้ หญิงสาวตัวเล็กใช้เวลาอาบน้ำอยู่นานพอสมควรพอเธออาบน้ำเสร็จ เธอก็เดินเปิดประตูห้องน้ำออกมาและเรียกเขา
“ เฮียอุ้มเบลหน่อยได้ไหม ” เสียงหวานพูดกับคนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงานแต่ครั้งนี้เขากลับไม่เงยขึ้นมามองหน้าเธอจนทำให้เนเบล ต้องเรียกชายหนุ่มอีกครั้ง
“ เฮียขาช่วยอุ้มเบลอีกครั้งได้ไหมนะคะ ” เธอพยายามอ้อนเขาด้วยน้ำเสียงหวานและหวังว่าเขาจะทำตามในสิ่งที่เธอต้องการอีกครั้ง
“ เดินออกมาเองถ้าช้ามาลองไม่อยู่เธอจะอดกินข้าว ” ครั้งนี้ยังไงเขาก็จะไม่เดินไปอุ้มเธออย่างแน่นอน แต่เบสตั้น มีวิธีที่จะทำให้เธอยอมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยตัวของเธอเองได้และคำพูดของเขามันได้ผลเพราะหญิงสาวตัวเล็กเดินออกมาจากห้องน้ำเองและเดินมาหยุดที่หน้าเขาในตอนนี้
“ ใจร้ายเอาโทรศัพท์มาค่ะ ” หากพูดถึงของกินเธอไม่ยอมอดอย่างแน่นอนทำให้หญิงสาวตัวเล็กยอมเดิน ออกมาจากห้องน้ำด้วยตัวเองพอเธอเดินมาหยุดที่หน้าเขามือเล็กก็แบมือขอโทรศัพท์ของเขาในทันที มาเฟียหนุ่มเลยหยิบโทรศัพท์ของตัวเองส่งให้กับหญิงสาว
“ เฮียอยากทานอะไรคะ ” ก่อนที่เธอจะกดข้อความสั่งให้ลูกน้องของเขาซื้ออาหารที่เธออยากกินมาให้เธอก็ไม่ลืมที่จะถามอีกคนที่อยู่กับเธอด้วย
“ กาแฟพอ ” ในช่วงเช้าของทุกวันเขาไม่กินข้าวเช้าอยู่แล้วแต่เบสตั้น จะดื่มเพียงแค่กาแฟเท่านั้นแต่สองสามวันมานี้เขากลับถูกคนตรงหน้าบังคับให้เขากินข้าวเช้ากับเธอ
“ โอเคข้าวต้มหมูนะคะ ”
เธอไม่สนใจในสิ่งที่เขาสั่งแต่เธอกลับพูดอาหารเช้ากับเขาแทนและหญิงสาวก็จัดการสั่งข้าวต้มหมูตามที่เธอพูดมาให้เธอและเขาอีกด้วยแต่ก็ไม่ลืมที่จะสั่งกาแฟให้เขาเพราะรู้อยู่ว่าเขาต้องทานมันในช่วงเช้าแต่ในเมื่อทานกาแฟได้ เขาก็ต้องทานข้าวได้เช่นกัน
แต่ก็เหมือนเดิมอาหารที่คนตัวเล็กสั่งลูกน้องของเขาก็จัดการซื้อมาให้เธอและเธอเองก็บังคับให้เขามานั่งทานข้าวต้มในมื้อนี้กับเธอ
“ ไม่อร่อยหรอคะ ” เธอถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนี้ทั้งที่ตัวเองกำลังตักข้าวต้มเข้าปากแล้วเคี้ยวไปด้วย
“ พอกินได้ ” มาเฟียตอบคนตัวเล็กออกไปโชคดีที่เธอนั้นสั่งเป็นข้าวต้มหากเป็นข้าวธรรมดารับรองว่าเขาคงกลืนไม่ลงอย่างแน่นอนในช่วงเช้าแบบนี้
“ งั้นก็ทานให้หมดนะคะทานอาหารตอนเช้ามีประโยชน์ต่อร่างกายและสมอง ” เธอพูดบอกกับเขาจบคนตัวเล็กก็ตั้งหน้าตั้งตาข้าวต้มที่อยู่ในชามของเธอไปจนกระทั่งหมดชามต่างจากเขาที่ทานได้เพียงแค่ครึ่งเดียว
“ หายดีแล้วอยากกลับคอนโดหรือยัง ”
หลังจากที่เราทานข้าวกันเสร็จแล้วผมก็กลับมานั่งที่โซฟาแต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบ iPad ของตัวเองขึ้นมาเช็คกราฟต่างๆแต่พอเห็นคนตัวเล็ก ที่เพิ่งไปล้างจานเสร็จเดินมานั่งที่ข้างผม ผมก็ถามเธอเพราะว่าเธอนั้นหายดีแล้ว และอีกอย่างอีกสองวันผมก็จะต้องบินกลับอิตาลีแล้วด้วย
“ ไล่หรอคะ ” คนตัวเล็กหันมามองหน้าชายหนุ่มทันที อะไรกันเพราะเธอหายดีแล้วจะไล่เธองั้นหรอ
“ จะว่ายังงั้นก็ได้ ” คำตอบที่เขาตอบเธอ เขาพูดไปเพียงอย่างนั้นหากเธอยังไม่อยากกลับเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ ชิ ไล่ขนาดนี้งั้นกลับก็ได้ค่ะ ” เธอหยุดเรียนมาหลายวันไม่รู้ว่าป่านนี้งานของเธอจะเยอะขนาดไหน และไหนๆ ตอนนี้เธอก็หายเป็นปกติแล้วกลับเลยก็แล้วกัน
“ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวจะไปส่ง ” ชุดที่เธอสวมใส่อยู่เป็นเพียงเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นเท่านั้น ทำให้ผมต้องให้เธอไปเปลี่ยนชุดที่เรียบร้อยกว่านี้ก่อน
“ ค่ะ ” เธอเองก็ไม่กล้าออกไปด้วยชุดแบบนี้เหมือนกันเสียภาพลักษณ์คุณหนูเนเบลหมด
หลังจากที่คนตัวเล็กเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดรสสายเดี่ยวไม่ได้รัดรูปมากนักแต่มันก็พอดีกับตัวของเธอเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินออกมา
“ เสื้อผ้าของเบลให้เอาไว้ที่นี่หรือว่าให้เบลเอากลับไปคะ ” ที่เธอถามเผื่ออีกคนอยากให้เธอมาพักที่นี่อีกไงเธอจะได้มีชุดใส่
“ เอาไว้นี่ ”
มาเฟียหนุ่มตอบอีกคนเพียงเท่านั้นและเขาเองก็เดินไปหยิบกุญแจรถพร้อมกับกระเป๋าสตางค์ของตัวเองใส่กระเป๋ากางเกงทันทีและ เดินออกไป จากห้องนี้โดยมีคนตัวเล็กรีบวิ่งตามเขามา