@ห้องพยาบาล
เสียงกลิ่นยาฆ่าเชื้อยังคงลอยอวลอยู่ในห้องพักผู้ป่วย ผมนั่งเฝ้าเบลล์อยู่นานนับชั่วโมง เธอก็ยังนอนหมดสติอยู่บนเตียงพยาบาล ผมเป็นห่วงเบลล์มาก ตั้งแต่ที่ไม่ได้เจอกันผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ เอาแต่คิดถึงเบลล์ตลอดเวลา อยากจะโทรหาแต่ก็กลัวจะเสียฟอร์ม ผมได้ข่าวว่าเบลล์ไม่สบาย ได้ยินไอ้โรมรับโทรศัพท์ของไอ้คามิน มันโทรมาบอกให้แจ้งลาอาจารย์ให้ แปลว่าตอนนี้คามินอยู่กับเบลล์ ผมเองไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ ถึงคามินจะเป็นเพื่อน แต่สายตาที่มันมองเบลล์มันต่างจากเพื่อนปกติธรรมดาทั่วไป ผู้ชายเหมือนกันทำไมจะดูไม่ออกว่ามันเองก็แอบชอบเบลล์อยู่ แต่ผมยังคงนิ่งเฉยไว้ เพราะรู้ดีว่าคามินมันคงไม่กล้าหักหลังผม เราเป็นเพื่อนกันมานาน มันรู้สถานะของตัวเองดี
"มิน.........." เบลล์เรียกชื่อคามินออกมาทันทีที่รู้สึกตัว ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดมากขึ้น
"ลืมตาขึ้น แล้วมองดูดีๆว่านี่ใคร.."
"คราม ........ เบลล์ทำหน้านิ่ง ก่อนจะเบนสายตาไปมองอีกคนที่ยืนอยู่ปลายเตียง
"ยังดีที่จำผัวตัวเองได้" เสียงของเขาแฝงความเย้ยหยันปนแค้น ตาคมกริบจ้องตรงเข้ามาราวกับจะอ่านใจฉันให้ทะลุ
"หึ...ยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นผัวอีกเหรอ.." เบลล์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนน้ำแข็งยังต้องยอมแพ้ มือที่กำผ้าห่มแน่นเริ่มสั่นคล้ายจะระเบิดออกมาทุกเมื่อ
"ทำไม...หรือไม่จริง...ก็เบลล์เป็นเมียคราม ครามก็ต้องเป็นผัวเบลล์ มันผิดตรงไหน" น้ำเสียงเขานิ่งแต่แฝงความดื้อดึง ราวกับคำพูดของเขามันถูกต้องที่สุดในโลก
"แล้วเมียคนอื่นๆของครามล่ะ...พวกนั้นมันก็คงจะเรียกครามว่าผัวเหมือนกัน
"ถึงครามจะนอนกับใคร แต่คนเดียวที่ครามรักก็คือเบลล์ ครามเป็นผัวเบลล์คนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์มาเรียก " เขาพูดด้วยความจริงจัง ดวงตาฉายแววร้อนแรงเจืออารมณ์ร้าวราน มือของเขากำแน่นข้างลำตัวจนเส้นเลือดปูด
"ถ้าเบลล์ไม่หักหลังครามเรื่องทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้" เสียงของเขาแข็งกระด้างและปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเคืองแค้นทำให้เขาเผลอกล่าวหาโดยไม่คิดให้ดี
"หักหลัง ? เบลล์ขมวดคิ้วด้วยความตกใจ ใจเต้นแรงราวกับเพิ่งโดนผลักตกจากที่สูง
"เบลล์ไปหักหลังครามตอนไหน.." เสียงสั่นสะท้อนอารมณ์โกรธจัดที่พุ่งขึ้นแทบทะลุออกมาจากอก มือของเธอสั่นด้วยแรงอารมณ์ ดวงตาฉันมีน้ำใสๆ คลออยู่ ความเจ็บปวดแล่นปราดเข้ามาทั่วทั้งร่าง แต่ฉันยังพยายามเก็บไว้ไม่ให้มันไหลออกมา
"อย่ามาโยนความผิดให้เบลล์ ถ้าครามอยากจะเอาใครก็ไป แล้วก็เลิกกับเบลล์ซะ
"ไม่...ทำไมต้องเลิก" เสียงของเขาเครือเบา สั่นเหมือนกำลังจะขาดใจ กล้ามเนื้อใบหน้าเขากระตุกน้อยๆ ดวงตาเริ่มแดง
"ทำขนาดนั้น...แล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอ..ไอ้คนเห็นแก่ตัว" ฉันตะโกนลั่นด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดและเกรี้ยวกราด ใจฉันแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ กับคำพูดของเขา
"แล้วทีเบลล์ไปเอากับไอ้ยูโรล่ะ แบบนั้นเรียกว่าเห็นแก่ตัวไหม" คำพูดนั้นเป็นเหมือนฟืนก้อนใหญ่ที่เขาโยนเข้าในกองเพลิง น้ำเสียงเย้ยหยันและหึงหวงที่ผสมผสานกันจนฟังแทบไม่ออก
"เพี๊ยะ....!!
เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังสนั่นในห้องเงียบๆ สายตาของฉันวาวโรจน์ เต็มไปด้วยความเสียใจและโกรธแค้น ขณะที่มือยังสั่นระริกจากแรงอารมณ์
"อย่ามาดูถูกกันนะคราม เบลล์ไม่เคยไปเอากับใคร
สายตาเบลล์ดูโกรธมาก หน้าแดง ตัวสั่นไปหมด เราสองคนจ้องหน้ากันราวกับจะฆ่ากันด้วยสายตา หยดน้ำใสๆ ปริ่มที่หางตาของฉันก่อนจะตัดสินใจรวบผ้าห่มออกจากตัวแล้วลุกพรวดพลาดจากเตียง ก่อนจะวิ่งพรวดออกจากห้องไปทันทีโดยไม่หันกลับมา
บรรยากาศในห้องเงียบลงทันควัน ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามในอกของสงคราม เขานั่งนิ่ง มองจุดที่เบลล์จากไป สายตาไหลล่องด้วยความสับสนและเสียใจ
ผมนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟาในห้องพัก ไฟในห้องเปิดแค่ดวงเดียวแสงสลัว ผสมกับความคิดที่วุ่นวายตีวนไม่หยุด คำพูดของเบลล์ยังวนอยู่ในหัวเหมือนเทปขาดวนซ้ำไปมา ทุกคำ ทุกแววตา ทุกน้ำเสียง...มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเลวที่เธอไม่มีวันให้อภัย นั่งทบทวนคำพูดของเบลล์อยู่นาน ทำไมเบลล์พูดเหมือนตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร ด้วยความกระวนกระวายใจ ผมเลยตัดสินใจไปหาไอ้ยูโร เพื่อถามความจริงจากมัน
รถยนต์ของผมแล่นฝ่าความเงียบจนมาถึงคอนโดของยูโร ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มือกำพวงมาลัยแน่นราวกับพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ระเบิดอารมณ์ออกไป ผมเดินไปเคาะห้องของมัน แล้วไม่นานยูโรก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจนิดๆ
"มึงมาหากูมีอะไร : น้ำเสียงของมันเรียบเฉย แต่แฝงความระวัง
"กูอยากรู้เรื่องมึงกับเบลล์" ผมเอ่ยตรงๆ ดวงตาจ้องสบไม่หลบเหมือนตั้งใจจะค้นหาความจริงในแววตาของมัน
"เรื่องอะไร" ยูโรขมวดคิ้วเล็กน้อย ยืดตัวพิงขอบประตูแบบไม่วางใจ
"เมื่อวันก่อนกูเห็นมึงกับเบลล์เดินขึ้นคอนโดไปด้วยกัน" เสียงของผมเริ่มแข็งขึ้น ทั้งแววตาและท่าทางเหมือนกำลังคุมอารมณ์สุดขีด
"มึงเห็น ?
"ใช่..กูอยากรู้ว่ามึงกับเบลล์เป็นอะไรกัน
"เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
น้ำเสียงของมันมั่นคงและหนักแน่น แต่ไม่มีร่องรอยของความลนลานหรือโกหกเลยสักนิด ผมกับไอ้ยูโรคุยกันอยู่นานก่อนที่ผมจะนั่งเครียดกับตัวเองเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เสียงของมันจริงเกินไป น้ำเสียงของมันสะอาดจนผมต้องยอมรับว่าผมเอง...เข้าใจผิดมาตลอด
ผมฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยตอนกลับมานั่งในรถ สูดลมหายใจลึกแล้วสบถออกมาเบาๆ
"ตายแน่กู....กูจะง้อยังไงดีละทีนี้...ทำไมกูถึงโง่ขนาดนี้วะ
น้ำเสียงของตัวเองที่หลุดออกมานั้นฟังดูสิ้นหวังสิ้นดี ผมรีบขับรถกลับคอนโดของเบลล์ทันที หวังว่าคงจะยังไม่สายเกินไป หากผมจะไปขอโทษและยอมรับผิดทุกอย่างกับเบลล์ รถแล่นเร็วขึ้นกว่าทุกครั้ง มือเหงื่อซึมเต็มพวงมาลัย ตลอดทางไม่มีเสียงเพลง ไม่มีเสียงพูด มีเพียงเสียงหัวใจของผมเองที่เต้นแรงเหมือนจะทะลุอก
ผมมาถึงก็ตรงไปที่ห้องของเบลล์ทันที ยืนอยู่หน้าห้องไม่กล้าเปิดเข้าไป ทั้งที่มีคีย์การ์ดอยู่ในมือ คิดอยู่นานก่อนจะได้ยินเสียงดังมาจากในห้อง เสียง "ตุบๆๆๆ" ดังจากด้านใน รัวถี่เหมือนของบางอย่างหล่น หรือใครกำลังล้ม
"เบลล์....เบลล์ ผมรีบแตะคีย์การ์ดเปิดประตูเข้ามาในห้อง...วิ่งหาเบลล์รอบห้องก็ไม่เจอ จนสักพักเบลล์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน
"เบลล์เป็นอะไรหรือเปล่า...ครามได้ยินเสียงดังออกไปถึงข้างนอก" เธอเดินออกมาช้าๆ ผมเบาใจลงเมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัย ดวงตาเธอแดงช้ำเหมือนเพิ่งร้องไห้
"มาทำไม.." เธอถามเสียงเย็น ดวงตานิ่งราวกับไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
"เบลล์ครามรู้แล้วว่าครามเข้าใจผิด ครามขอโทษ" ผมพูดออกไปทันที ไม่มีแม้แต่คำแก้ตัว
"หึ..เข้าใจผิด... พอรู้ว่าเข้าใจผิดก็รีบมาขอโทษ แล้วที่ผ่านมาล่ะคราม"
"ครามนอกกายเบลล์ ไปเอากับคนอื่น" เธอพูดเสียงสั่น ความเจ็บยังคงชัดเจนในดวงตา
"ไม่..ครามไม่เคยเอาใครเลยนะเบลล์..ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน ครามกับเขาไม่ได้มีอะไรกัน " ผมรีบอธิบาย ดวงตาผมแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้
"แล้ววันนั้นเบลล์ถาม ทำไมครามไม่ตอบ ไม่อธิบายอะไรเลย
"ก็ครามน้อยใจเบลล์ ครามเสียใจมากนะเบลล์ที่เห็นเบลล์ไปกับไอ้ยูโร
"เบลล์ก็เสียใจที่ครามไปกับผู้หญิงคนอื่น
"เบลล์..ครามขอโทษ เบลล์อย่าเลิกกับครามเลยนะ ครามอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเบลล์
ผมคุกเข่าทั้งสองข้างลง มือหน้ากอดเอวเล็กไว้แน่น ใบหน้าของผมฟุบลงบนหน้าท้องของเบลล์ น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาไม่หยุด เมื่อคิดได้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด และเป็นคนทำให้เบลล์เสียใจอย่างหนัก
"อึก..อึก...
"ครามร้องไห้เหรอ ?" เสียงเธออ่อนลง พร้อมก้มลงมองผมที่ยังคงฟุบกับร่างของเธอ
"อย่ามองนะเบลล์..อึกๆ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงอายเจือสั่น มือสั่นเทากอดเธอแน่นขึ้น
"ร้องทำไม หยุดร้องได้แล้ว เบลล์ไม่โกรธแล้ว
เธอย่อตัวลง มือทั้งสองข้างแตะเบาๆ ที่ใบหน้าของผม แล้วค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้ด้วยปลายนิ้วอ่อนโยน เบลล์เอามือทั้งสองข้างมาจับใบหน้าผม แล้วพูดกับผมอย่างอ่อนโยน มือทั้งสองทำหน้าที่เช็ดน้ำตาให้ผม ดวงตาของเธอเปียกชื้นแต่มีรอยยิ้มบางๆ แฝงอยู่ในแววตา
"ทะ..ทำไมเบลล์ถึง..ไม่โกรธครามแล้ว
"เบลล์ไม่อยากทะเลาะ ถ้าครามสำนึกผิดจริงๆ เบลล์ก็พร้อมให้อภัย แต่คราวหลังมีอะไรต้องถาม เข้าใจไหม
"ครับ...ขอบคุณนะเบลล์
ผมกับเบลล์เรานั่งเปิดอกคุยกันทุกเรื่อง จนเราพูดคุยกันเสร็จจึงล้มตัวลงนอน
"ครามคิดถึงเบลล์มากเลยรู้ไหม สงครามนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง มือหนากอดไหล่ฉันเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ลูบผมฉันไปมา
"เบลล์ก็คิดถึงคราม
"แล้วไม่สบายหายหรือยัง
"ยังปวดหัวนิดหน่อย
"ไหนขอคุณหมอครามดูหน่อยซิ
สงครามจับฉันให้นอนราบลงไปกับเตียง ก่อนจะใช้ปากหนาจูบไปตามส่วนต่างๆของร่างกายฉัน แสงไฟสลัวสะท้อนเรือนร่างที่โอบกอดกันแนบแน่น...ท่ามกลางความรักที่กำลังเยียวยาหัวใจที่เคยแตกสลาย
"คราม...เบลล์ไม่สบายอยู่นะ
"นี่ไง ครามกำลังจะฉีดยาให้
"เข็มฉีดยามันไม่ได้ใช้มาตั้ง 2 วัน คืนนี้อาจจะฉีดหลายเข็มอยู่นะ
"คราม !!!! อื้อ...